ชวน หลีกภัย กรีดเดชอิศม์ ขาวทอง เคยอยู่เพื่อไทยจุดยืนต่างกันแต่ต้น

นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี16สส.โหวตสวนมติพรรคให้ความเห็นชอบนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566 มีการประชุมสส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตนตีรถมาจากจังหวัดตรังตั้งแต่ 04.00น. เพื่อให้ทันการประชุม เพราะไม่อยากลงมติขัดต่อมติพรรค ตามที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ ว่าใครที่ขัดมติพรรคจะต้องลาออก ซึ่งก็ไม่อยากลาออก
 

บรรยากาศเมื่อวันที่ 21ส.ค.2566 เป็นไปด้วยดี และพลตำรวจตรีสุรินทร์ ปาลาเล่ บอกกับที่ประชุมว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้ร่วมรัฐบาลจึงต้องลงมติไม่รับ นายเศรษฐาซึ่งมีบางคนพูดในที่ประชุมว่าอยากเป็นรัฐบาลืแต่ไม่เป็นประเด็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรค จึงพูดกับที่ประชุมว่าเมื่อมีรัฐบาลต้องมีฝ่ายค้าน ดังนั้น เมื่อเราไม่ได้ไปรัฐบาลก็ต้องเป็นฝ่ายค้านจึงขออนุญาตที่ประชุม ส่วนตัวคนเดียวขอลงมติไม่รับ โดยให้เหตุผลว่าตนสู้กับพรรคการเมืองเหล่านี้ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยจนมาพรรคเพื่อไทย เนื่องจากปัญหาทุกเรื่องปฏิบัติของภาคใต้ และจังหวัดที่ไม่เลือกพรรคเหล่านั้น เหมือนที่เคยได้ยินว่าจะพัฒนาจังหวัดที่เลือกพรรคไทยรักไทยก่อนจังหวัดอื่นไว้ที่หลัง ซึ่งเป็นผลกระทบมาก

ผมต่อสู้เรื่องนี้พร้อมทั้งขอร้องประชาชนอย่าเลือกพรรคที่แกล้งเรา และชาวบ้านก็ปฏิบัติตามที่ผมแนะนำ คือไม่เลือกพรรคเพื่อไทยมาหลายสมัย จะเห็นได้ว่าไม่ได้สส.ใต้เลย3สมัยเป็นผลมาจากการหาเสียงของเรา ดังนั้นหากเราทำสิ่งใดที่เป็นการสนับสนุนพรรคนี้ก็เหมือนกับเราทรยศคนใต้ พร้อมยืนยันว่าในวันประชุมพรรคมีมติให้งดออกเสียง และไม่มีคน Walk Out แต่ที่ออกจากที่ประชุมก่อนเพราะต้องไปร่วมงานศพของนายเพชร โอสถานุเคราะห์ เนื่องจากคุณพ่อเป็นสส. ร่วมรุ่นกัน

ส่วนข้อกล่าวหาว่าเป็นพรรคอะไหล่ของรัฐบาล เกียรติและศักดิ์ศรีของปชป. นั้น นายชวน ระบุว่า หัวหน้าพรรคได้ออกมาชี้แจงดีแล้วว่าเราไม่ใช่พรรคอะไหล่ แต่สำหรับพฤติกรรมคนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องยอมรับว่าปชป.เป็นทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านมาแล้ว ส่วนที่ถูกมองว่าหาผลประโยชน์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งปชป.ก็เป็นพรรคที่ประชาชนหวังเพิ่ง แม้ว่าในระยะหลังจะได้คะแนนเสียงน้อยมาก เคยแพ้มากที่สุดครั้งหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าไม่เคยได้อย่างนี้ 25 เสียง ซึ่งเราไม่โทษกัน กรรมการบริหารพรรคชุดนี้ก็เป็นชุดที่เราเลือกมา ต้องมาทบทวนว่าเราจะฟื้นพรรคได้อย่างไร และเป็นความหวังดีของพรรคที่เห็นว่าเราไม่ควรไปร่วมรัฐบาล ตนไม่อยากให้พรรคของเราได้รับผลกระทบทั้งเกียรติภูมิและชื่อเสียง

" เป็นพรรคอะไหล่นี่มัน อืม คิดดูแล้วกัน คนในพรรคที่เป็นกำลังสำคัญทั่วประเทศจะรู้สึกอย่างไรต้องขอบคุณหัวหน้าพรรคที่ออกมาชี้แจงดีแล้ว ประกาศให้รู้ว่าไม่ได้เป็นพรรคอะไหล่ ส่วนพฤติกรรมของคนจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีกฎเกณฑ์กติกาของพรรคอยู่ " 

ส่วนข้อเสนอให้ขับ 16 สส. เสียงส่วนใหญ่ออกจากพรรคนั้น นายชวน มองว่าเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคที่จะต้องตรวจสอบต่อไป ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบชี้แจงเรื่องนี้และต้องรอดูต่อไป ว่าผู้ที่ลงมติจะชี้แจงอย่างไร 

ส่วนรอยร้าวระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ 2 กลุ่ม 2 ขั้ว นายชวน ย้ำว่าไม่มีขั้วเพราะเลือกกรรมการชุดนี้มา ซึ่งเป็นเรื่องของแนวทางที่เราอยากให้ เดินการเมืองอย่างสุจริต ที่พรรคอยู่มาได้ 77 ปี ไม่ได้อยู่เพราะโกงเก่ง ที่ผู้คนศรัทธาได้เพราะเรามีความซื่อตรง ไม่โคตรโกงและไม่โกงทั้งโคตร ยึดหลักความถูกต้องชอบธรรมมันก็อยู่มาได้ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของพรรคที่อยากให้รักษาไว้ต่อไป 

ส่วนสิ่งจะฝากถึงสส.ที่เป็นรัฐบาลบอกว่าไม่ผิดอะไรความอยากเป็นรัฐบาลไม่ผิดอะไรเพียงแต่กระบวนการไปร่วมรัฐบาลต้องผ่านการประชุม สส.และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีผ่านเข้ามาได้ถามหัวหน้าพรรคว่ามีใครไปเจรจาขอร่วมรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่าไม่มี 

ทั้งนี้นายชวนยังชี้แจงว่าตอนพรรคก้าวไกล ปชป.งดออกเสียงเพราะพรรคแกนนำไม่เคยประกาศว่าไม่เอาพรรคปชป. แต่ตอนนี้ นายเศรษฐาประกาศด้วยตนเองว่าไม่มีปชป. เราคิดว่าเขาเองก็ไม่ได้อยากได้ปชป. และเราก็มีเสียงแค่นี้ 25 เสียง ควรมาตั้งหลักและฟื้น ต้องยอมรับว่าตอนที่เราสู้กับพรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ ชินวัตร นายเดชอิศม์อยู่ในพรรคนั้น ตอนที่เราเรียกร้องความเป็นธรรมว่า คนภาคใต้ถูกกลั่นแกล้ง ฉะนั้นความคิดจึงต่างกันตั้งแต่ต้น เราสู้เพื่อขอความเป็นธรรมให้ภาคใต้ที่ถูกเลือกปฏิบัติจึงขอทำหน้าที่ ไม่ทรยศต่อคนภาคใต้ 

ส่วนปชป.จะมีโอกาสร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น นายชวนระบุว่า ในอนาคตไม่แน่ ตนไม่ทราบ แต่ปัจจุบันไม่มี หากมติกกรรมการบริหารพรรคและสส. อยากไปร่วมในตอนนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ขณะนี้คงไม่มี 

นายชวน ยังเปิดเผยว่าได้ถามในที่ประชุมกรณีกระแสข่าวที่นายเดชอิศม์ เดินทางไปพบกับนายทักษิณที่ฮ่องกงว่าจริงหรือไม่ ซึ่งนายเดชอิศม์ ยอมรับว่าไปฮ่องกงจริงแต่ไม่ได้เดินทางไปพบนายทักษิณ แต่เมื่อนายทักษิณทราบว่า นายเดชอิศม์ ไปฮ่องกงจึงเรียกไปพบซึ่งนายอิศม์ ยืนยันว่าไม่ได้ไปเพื่อเจรจาร่วมรัฐบาล

ทั้งนี้เมื่อถามว่าพรรคยังไม่แตกใช่หรือไม่ นายชวน ตอบกลับว่ามันเหลือเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ไม่เป็นไรมีกี่คนผมก็อยู่เว้นแต่ตนถูกขับ อยู่มา 17 สมัย ไม่ใช่ใครทำได้ทุกคน ในการจะชนะด้วยระบบเลือกตั้ง ท่ามกลางการเมืองที่ผันผวน และอิทธิพลนอกรูปแบบ