ขนส่งฯเตือนพวกหัวหมอ ลอบใช้อุปกรณ์ตัดสัญญาณ GPS หนีวิ่งเร็ว ผิดทั้งผู้ขายผู้ใช้
กรมการขนส่งทางบก เดินหน้า มาตรการตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ช่วง 5 วัน พบใช้ความเร็วเกินกำหนด 23,003 คัน สั่งห้ามใช้อุปกรณ์รบกวนหรือตัดสัญญาณ GPS พบเอาผิดทั้งคนขับ-เจ้าของรถ
กรมการขนส่งทางบก เดินหน้าตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ช่วง 5 วัน พบใช้ความเร็วเกินกำหนด 23,003 คัน สั่งห้ามใช้อุปกรณ์รบกวนหรือตัดสัญญาณ GPS พบเอาผิดทั้งคนขับ-เจ้าของรถ
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อให้การเดินทางบนท้องถนนช่วงเทศกาลปีใหม่มีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งในระหว่างนี้ที่ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับถึงภูมิลำเนาแล้ว และอยู่ระหว่างการเฉลิมฉลอง วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และวันที่ 1 มกราคม 2563 กรมการขนส่งทางบกขอให้ขับขี่ทุกราย ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากการเมาแล้วขับ ขณะที่พฤติกรรมการขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในอันดับต้นๆ กรมการขนส่งทางบก มีมาตรการตรวจสอบการใช้ความเร็วบนท้องถนน ด้วยการตั้งจุด“ตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ 17 จังหวัด จำนวน 18 จุด”
รวมถึงตรวจการใช้อุปกรณ์หรือเครื่องรบกวนสัญญาณหรือตัดสัญญาณ GPS ซึ่งตรวจพบรถที่ติดตั้งการใช้อุปกรณ์หรือเครื่องรบกวนสัญญาณหรือตัดสัญญาณ GPS จำนวน 2 คัน ด้วย ที่จุดตรวจจังหวัดชัยนาท จึงได้ดำเนินการสั่งพ่นห้ามใช้ทันที
ทั้งนี้ฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการขนส่งหรือผู้ขับรถบางรายที่หลบเลี่ยงการส่งข้อมูลการใช้รถโดยใช้อุปกรณ์หรือเครื่องรบกวนสัญญาณหรือตัดสัญญาณ GPS ทำให้ข้อมูล พิกัด ตำแหน่งเคลื่อนที่ของรถไม่สามารถส่งข้อมูลมายังศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS การกระทำดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมายทั้งผู้ขายและผู้ใช้ ผู้ขับรถมีความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง ไม่ใช้เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถตามที่กฎหมายกำหนด ตามมาตรา 102 (4) ประกอบมาตรา 127 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522
ส่วนผู้ประกอบการขนส่งมีความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง ไม่จัดทำรายงานข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการขนส่งและไม่ควบคุมกำกับดูแลให้ผู้ขับรถใช้เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถตามที่กฎหมายกำหนด ตามมาตรา 36 ประกอบกับมาตรา 131 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 และอาจพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
สำหรับผลการดำเนินการติดตามตรวจสอบการเดินรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกด้วยระบบ GPS Tracking ผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ระหว่างวันที่ 26- 30 ธันวาคม 2562 ตรวจรถทั้งหมดจำนวน 427,255 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกำหนดจำนวน 22,510 คัน โดยศูนย์ฯ GPS แต่ละจังหวัด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจการขนส่งทางบก ลงพื้นที่ตรวจสอบและยับยั้งพฤติกรรมเสี่ยง พร้อมประสานผู้ประกอบการและผู้ขับรถให้รับทราบปัญหาและหามาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาวอย่างยั่งยืน แต่หากเป็นการกระทำผิดซ้ำซากพิจารณาลงโทษตามกฎหมายขั้นสูงสุดต่อไป
นอกจากนี้ยังได้จัดหน่วยเคลื่อนที่ตรวจสอบการใช้ความเร็วของรถตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ด้วยกล้องเลเซอร์บนถนนสายหลักและสายรองที่มุ่งหน้าออกจากกรุงเทพมหานคร ผลการดำเนินการเฉพาะวันที่ 26- 30 ธันวาคม 2562 ตรวจสอบความเร็วรถโดยสารและรถบรรทุกจำนวน 20,461 คัน มีรถที่ขับเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จำนวน 493 คัน เร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดให้เข้ามารายงานตัวเพื่อชำระค่าปรับตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท พร้อมบันทึกประวัติไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะเพื่อตรวจสอบและป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำ


