เปิดรายงานการสอบสวนน้องดาวสาว18ดับปริศนาหน้าบ้านเพื่อนชาย

พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้ทำบันทึกถึงสื่อมวลชน แจ้งความคืบหน้า คดีการเสียชีวิตของ น้องดาว หรือ นางสาวณัตินี เหลืองต้นตระกูล หรือ น้องดาว อายุ 18 ปี เหตุเกิดที่หน้าบ้านเพื่อนชาย บ้านเลขที่ 14 หมู่ 4 ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรีว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 63 เวลาประมาณ 20.00 น. นายภาคิน หรือเต๋า จันทร์เยี่ยม กับนายณัฐพงศ์ หรือ ธี อนุเครือ ได้ขับรถยนต์ ทะเบียน กน – 6656 กาญจนบุรี ไปรับ น.ส.เกรซ หรือ น.ส.บีม ที่บ้านโกรกตารอด ต.หนองตากยา จว.กาญจนบุรี

จากนั้นจึงไปรับ น.ส.ณัตินี หรือน้องดาว ที่บ้านเลขที่ 33 ม.3 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จว.กาญจนบุรี และมานั่งดื่มสุราร่วมกับ นายพงษ์พัฒน์ หรือพัฒน์ นักเพียร ที่บ้านของนายณัฐพงศ์ หรือธี เลขที่ 38/8 ม.4 ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง จว.กาญจนบุรี จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.30 น.ของวันที่ 17 มิ.ย.63 นายพงษ์พัฒน์ได้พาน้องดาว หรือน.ส.ณัตินีใช้รถจักรยานยนต์ ทะเบียน 1 กค-3787 กาญจนบุรี ไปที่บ้านเลขที่ 14 ม.4 ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง จว.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นายพงษ์พัฒน์ และนอนในบ้านหลังดังกล่าว

ต่อมา นายพงษ์พัฒน์ก็กลับไปนอนบ้านของตนเองซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุ จนกระทั่งเวลา 06.00 น. นายพงษ์พัฒน์ หรือพัฒน์ ก็กลับมาดู น.ส.ณัตินี หรือดาว ที่บ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง พบว่า น.ส.ณัตินี หรือดาว เนื้อตัวแข็งและเย็น จึงได้ทำการปั๊มหัวใจ จนเลือดออกจมูกและได้อุ้ม น.ส.ณัตินี หรือดาว มานอนที่โต๊ะหน้าบ้านจนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. ยายของ นายพงษ์พัฒน์ได้แจ้งกับผู้ใหญ่บ้านว่ามีคนเสียชีวิตที่หน้าบ้านตนเอง ผู้ใหญ่บ้านจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวนทราบ

สภ.ท่าม่วง ได้ดำเนินการเกี่ยวกับคดีดังนี้

1.ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพ และร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ทำการตรวจที่เกิดเหตุบริเวณบ้ารนเลขที่ 14 หมู่ 4 ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง จว.กาญจนบุรี 2.สอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องในที่เกิดเหตุทั้งหมด 3.ยึดรถยนต์ ยี่ห้อ มาสด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กน – 6656 กาญจนบุรี และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น wave 110i สีขาว – ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กค – 3787 กาญจนบุรี 4.รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เช่น ขวดเหล้า, โต๊ะเก้าอี้, เสื้อผ้า, รองเท้าของผู้เสียชีวิต, หมอน, ขวดน้ำ เสื้อที่ใช้เช็ดเลือดผู้ตาย และชุดที่ผู้ตายสวมใส่อยู่ เพื่อตรวจพิสูจน์

พยานหลักฐานต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ได้ส่งไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อตรวจพิสูจน์ทราบ ดังนี้ 1.สาเหตุการตาย 2.ตรวจหาสารเสพติด 3.ตรวจร่องรอยการมีเพศสัมพันธ์ ผลการตรวจพิสูจน์ดังกล่าว ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์

พล.ต.ต.วรณัน เปิดเผยว่า ได้เร่งรัดให้ชุดสืบสวนดำเนินการหาหลักฐานเพิ่มให้ได้มากที่สุด โดยสั่งการให้ชุดสืบสวน ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี ร่วมกับ สภ.ท่าม่วง เร่งหาหลักฐานเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ เช่น กล้องวงจรปิด ถุงยางอนามัย และอื่นๆ โดยเฉพาะกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการใช้ยาเสพติดให้สืบสวนให้ได้รายละเอียดมากกว่านี้ ขณะนี้ได้รายละเอียดเพิ่มเติมมาบางส่วนแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอผลการพิสูจน์การเสียชีวิตของ น้องดาว จากพิสูจน์หลักฐาน และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ออกมาก่อน เนื่องจากพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต และญาติ รวมถึงประชาชนได้จับตาดูคดีนี้อยู่

นายมานพ เหลืองต้นตระกูล อายุ 49 ปี พ่อของน้องดาว กล่าวว่า ขอบคุณที่สื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงเสนอข่าวจนหน่วยงานของรัฐลงมาดูแลคดีนี้ รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาสอบถามเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน พร้อมให้เบอร์ติดต่อหากคดีไม่คืบหน้า นอกจากนี้ตำรวจภาค 7 ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้เร่งสืบสวนเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตของ น้องดาว อย่างต่อเนื่อง

นายมานพ กล่าวยืนยันว่า น้องดาวไม่ได้ออกไปเอง แต่มีรถเก๋งสีดำเข้ามารับที่บ้าน ซึ่งมีคนเห็น ส่วนข่าวที่ออกไปทำให้คนเป็นพ่อเป็นแม่สะเทือนใจมาก ขออย่าปล่อยข่าวแบบนี้ ตนเองเป็นฝ่ายสูญเสียมันต้องมีการชดใช้ ฝ่ายทางบ้านที่น้องดาวไปเสียชีวิตก็มีติดต่อมา แต่ตอนนั้นเรายังไม่พร้อม แต่หากมีการติดต่อกลับมาอีกเราก็พร้อมจะพูดคุยและเจรจาด้วย และที่ตนเคยพูดไว้ว่าหากการเสียชีวิตของน้องดาวไม่กระจ่างจะไม่มีการเผาศพน้องดาว ตนมาคิดดูแล้วว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ประกอบกับครอบครัวไม่ได้มีเงินมากนัก จึงตัดสินใจทำการฌาปนกิจไปเมื่อวันก่อน ส่วนคดีค่อยว่ากัน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครมาพูดคุยในเรื่องของคดี

สำหรับตนเองมีลูกเพียง 2 คน น้องดาวเป็นคนโต และมีน้องชายอายุ 13 ปี ทั้งสองคนจะอยู่ด้วยกันนอนด้วยกัน แต่เวลานี้น้องชายต้องมานอนกับพ่อแม่ แต่เขายังเล็กยังไม่ค่อยรู้อะไรมากนัก ครอบครัวตนเองอยู่แบบเพื่อน จึงไม่ได้ไปเข้มงวดกับลูกมากนัก และยังย้ำทิ้งท้ายว่าตอนนี้ยังมืดมนไม่รู้ว่าผลการพิสูจน์จะออกมาอย่างไร แต่ถ้าอีกฝ่ายเข้ามาก็พร้อมจะพูดคุย แต่อย่าไปปล่อยข่าวทำให้ลูกตนที่เสียชีวิตไปแล้วเสียหาย ตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่ทราบอะไรมากนัก รวมถึงลูกจะไปไหน กลับเมื่อไหร่ เขาจะโทรมาบอกให้ทราบเท่านั้น