ก.แรงานห้ามนายจ้างใช้สิทธิปิดงาน-ลูกจ้างใช้สิทธิหยุดงานช่วงพรก.คุมโควิด-19
ก.แรงงานให้ข้อพิพาทที่ไกล่เกลี่ยไม่ได้ข้อยุติเข้ากลไกไตรภาคี ครส.ตัดสินชี้ขาด ระบุเป็นผลของประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อธิบดีกรมสวัสดิ์ฯเผยมี 12 กรณีที่เข้าข่ายใช้กลไกไตรภาคีชี้ขาด
นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยถึงการออกประกาศกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 8 พค.เรื่องข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้เข้าสู่การชี้ขาดของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์(ครส.)ภายในระยะเวลา 60 วัน และห้ามนายจ้างปิดงานหรือหรือลูกจ้าง นัดหยุดงานในระหว่างประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ ได้กำหนดให้นายจ้างมีสิทธิปิดงานและลูกจ้างมีสิทธินัดหยุดงานหากมีข้อพิพาทแรงงานที่ไม่สามารถตกลงกันได้ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และไม่เป็นไปตามมาตรการการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวอีกว่าการห้ามปิดงาน หยุดงานนี้เป็นกรณีข้อพิพาทตามพรบ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 จึงเป็นคนละเรื่อง ไม่เกี่ยวกับกับการหยุดงาน หยุดกิจการเพราะเหตุจำเป็นตามมาตรา 75 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน หรือหยุดงานเนื่องจากผลกระทบโควิด
ทั้งนี้เมื่อมีการประกาศดังกล่าว กรณีที่มีการปิดงานหรือนัดหยุดงานอยู่ก่อนหน้านี้ มีผลให้นายจ้าง ลูกจ้างต้องปฎิบัติตาม โดยยุติการปิดงาน หยุดงาน หากไม่ปฏิบัติตามมีโทษปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือจำ 2 ปี
ข้อมูลกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ระบุถึงสถานการณ์ด้านแรงงานระหว่าง ตค.62-15 พค. 63 ระบุว่า มีลูกจ้าง สหภาพแรงงานมีการยื่นข้อเรียกร้องต่อนายจ้าง สถานประกอบการขอเปลี่ยนสภาพการจ้าง 377 แห่ง เกี่ยวข้องกับลูกจ้าง 2.8 แสนคน โดยเป็นการยื่นข้อเรียกร้องที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจา 65 แห่ง และเป็นข้อพิพาทที่ตกลงกันไม่ได้ 68 แห่ง ที่อยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ยของเจ้าหน้าที่ โดยลูกจ้างเกี่ยวข้อง 6.8 หมื่นคน ทั้งนี้มีกรณีที่แจ้งเป็นข้อพิพาท แต่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยหาข้อยุติได้ 10 แห่ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้องกว่า 3000 คน และมีการใช้สิทธินัดหยุดงานแล้ว 2 แห่ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้องกับลูกจ้าง 95 คนที่ส่วนใหญ่เป็นกรรมการ สมาชิกสหภาพแรงงาน
อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่ากรณีที่มีการแจ้งเป็นข้อพิพาทที่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยหาข้อยุติได้ 10 แห่ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้องกว่า 3000 คนเป็นสถานประกอบการที่อยู่ใน กรุงเทพ 2 แห่งเป็นกิจการอาหาร บริการการวิจัย สมุทรปราการ เป็นกิจการสิ่งทอและชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ชลบุรี2 แห่งเป็นกิจการผลิตเครื่องปรับอากาศและกิจการชิ้นส่วนยานยนต์ ระยอง1 แห่ง เป็นกิจการประกอบเครนและอยุธยา 2 แห่ง กิจการชิ้นส่วนพลาสติกและกิจการผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม
ทั้งนี้ข้อเรียกร้องที่ได้มีการจดเป็นสภาพการจ้างที่ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง 340 แห่ง มูลค่า2.5 หมื่นล้านบาท
ภาพประกอบเนื้อหาข่าว