สธ.แจงปรับแผนกระจายวัคซีนโควิดตามสถานการณ์ระบาด
สธ.แจงสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิดเปลี่ยนแปลงทำให้จำเป็นต้องปรับแผนการกระจายวัคซีน ยืนยันทุกคนจะได้รับวัคซีนแน่นอน
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวชี้แจง กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์หลังจากหลายโรงพยาบาลเลื่อนนัดการรับวัคซีนโควิด -19 ของแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 ออกไป ว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด -19 ที่มีการเปลี่ยนแปลงทำให้จำเป็นต้องมีการปรับแผนกระจายวัคซีนโควิด -19 เพื่อให้ฉีดแก่ประชาชนมากขึ้นและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด
"แผนการกระจายวัคซีนสามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด เช่นขณะนี้มีการระบาดในเพชรบุรี นนทบุรี เพิ่มมากขึ้น จึงต้องมีการปรับการกระจายวัคซีน ไม่ว่าจะปรับแผนการกระจายวัคซีนอย่างไร ประชาชนจะได้รับการฉีดวัคซีนทุกคนตามความสมัครใจ"นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าว
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า การฉีดวัคซีนโควิดแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 ที่มีการขยายเวลาการรับ ได้มีการประกาศไปก่อนหน้านี้แล้วว่า สามารถรับเข็มที่ 2 ได้ยาวถึง 16 สัปดาห์ จากเดิม 10 สัปดาห์ ซึ่งได้เลื่อนทั้งหมดให้เป็นล็อตเดียวกัน คือตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ที่จะมีการฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ เข็มที่ 1 จะเป็นเดือนมิถุนายน หลังจากนั้นเข็มที่ 2 จะเป็นเดือนตุลาคม 64 ตรงนี้มีข้อมูลวิชาการรองรับ ว่า ภูมิคุ้มกันจะขึ้นสูงขึ้นได้เร็ว
"กระทรวงสาธารณสุขได้หารือกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนมาอย่างต่อเนื่องทางแอสตร้าเซนเนก้าทราบถึงแผนการฉีดวัคซีนของประเทศไทย และจะจัดส่งวัคซีนให้ได้ตามแผนคือมิถุนายนนี้ตามที่ได้ตกลงกัน อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังมีวัคซีนซิโนแวค กำลังตรวจรับรองรุ่นการผลิต 2.5 ล้านโดส และมิถุนายนนี้จะสั่งเข้ามาอีก 3 ล้านโดสเพื่อนำมาใช้ควบคู่กัน"นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าว
ด้าน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แผนการฉีดวัคซีนในกลุ่มบุคคลทั่วไป ที่จะเริ่มในเดือนมิ.ย.64 จะใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นหลักตามที่มีวัคซีนเข้ามา ส่วนวัคซีนซิโนแวคเป็นส่วนเสริม ที่เริ่มมีการฉีดตั้งแต่เดือนมี.ค.64 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบการบริหารจัดการ และติดตามข้อมูลข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลักเพื่อลดความสับสนในเรื่องดังกล่าว และขอให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามา ซึ่งผ่านการตรวจสอบคุณภาพและประสิทธิภาพตามมาตรฐานทางสาธารณสุขก่อนนำมาฉีดให้กับประชาชน


