สัปเหร่อพระ!"หลวงพี่ตู่"สวมชุด PPE เผาศพทารกติดโควิด
กาญจนบุรี-พาดู"หลวงพี่ตู่"พระหนุ่มสวมชุด PPE ทำหน้าที่สัปเหร่อเผาศพทารกน้อยตายในครรภ์ หลังแม่ตั้งท้องใกล้คลอดติดเชื้อโควิด
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. นายเจษฎา ประทีป เจ้าหน้าที่ทีม Scot กาญจนบุรี มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ พนักงานฉุกเฉินการแพทย์ (EMT) ได้นำคลิปและภาพนิ่ง พร้อมข้อความบรรยายมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะนำศพทารกไม่ทราบเพศมาทำการเผาที่เมรุวัดเทวสังฆาราม (พระอารามหลวง) หรือ วัดเหนือ ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยมี พระสมุห์วิโรจน์หรือ หลวงพี่ตู่ เลขานุการพระกิตติสุวัฒนาภรณ์(เจ้าคุณเพิ่ม) เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆาราม รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้ดำเนินการให้ทั้งหมด
ทั้งนี้ นายเจษฎา บรรยายว่า “ลุงไม่รู้นะว่านู๋เป็นหญิง หรือผู้ชาย ลูกลุงพานู๋มาส่งได้ไกลเท่านี้ละ #ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้โรคโควิดนี้มันแพร่ระบาด นู๋คงได้ออกมาเห็นอะไรอีกตั้งมากมาย 9 เดือนแล้วนะ (36 สัปดาห์) คงจะน่าเกลียดเลยละมั้ง ลุงขอให้นู๋ไปเกิดในภพภูมิที่ดีนะลูก นะ
ด้วยอนุโมทนาบุญหลวงพ่อวัดเฑวสังฆาราม (วัดเหนือ) และหลวงพี่ตู่ ได้เป็นผู้พานู๋ส่งต่อไปอีก การส่งนู๋ #ทางวัดเขาไม่คิดค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้นเลยนะลูก #หดหู่เลยนู๋เป็นผู้ป่วยติดเชื้อที่อายุน้อยที่สุดที่ลุงรับส่ง และ #นู๋ก็เป็นผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุด #โควิดเป็นเหตุ #หลวงพี่ตู่”
สำหรับ คลิปที่นำมาโพสต์ เป็นคลิปที่หลวงพี่ตู่กำลังสวมใส่ชุด PPE เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด ขณะทำการเผาร่างของหนูน้อยรายดังกล่าว ซึ่งนายนายเจษฎาได้สอบถามว่า “ทำไมหลวงพี่ต้องดำเนินการเอง” หลวงพี่ตู่ได้ตอบว่า “สัปเหร่อที่วัดยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย”
นายเจษฎา ถามต่ออีกว่า “ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด หลวงพี่ได้ดำเนินการเผาไปแล้วกี่ราย” หลวงพี่ตู่ตอบว่า “รายนี้เป็นรายที่ 8 แล้ว ที่จริงเราเผามาตั้งแต่เริ่มเกิดสถานการณ์ครั้งแรกแล้ว แต่ว่าช่วงแรกเราปิดข่าวเนื่องจากกลัวญาติโยมจะไม่สบายใจ หลวงพ่อก็บอกให้เผาแบบเงียบๆ จึงเผามาเรื่อยๆ แต่มาช่วงหลัง สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้มีบัญชาให้เผา น่าจะเผาได้ประมาณรายที่ 4-6 ที่พระสังฆราชมีบัญชาออกมาให้ทางวัดเหนืออนุเคราะห์ให้เผาศพผู้ติดเชื้อโควิด สำหรับการเผาส่วนใหญ่จะเผาในช่วงเย็น เนื่องจากเวลาดังกล่าวนั้นไม่ค่อยมีคน แต่มีศพรายที่ 5 ที่เผาในเวลาสามทุ่ม”
นายเจษฎา ถามว่า “แล้วชุด PPE ได้มาอย่างไร” หลวงพี่ตู่ ตอบว่า “หลวงพี่ได้ประสานไปยัง สจ.ปิยะ สาระศาลิน ให้ช่วยจัดซื้อมาให้ แต่ที่ได้มามันไม่ครบชุดแต่ก็ไม่เป็นอะไรเอาแค่พอประมาณ เพราะตัวของศพไม่ได้มีอันตรายมากนัก เพราะส่วนใหญ่มันจะติดเชื้อจากทางลมหายใจและจากสารคัดหลั่งของศพ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ทำการแพ็คร่างของศพมาเป็นอย่างดี ดังนั้นสารคัดหลั่งก็คงจะไม่ติด ส่วนทางลมหายใจนั้นไม่ทำให้ติดเชื้ออย่างแน่นอน เพราะว่าศพไม่ได้หายใจแล้ว”
นายเจษฎา ถามว่า “ทำไมจึงต้องใส่ชุด PPE เพื่อป้องกัน” หลวงพี่ตู่กล่าวว่า “เป็นเพราะว่าระหว่างเผาร่างเราต้องเปิดประตูเมรุเพื่อทำการพลิกศพในช่วงความร้อนที่ 600 องศาแรก จะมีควันไฟจากการเผาศพพุ่งออกมา ซึ่งจะมีกลิ่นที่เหม็นเพราะมันมีน้ำยาที่ถูกอัดมากับศพ แต่เชื้อโควิดมันตายไปตั้งแต่ความร้อนที่ 65 องศาแรกแล้ว แต่เราเผาอยู่ที่ความร้อนสูงถึง 900 องศา ถ้าหากความร้อนสูงถึง 900 องศายังติดเชื้อโควิดอีก ก็คงจะต้องยอม” หลวงพี่ตู่ เผย
นายเจษฎา เปิดเผยว่า แม่ของทารกที่เสียชีวิตเป็นชาวกัมพูชา แต่มามีครอบครัวอยู่ที่ ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยคเกิดโชคร้ายมาติดโควิด-19 ขณะตั้งต้องได้ประมาณ 36 สัปดาห์ หรือ 9 เดือน อีกไม่นานก็จะคลอดลืมตามาดูโลกแล้ว แต่แม่ของทารกติดโควิดเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลไทรโยค ระหว่างนั้นทารกได้เสียชีวิตในครรภ์ ทางคณะแพทย์จึงตัดสินใจฉีดยาเพื่อเร่งให้คลอดเพื่อรักษาชีวิตของแม่เอาไว้ จนกระทั่งวันที่ 9 ส.ค.ที่ทารกจึงคลอดออกมา
จากนั้นทางโรงพยาบาลได้ประสานให้นำศพของทารกไปเผาที่วัด แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่า สัปเหร่อไม่อยู่ จึงประสานไปยังวัดเทวสังฆาราม ก็ได้รับความอนุเคราะห์จาก พระกิตติสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาส โดยมอบหมายให้หลวงพี่ตู่ เป็นผู้ดำเนินการเผาให้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด สำหรับถุงที่เห็นในภาพ จำนวน 2 ถุง เป็นถุงของศพและถุงบรรจุกรกของเด็ก


