"บิ๊กต่อ"โผล่มอบนโยบายตำรวจรถไฟ-ทางหลวง เน้นงานบริการลดความขัดแย้งชาวบ้าน
"พล.ต.ท.ต่อศักดิ์"กลับมาแล้วหลังหายไปนานกำชับตำรวจรถไฟ-ทางหลวงเน้นงานบริการ ลดความขัดแย้งกับชาวบ้าน ยืนยันบก.รฟ.ยังคงต้องมี เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูง
เมื่อวันที่ 4 มี.ค.64 พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) เดินทางตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจ ส.รฟ.หัวหิน กก.3 บก.รฟ. และสถานีตำรวจทางหลวงวังมะนาว จ.เพชรบุรี โดยมีพล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. พ.ต.อ.กฤษฎาพร ปานโปร่ง ผกก.3 บก.รฟ. ร่วมรับฟังคำชี้แจงการปฏิบัติหน้าที่
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า การตรวจเยี่มมหน่วยครั้งนี้เพื่อกำชับให้ตำรวจรถไฟเน้นการบริการประชาชน ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อดูแลความปลอดภัย ทั้งเหตุอาชญากรรมและอื่น ๆ ด้วย ส่วนกรณีจะมีการยุบหน่วย ตนมองว่าตำรวจรถไฟน่าจะยังคงต้องมีไว้ เพราะในอนาคตจะต้องมีไว้รองรับกับรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งจากประเทศจีนไปจนถึงประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะต้องมีปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติตามมาเช่น การขนของเถื่อน อาวุธเถื่อน หรือยาเสพติด หากไม่มีตำรวจคอยดูแลความเรียบร้อยบนขบวนก็จะเกิดช่องว่างให้กลุ่มคนร้ายได้ ถึงแม้ว่าจะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยของเอกชนเข้ามาดูแลก็ตาม
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อถึงในส่วนของตำรวจทางหลวงนั้น ตนก็ได้กำชับในเรื่องงานบริการเช่นเดียวกัน เพื่อลดปัญหาระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย โดยให้ความสำคัญไปที่เรื่องใบสั่งออนไลน์ จะไม่มีการปรับเงินตามหน้าด่านต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อลดการทุจริตของเจ้าหน้าที่ไปด้วย ส่วนการตั้งกล้องเพื่อตรวจจับความเร็ว ก็จะให้ไปตั้งตามจุดที่ล่อแหลมที่จะเกิดอันตราย เช่นทางโค้งต่างๆเพื่อให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วและระมัดระวังมากขึ้น เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุอีกทางหนึ่งด้วย “จุดประสงค์ของการตั้งกล้องจับความเร็วของตำรวจนั้นไม่ได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องจำนวนค่าปรับ แต่เป็นเรื่องของการลดอุบัติเหตุและป้องกันความสูญเสียของผู้ใช้รถใช้ถนนเสียมากกว่า” ผบช.ก. กล่าว พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกด้วยว่า สำหรับเรื่องอัตตราความเร็วของยานพาหนะในอนาคตอาจต้องมีการหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อกำหนดอัตราความเร็วใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ออกมานานแล้ว
ผู้ข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ข่าวคราวพล.ต.ท.ต่อศักดิ์หายไปจากโลกโซเชียล หลังเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ "Torsak sukvimol" ปิดตัวลงไม่ทราบสาเหตุ กระทั่งมอบหมายให้พ.ต.ท.เอกศิษฏ์ โตอดิเทพย์ ปฏิบัติราชการสำนักงาน รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(รอง ผบช.ก.) ไปแจ้งความกองปราบปรามกับผู้ที่โพสต์ข้อความหมิ่นประมาท
นอกจากนี้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายถึงการแต่งตั้งตำรวจ จนก่อให้เกิดระบบอุปถัมภ์และการใช้เส้นสายและพาดพิงพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ด้วย


