เลขาเพื่อไทย เปิดบทสนทนา วัน-อิ๊งค์ ก่อนนำมาสู่การไขก๊อก

ที่อาคารรัฐสภา นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวัน อยู่บำรุง แจ้งขอลาออกจากกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีสาธารณสุข เพื่อแสดงความรับผิดชอบ กรณีมีภาพไปร่วมติดตามผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ที่บ้านพักของ พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ว่า เหตุผลที่ใช้ในการลาออกฟังดูแล้วค่อนข้างรุนแรง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เชิญนายวัน มาพูดคุย ถึงเรื่องดังกล่าว ถือเป็นสิ่งที่คนที่เป็นหัวหน้าต้องตัดสินใจในการปกครองคนและองค์กร นายวันต้องเข้าใจเหตุผลของนางสาวแพทองธาร ที่ต้องตำหนิ 

“จริงๆแล้ว ไม่ได้ตำหนิรุนแรง เป็นการพูดตรงไปตรงมา นายวันก็เป็นคนพูดเอง ขอโทษท่านหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้วยว่า คิดน้อยไปหน่อย แต่ผมและพวกเราทุกคน รู้ว่าครอบครัวอยู่บำรุง กับท่านคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง สนิทกันมาก เราทราบดีว่าตลอดการหาเสียง ที่ผ่านมาครอบครัวอยู่บำรุงไม่ได้ออกมาเชียร์ หรือทำอะไรที่เกินเลยในฐานะที่อยู่กับพรรคเพื่อไทย เราทราบ แต่ด้วยไทม์มิ่ง เวลาที่ท่านวันไปอยู่บ้านท่านคำรณวิทย์ ในสื่อท่านยังชนะอยู่ ในทางคะแนนดิบที่พวกเรารวมกันมา มั่นใจว่าทางสายคุณชาญ พวงเพ็ชร์ ชนะ แต่ชนะไม่เยอะ ท่านวัน มาชี้แจงคือรู้แล้วว่าแพ้เลยไปให้ กำลังใจในฐานะคนรู้จักกัน เรารู้ว่าการปรากฏตัวของท่านวันไม่ได้เปลี่ยนแปลงคะแนนอะไร ทางพรรคทราบ แต่ด้วยภาพที่ออกมาแล้ว การเป็นองค์กรใดก็ต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง“นายสรวงศ์กล่าว
 

ถามว่าถ้านายวันไม่ลาออกทางพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจอย่างไร นายสรวงศ์ กล่าวว่าเมื่อวานนี้(9ก.ค.)หัวหน้าพรรค เปิดโอกาสให้นายวันเป็นคนพูดเอง พร้อมเล่าบทสนทนาระหว่างน.ส.แพทองธารกับนายวันว่า “พี่ก็ต้องหาทางออกให้อิ๊งค์ด้วย ไม่งั้นอิ๊งค์ ก็ปกครองคนไม่ได้”  แล้วสิ่งที่นายวัน กล่าวขึ้นมาคือ “ ผมขออนุญาตลาออกเอง” แต่เช้าวันนี้พอเห็น โพสต์ของนายวัน รู้สึกตกใจ และมองว่าน่าจะเป็นเรื่องอื่นมากกว่า ที่จะพูดถึงประเด็นนี้ 
   
ถามว่าการตัดสินใจลาออกของนายวัน อ้างว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่พอใจ ถือเป็นคำอ้างหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ถ้าจะบอกว่าหัวหน้าพรรคไม่พอใจ ก็ต้องบอกว่า ไม่พอใจจริงๆ ในฐานะที่เป็น ผู้นำองค์กร ถ้าปล่อยให้ทำเช่นนี้ จะเสียกระบวนการ แต่ขอรับประกันได้ว่าการปฎิบัติของหัวหน้าพรรค กับนายวันทุกอย่างเป็นไปด้วยความนอบน้อมไม่มีอะไรรุนแรง ขอยืนยันอีกครั้งว่า เป็นความประสงค์ของนายวันที่ตัดสินใจลาออก
 

ถามว่ากรณีที่เกิดขึ้นถือ เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูเพื่อปรามคนอื่นในพรรคหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ความจริงแล้วในพรรคก็มีคนถูกเรียกมาต่อว่า หรือลงโทษ บ่อยและเยอะด้วย เวลาที่ทำอะไร ไม่ถูกต้องซึ่งหัวหน้าพรรคพูดเสมอว่า มีอะไรที่ติดขัดก็ขอให้มาบอก เพราะหัวหน้าพรรค อยากจะรู้ความเป็นมาในพรรคทุกเรื่อง ขอเรียนด้วยความสัตย์จริงว่า การปกครององค์กรต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง การตัดสินใจอาจจะถูกใจคนใดคนหนึ่งบาง อาจจะผิดหรือไม่พอใจบ้างก็ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ในนามของเลขาธิการพรรคขอรับอาสาที่เป็นคนเชื่อม ระหว่างครอบครัวอยู่บำรุง กับพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาพร้อมที่จะช่วยกัน
   
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นจะถึงขั้นแตกหักระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับตระกูลอยู่บำรุงหรือไม่เนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นบิดานายวัน ท้าให้ขับออกจากพรรค ว่า เพิ่งเจอกับร.ต.อ.เฉลิม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เรียนว่าขอให้ใจเย็นๆ และค่อยๆพูดจากัน ทุกอย่างมีทางออก เราอยู่ด้วยกันมานาน ร.ต.อ.เฉลิม เป็นบุคคลที่คนในพรรคให้ความเคารพนับถือ เหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น คงเป็นธรรมดาของคนที่ไม่ค่อยได้พูดคุยกันเท่าไหร่ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ค่อยได้ไปที่พรรคเพื่อไทย
  อย่างไรก็ตามตนรับหน้าที่เป็นคนช่วยพูดคุย ทำความเข้าใจ กับหัวหน้าพรรค ก็บอกว่าถ้ามีโอกาส จะไปทำความเข้าใจกับร.ต.อ.เฉลิม ด้วยเช่นกัน 
   
ส่วนจะถึงขั้นขับร.ต.อ.เฉลิม ออกจากพรรค หรือไม่นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ถึงขั้นขับ เพราะการจะขับออกจากพรรคต้องเป็นเรื่องที่เจ้าตัวทำอะไรร้ายแรง ซึ่งต้องเป็นไปตามข้อบังคับ ดังนั้นต้องแยกกันให้ออก ระหว่างนายวัน และ ร.ต.อ.เฉลิม ก็เป็นคนละคนกัน แม้จะเป็นพ่อลูกกัน แต่ก็จะต้องแยกถึงสิ่งที่กระทำ และขอยืนยันว่าการตัดสินใจลาออก เป็นความประสงค์ของนายวัน 
   
กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยลดบทบาทของตระกูลอยู่บำรุงหรือไม่ จึงมีอาการน้อยใจ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการลดบทบาทอะไร พวกเราทุกคนยังเคารพนับถือร.ต.อ.เฉลิม เหมือนเดิม และนายวัน ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี และเท่าที่ทราบเหมือนจะมีการโยกย้าย กระทรวงให้นายวันอยู่แล้วแต่เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นเสียก่อน ซึ่งไม่ทราบว่าจะเป็นแบบนี้
  
นายสรวงศ์ กล่าวในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรค และถือเป็นลูกหลาน ร.ต.อ.เฉลิม ด้วยจะรีบพูดคุยทำความเข้าใจกับทางครอบครัวอยู่บำรุง ไม่ให้มีการเข้าใจผิดซึ่งคิดว่าน่าจะเคลียร์ได้ เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม มีเหตุผลเชื่อว่าจะรับฟัง
  
เมื่อถามว่าหลังเกิดเรื่องนางสาวแพทองธาร ว่าอย่างไรบ้าง นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไร ล่าสุดยังคงประชุมเรื่องการจัดการภายในพรรคกันอยู่ เห็นว่าความจริงแล้ว ในความเป็นผู้นำพรรค และผู้นำองค์กรถึงเวลาก็เมื่อถึงเวลาก็ต้องตัดสินใจอะไรสักอย่าง เพื่อประคองภาพรวมเอาไว้ไม่เช่นนั้นก็จะมีการทำเช่นนี้ แล้วไม่ถูกตำหนิก็ไม่ถูกต้อง