คดีอดีตลูกน้องบุกยิงผู้กว้างขวางนครศรีฯ ปมขัดแย้งสวนปาล์มแปลงใหม่

ความคืบหน้าคดีอดีตลูกน้องยิงนายตรัยภพ เงินเหลี่ยม หรือ “นายหัวเคลื้อม” อายุ 75 ปี ผู้กว้างขวางเมืองนครศรีธรรมราช เหตุเกิดกลางสวนปาล์มน้ำมันหมู่ 9 ต.แหลม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 ก.พ.65 ญาติได้นำศพนายตรัยภพไปเก็บไว้ที่ห้องนิติเวช รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อรอการผ่าหัวกระสุนชันสูตรศพ ในวันที่28 ก.พ.65 นอกจากคนร้ายยิงผู้ตายรอจนแน่ชัดว่าเสียชีวิตแล้วได้โทรศัพท์ไปบอกทีมงานว่า“ ผมทำงานสำเร็จแล้ว“ก่อนที่จะไปมอบตัวกับตำรวจ

สาเหตุญาติคาดว่าน่าจะเป็นชนวนการฆ่าโหด ก่อนหน้านี้ประมาณปี 2558 คนร้ายเคยทำงานในสวนปาล์มและลานเทปาล์มของผู้ตายและเป็นลูกน้องที่ผู้ตายรักมากได้ช่วยเหลือครอบครัวซื้อที่ดินสวนปาล์มให้ทำมาหากินไว้ใจในการให้ไปเก็บเงินในธุรกิจอื่นๆหลายอย่าง แต่ช่วงหลังส่งเงินให้ผู้ตายไม่ครบบ่อยครั้งทำให้ผู้ตายโกรธและได้ดุด่าต่อว่าอย่างหนัก

จนกระทั่งขัดแย้งกันผู้ตายได้ให้หยุดทำงานและไล่ออก มีการขู่อาฆาตมาดร้ายกันและในเดียวกันคนร้ายได้ถูกคนมาลอบยิงที่บ้านแต่อาศัยแอบในท่อระบายน้ำหน้าบ้านจึงรอดมาได้โดยช่วงที่คนร้ายโดนตามมายิงเมียเป็นคนใช้ปืนยิงตอบโต้กับคนที่มาบุกมายิงด้วย และจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้คนร้ายเข้าใจว่านายเคลื้อมคือคนที่สั่งฆ่าตัวเอง จึงประกาศว่าหากนายเคลื้อมเข้าในพื้นที่ อ.หัวไทรจะยิงให้ตาย ซึ่งนายเคลื้อมผู้ตายเองก็รับรู้เรื่องนี้และระวังตัวไม่เดินทางเข้าไปเป็นระยะเวลานาน

แต่เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมามีคนติดต่อผู้ตายเพื่อให้ซื้อที่ดินสวนปาล์มจำนวน 7 ไร่ซึ่งอยู่ติดกับสวนปาล์มเดิมจุดที่ผู้ตายถูกยิงเสียชีวิต ผู้ตายจึงซื้อและมีการเข้าไปดำเนินการในส่วนปาล์ม จนคนร้ายได้เข้าไปก่อเหตุซึ่งที่ดิน 7 ไร่นี้เป็นที่ดินที่มีปัญหาเนื่องจากมีคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปบุกรุกและสร้างบ้านอยู่อาศัย ทางเจ้าของที่ขับไล่ก็ไม่ยอมออกเจ้าของที่จึงขายให้นายเคลื้อมเพื่อตัดปัญหาเนื่องจากเห็นว่ามีสวนปาล์มติดกัน โดยญาติคาดว่าประเด็นนี้น่าจะเกี่ยวโยงกับการที่คนร้ายบุกเข้ามายิงโดยไม่ได้ทำคนเดียวแต่เป็นการร่วมกันหลายคนเนื่องจากผู้ที่บุกรุกสวนปาล์มที่นายเคลื้อมซื้อใหม่นั้นมีความสนิทกับนายเกศียรฯ มือปืน และเมื่อก่อเหตุเสร็จก็โทรบอกทีมงานว่า ทำงานสำเร็จแล้ว

ส่วนของคดีความเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนนางอมรรัตน์ เงินเลี่ยม หรือ สท.แอน บุตรสาวผู้ตายโดยบอกว่าจะเร่งดำเนินการเพื่อนำตัวคนร้ายฝากขังศาลต่อไป สำหรับคนร้ายมีประวัติค่อนข้างเหี้ยมโหดเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งแต่รอดการจับกุมไปได้ทุกครั้ง