ดีเอสไอ มั่นใจปิดคดีฆาตกรรม"บิลลี่"ใน 3 เดือน
อธิบดีดีเอสไอ มั่นใจปิดคดีฆาตกรรม”บิลลี่”ภายใน 3 เดือน ส่ง"กรวัชร์ "ลงพื้นที่ให้กำลังใจ”ลูก-เมียบิลลี่” 5 ก.ย. พบความเคลื่อนไหวในพื้นที่จัดกลุ่มคนนำอัฐิลอยอังคาร หวังทำลายความน่าเชื่อถือสำนวนการสอบสวน
อธิบดีดีเอสไอ มั่นใจปิดคดีฆาตกรรม”บิลลี่”ภายใน 3 เดือน ส่ง"กรวัชร์ "ลงพื้นที่ให้กำลังใจ”ลูก-เมียบิลลี่” 5 ก.ย. พบความเคลื่อนไหวในพื้นที่จัดกลุ่มคนนำอัฐิลอยอังคาร หวังทำลายความน่าเชื่อถือสำนวนการสอบสวน
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 62 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของไมโตรคอนเดียดีเอ็นเอในชิ้นส่วนกระดูกที่พบตรงกับดีเอ็นเอของนางโพเราะจี รักจงเจริญ แม่ของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย ว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ให้ความสำคัญการตรวจพิสูจน์ในขั้นตอนนี้ โดยดีเอ็นเอที่ตรวจพบตรงตามสายพันธุ์ที่สืบทอดจากมารดาสู่ลูก ซึ่งในชั้นสอบสวนดีเอสไอเชื่อว่าจะต้องมีข้อโต้แย้งเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงได้สอบสวนจนครบถ้วนสมบูรณ์ว่าแม่ของนายบิลลี่มีลูกทั้งหมดกี่คน ซึ่งได้รับการยืนยันว่าทั้งหมดยังมีชีวิต ยังไม่มีใครเสียชีวิต
หลังจากนี้เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลจะเป็นการหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานแวดล้อมที่ดีเอสไอรวบรวมได้ต่อสู้กัน คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 เดือนจะสามารถสรุปสำนวนสั่งคดีได้ ในระหว่างนี้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ขอเวลาอีก 1 เดือนในการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนกระดูก 20 ชิ้นที่งมขึ้นมาได้จากลำน้ำในอุทยานแห่งชาติแก่งประจาน
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า พรุ่งนี้ (5 ส.ค.) มอบหมายให้พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อให้กำลังใจน.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมีนอ ภรรยาของนายบิลลี่ที่บ้านโป่งลึกโดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ดีเอสไอเปิดให้สื่อมวลชนติดตามเข้าไปรายงานข่าวได้
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ภายหลังดีเอสไอ ออกมาแถลงข่าวตรวจสอบพบถังน้ำมันและชิ้นส่วนกระดูกจากก้นลำน้ำเขื่อนแก่งกระจาน ปรากฏว่ามีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ โดยมีการจัดกลุ่มคนเข้าไปลอยอัฐิ หรือลอยอังคารภายในลำน้ำ เพื่อแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการนำอัฐิของผู้เสียชีวิตมาลอยอังคารตามปกติ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือหลักฐานที่ดีเอสไอค้นพบ


