ครอบครัวน้องชมพู่เปิดตัวทีมทนายความสู้คดีมั่นใจหลักฐานตำรวจ

นางสาวสาวิตรี วงศ์ศรีชา และนายอนามัย วงศ์ศรีชา พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม รวมถึงนายวินัย ชุมสวัสดิ์ ทนายความ แถลงข่าวเปิดตัวทนายของครอบครัวของน้องชมพู่ โดยวันนี้นายวินัย ถือเป็นหัวหน้าทีมทนายความสู้คดีของน้องชมพู่ / ส่วนนายอัจฉริยะ เป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบอำนาจจากพ่อและแม่ของน้องชมพู่ เป็นผู้จัดหาทนายความให้ทางครอบครัว โดยนายวินัย ชุมสวัสดิ์ ถือเป็นทีมทนายที่จะทำหน้าที่เป็นโจทย์ร่วมกับพนักงานอัยการของคดีน้องชมพู่ ซึ่งก็จะมีทนายความช่วยเหลืออีก 3 คน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยตัว เพราะยังไม่ถึงเวลา การทำงานของทีมทนายแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 2 คนแรก จะเป็นทีมทนายความทำคดีของน้องชมพู่ และอีก 2 คน ทำหน้าที่ปกป้องสิทธิของพ่อและแม่ของน้องชมพู่ ซึ่งจะดำเนินคดีกับผู้ให้ร้ายหรือกล่าวหาพ่อและแม่ของน้องชมพู่ ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะในคดีนี้ และเชื่อมั่นในหลักฐานต่างๆของทีมตำรวจของพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันการสู้คดีไม่มีค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้นายอัจฉริยะ ยังบอกอีกว่า ตนทำงานช่วยเหลือมามากกว่า 9 ปี ซึ่งในส่วนของคดีน้องชมพู่ตนได้ลงพื้นที่มามากกว่า 7 เดือน ต้นเชื่อมั่นในการทำงานของชุดสืบสวนสอบสวน ซึ่งถือว่าทีมพระกาฬ อีกทั้งต้นยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องที่นายสิระ เจนจาคะ จะเดินทางมาหาแม่ของน้องชมพู่ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ ตนในฐานะที่ดูแลครอบครัวของน้องชมพู่ อยากฝากขอบคุณคุณสิระ แต่ขอไม่อนุญาตไม่ให้มาพบ เพราะไม่อยากให้คดีนี้เกี่ยวกับทางการเมืองโดยตนไม่ได้อยากฝากอะไรถึงทนายความของอีกฝ่าย แต่ฝากถึงความผิดเพี้ยนของสังคมที่เห็นผู้ต้องหากลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ ทั้งทางที่ตำรวจมีพยานหลักฐานเด็ดอยู่ในมือและมีผู้สูญเสียของเหตุการณ์นี้

ส่วนเรื่องคดีบุกรุกป่าไม้ ความคืบหน้าล่าสุดภายในสิ้นเดือนนี้ จะนำสำนวนไปสั่งฟ้อง ซึ่งจะมีผู้ต้องหา 3 ราย คือ ยูทูปเบอร์ 2 ราย และตัวหลักอีก 1 ราย

ขณะที่นายวินัย ชุมสวัสดิ์ หัวหน้าทีมทนายความชุดนี้ เปิดเผยว่า ไม่ได้มีความกังวลใจเรื่องอะไร แต่อยากจะชี้แจงเรื่องอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยครอบครัวของน้องชมพู่ เรื่องนี้ฮีโร่ที่แท้จริงคือตำรวจและผู้เชี่ยวชาญที่วิเคราะห์หลักฐานต่างๆ รวมถึงพนักงานอัยการที่รับเรื่องส่งฟ้อง / ส่วนต้นก็ได้เข้ามาให้กำลังใจและปรึกษาเรื่องของทางด้านกฎหมาย ยืนยันเรื่องนี้ไม่ได้เป็นศึกของทนาย เพราะความจริงเรื่องนี้ คือ ความสูญเสียของครอบครัวน้องชมพู่ 

ส่วนสถิติที่ทนายความอีกฝ่ายเอาออกมาชี้แจงให้เห็น เรื่องนี้ต้องดูก่อนว่าเป็นความจริงหรือไม่ ยังไม่ขอออกความเห็น / ซึ่งตนก็ไม่ได้กังวลเรื่องการหาจุดอ่อนของหลักฐานต่างๆ เพราะเชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจนและหลายอย่าง แต่ไม่สามารถที่จะเอามาเปิดเผยได้และไม่มีวันเปิดเผยออกมา

ขณะที่เรื่องการยื่นเพิกถอนประกันตัวลุงพลนั้น เธอเป็นเรื่องการปล่อยตัวชั่วคราวไปที่ศาลจะให้ความเป็นธรรมในชั้นต้น

หลังจากนั้นพ่อและแม่ของน้องชมพู่ได้นำดอกไม้มอบให้กับทีมทนายความและนายอัจฉริยะ เพื่อแสดงความขอบคุณหลังยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและมีอุ๊บ วิริยะ หรือนายวิริยะ พงษ์อาจหาญ นักปั้นดาราและนักร้องซึ่งเดิมเคยอยู่ฝั่งเดียวกับลุงพล-ป้าแต๋น เดินทางมาให้กำลังใจด้วย