"จากนักมวยสาวสู่เจ้าของข้าวผัดปูในตำนาน" พิมพร รอดคำแหง
เปิดเส้นทางชีวิตและไขความสำเร็จของ พิมพร รอดคำแหง เจ้าของสูตรร้านข้าวผัดปูเมืองทอง 1 (สูตรต้นตำหรับ)
โดย...วิรวินท์ ศรีโหมด
หากพูดถึงเมนูอาหารหากินง่ายอย่าง..ข้าวผัด..เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักและเคยฝากท้องไว้กับร้านอาหารริมทางชื่อดัง "ข้าวผัดปูเมืองทอง 1 สูตรต้นตำหรับ โดยคุณ พิมพร" ที่มีเมนูไม่กี่อย่าง เช่น ข้าวผัดปู กระเพาะปลา สุกี้แห้ง กุ้งอบวุ้นเส้น หมูสะเต๊ะ และของหวานอย่างไอศกรีมกะทิไข่แข็ง
ทว่าด้วยรูปแบบการบริหารร้านที่เน้นเมนูง่ายๆ และการจัดร้านดูสะอาดตา ทำให้ปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้าหลายเจ้านำรูปแบบการบริหารของร้านดังริมทางนี้ ไปปรับปรุงพัฒนาเปิดอย่างแพร่หลาย
วันนี้ พิมพร รอดคำแหง หรือ คุณหมู เจ้าของร้านข้าวผัดปูเมืองทอง 1 (สูตรต้นตำหรับ) วัย 60 ปี จะมาบอกเล่าถึงเส้นทางชีวิต และจุดเริ่มต้นการคิดค้นทำเมนูง่ายๆ อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
ชีวิตนักมวยไทยสาว สู่ ลูกสะใภ้ครอบครัวจีน
พิมพร เกิดในครอบครัวเชื้อสายไทยแท้ คุณพ่อเป็นอดีตข้าราชการตำรวจ-คุณแม่เป็นอดีตหัวหน้าแม่ครัวโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ มีพี่น้อง 10 คน ผู้หญิง 6 ผู้ชาย 4 เหตุนี้จึงทำให้ลูกๆมีความรู้พื้นฐานการทำอาหาร แต่ด้วยนิสัยของเธอเหมือนผู้ชายตั้งแต่เด็กทั้งชอบเตะบอล ชกมวย และไม่ชอบเรียนหนังสือ เป็นเหตุผลที่ตัดสินใจเอ่ยปากขอพ่อแม่เลิกเรียนตอนป.4
คุณหมู เล่าว่าหลังหยุดเรียนไปจนอายุประมาณ 16-17 ปี ด้วยเป็นคนที่นิสัยห้าวชอบชกมวยทำให้วันหนึ่งได้รู้จัก นำพล สกุลศึก อดีตนักมวยถ้วยพระราชทานก็ได้ชักนำเข้าสู่วงการมวยไทย หลังจากนั้นเดินสายตระเวนชกทั่วประเทศ และมีโอกาสไปชกที่ญี่ปุ่นจนได้แชมป์ แต่ชีวิตอยู่วงการมวยแค่ 5 ปี เพราะหลังแต่งงานกับแฟนนักมวยร่วมค่าย ทำให้ชีวิตหลังจากนั้นต้องเปลี่ยนไปสิ้นเชิงเพราะวันแรกที่ย้ายเข้าบ้านสามีที่เป็นเชื้อสายจีนแท้ คำแรกที่พ่อสามีบอกคือ “แต่งงานเขาไป ต้องช่วยงานบ้านเหมือนสะใภ้คนโต ต้องคอยทำงานบ้านและช่วยอาม่า (แม่สามี) ขายอาหาร”
พิมพร เล่าแบบยิ้มแย้มด้วยนึกถึงวันเก่าๆว่า ชีวิตเปลี่ยนไปจากเคยสวมนวมชกมวย ต้องเปลี่ยนมาจับมีดจับตะหลิวตื่นตี 4 ช่วยแม่สามีและพี่สะใภ้ทำอาหารไปขายตอนเช้าในมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ เกือบทุกวันเป็นอย่างนั้นกว่า 10 ปี จนอาม่าเลิกขายอาหารและสามีย้ายออกจากระบบกงสีของครอบครัว
“ตอนนั้นยอมรับว่าท้อบ้าง แต่คิดว่าเมื่อก้าวเข้าไปอยู่ในครอบครัวเขาแล้ว ต้องอยู่ให้ได้ เพราะหากทำไม่ได้สามีก็ต้องเหนื่อยและหนักใจ”
ถูกเคลมสูตรข้าวผัดปูชื่อดัง
ปัจจุบัน "ร้านข้าวผัดปูเมืองทอง 1 สูตรต้นตำหรับ โดยคุณพิมพร" มี 4 สาขา คือ สาขาแรกตรงถนนเกษตร-นวมินทร์ (แยกบิ๊กแอปเปิ้ลเก่า) ,สาขาพหลโยธิน-เกษตร (บนถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าแยกรัชโย) ,ภายในพื้นที่ร้านแมคโดนัลด์ คลอง 3 (ฝั่งมุ่งหน้าจ.นครนายก) ,และสาขาเมเจอร์รัชโยธิน โซนลานน้ำพุ
พิมพร เล่าว่าธุรกิจร้านข้าวผัดปูเริ่มภายหลังจากย้ายออกจากครอบครัวสามี ก็นำความรู้การทำอาหารโดยเฉพาะอาหารจีนที่แม่สามีสอน มาเปิดร้านขายกระเพาะปลาและข้าวผัดปู ร้านเล็กมีโต๊ะ 5-6 ตัว แถวทาวน์อินทาวน์และแยกวังหิน
วันหนึ่งเมื่อประมาณ 16 ปีที่แล้ว เพื่อนน้องชายสามีที่เคยกินนอนอยู่บ้านสามีก็มาหาและชักชวนร่วมทำธุกิจร้านข้าวผัดปูเมืองทองสาขาแรก (แถวถนนแจ้งวัฒนะ) เนื่องจากเขารู้ว่าตนทำอาหารอร่อย ตอนนั้นตกลงกันว่า เพื่อนน้องชายสามีจะเป็นคนลงทุนสร้างร้านริมฟุตบาทมีโต๊ะ 3-4 ตัว และคอยบริหาร ส่วนตนเป็นคนนำสูตรไปลงรวมถึงดูแลเรื่องอาหารพร้อมกับคิดเมนูทุกอย่าง และแบ่งกำไรคนละ 50-50
“ตอนเปิดสาขาแรก พี่ยืนผัดทำอาหารเองกับลูกน้องอีกสองคนและต่อมาก็คิดเมนูใหม่เรื่อยๆ พอร้านเริ่มใหญ่ พี่ก็สอนลูกน้องทำอาหารทุกอย่าง โดยที่เขา (หุ้นส่วนธุรกิจเก่า) ไม่ได้ยุ่งเรื่องอาหารเลย เขารู้เพียงคร่าวๆ เพราะเขาจะดูเรื่องการบริหารร้านทั้งหมด”
จุดที่ทำให้เริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศในร้านเปลี่ยนไปครั้งแรกหลังเปิดได้ 3 ปี ขณะนั้นร้านเริ่มมีชื่อเสียง “ตอนนั้นนักข่าวมาถามว่า ร้านนี้ไม่ใช่ของพี่ใช่ไหม พี่เป็นเพียงลูกจ้างใช่ไหม เพราะพี่อีกคนเขาบอกว่าพี่เป็นแค่ลูกจ้าง” คำพูดนั้นเป็นการเติมเต็มสิ่งที่พิมพร เคยรู้สึกว่าตนกำลังถูกบีบออกจากธุรกิจ
แต่ถึงอย่างไรเธอยังก้มหน้าก้มตาทำต่อไป แต่ขณะเดียวกันได้ไปปรึกษากับลูก 3 คน ว่าอาจถึงเวลาต้องจดลิขสิทธิ์สูตรอาหารแล้ว จึงเดินทางไปหาอาแปะที่นับถือซึ่งอยู่ในเยาวราชเพื่อขอให้เขียนชื่นร้านอักษรภาษาจีนและนำมาเพิ่มเติมจากชื่อภาษาไทยอย่างเดียว พร้อมกับจดลิขสิทธิ์เป็นชื่อลูกชาย และเปิดสาขาแรกของตัวเองตรงถนนเกษตร-นวมินทร์ แต่ขณะนั้นยังคงทำธุรกิจร่วมกับผู้ก่อตั้งสาขาแรกอยู่
“ตอนนั้นพี่ทำแค่อาหารอย่างเดียว ส่วนงานบริหาร-บัญชีไม่เคยขอดู วันหนึ่งคู่ธุรกิจเริ่มดึงพี่ชายให้มาเปิดสาขาสองแถวแยกวังหิน สาขาสามลาดพร้าวและสาขาอื่นๆตามมา โดยใช้โลโก้ที่พี่จดลิขสิทธิ์ ทั้งที่ตอนเริ่มเคยสัญญากันว่าจะไม่ขายแฟรนไชส์ให้ใคร” นี่เป็นอีกครั้งที่ทำให้พิมพร รู้สึกว่าบรรยากาศในร้านเปลี่ยนไป
พิมพร เล่าถึงช่วงเวลาที่เสียใจมากสุดวันหนึ่งหลัง พิธีกรรายการทีวีชื่อดังมาทานอาหารและเชิญอดีตหุ้นส่วนธุรกิจไปออกรายการ โดยอดีตหุ้นส่วนบอกอย่างมั่นใจผ่านจอทีวีว่า “เขาเป็นเจ้าของสูตรข้าวผัดตัวจริง” เมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอรู้สึกเสียใจมาก เพราะไม่คิดว่าหุ้นส่วนธุรกิจจะกล่าวประโยคนั้นออกมา แต่ถึงอย่างไรยังคงก้มหน้าทำธุรกิจร่วมกันมาเกือบ 10 ปี
และวันที่จุดแตกหักทางธุรกิจข้าวผัดชื่อดังมาถึง เมื่อเจ้าของที่ดินร้านตรงถนนเกษตร-นวมินทร์จะขอที่ดินคืนเพื่อเปิดธุรกิจ ตนจึงไปเปิดอีกสาขาตรงแยกเกษตรฯ แต่อดีตหุ้นส่วนธุรกิจไปพูดกับคนอื่นว่า ตนจะไปเปิดร้านใกล้กับพี่ชายเขา ทั้งที่ไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น นี่จึงเป็นจุดที่ทำให้มีปัญหาจนต้องแยกตัวออกมา 100% และสุดท้ายหลังเจ้าของที่ดินร้านตรงถนนเกษตร-นวมินทร์ ทราบปัญหาจึงไม่ขอที่คืนและให้ขายมาถึงปัจจุบัน
รสชาติดี ราคาถูก บริการเยี่ยม กลยุทธ์เด็ดมัดใจลูกค้า
เมนูอาหารของร้านข้าวปัดปูเมืองทอง 1 (สูตรต้นตำหรับ) ปัจจุบันมีเมนู "ข้าวผัดปู กระเพาะปลา สุกี้แห้ง กุ้งอบวุ้นเส้น หมูสะเต๊ะ กรรเชียงปูม้านึ่ง วุ้นเส้นอบกรรเชียงปู และกำลังมี 2 เมนูใหม่คือ เกาเหลาหมูสูตรเยาวราชและข้าวผัดกุ้ง ส่วนของหวาน ไอศกรีมกะทิไข่แข็งกับสลิ่มน้ำกะทิ"
พิมพร เผยเคล็บที่ทำให้ลูกค้าติดใจคือใช้วัตถุดิบคุณภาพราคาสูง แต่ขายในราคาไม่แพงเพื่อให้ทุกคนสามารถกินได้ ส่วนขั้นตอนการทำทุกเมนูปรุงตามสูตรอย่างเที่ยงตรง เช่น ข้าวผัดปูใช้ข้าวเสาไห้ 70% ผสมกับข้าวหอมมะลิ 30% เนื่องจากนำมาหุงข้าวจะนิ่มลงตัวไม่เฉอะแฉะ ส่วนการผัดต้องใช้กระทะเหล็กซึ่งจะทำให้อาหารหอมน่าทาน การทำเช่นนี้เพื่อไม่ให้รสชาติผิดเพี้ยน นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาดเป็นอย่างมากด้วย
เจ้าของร้านข้าวผัดชื่อดัง เผยว่าเหตุผลที่มีเมนูไม่มากเพราะตั้งใจทำออกมาที่ละอย่างเพื่อให้รสชาติคงที่ก่อนจะคิดเมนูใหม่ออกมาขาย เพราะหากทำออกหลายเมนูพร้อมกันจะควบคุมคุณภาพและรสชาติยากมาก
"หลายเมนู ถ้าดูแลไม่ถึง รสชาติมันจะไม่คงที่ จึงขอทำน้อยแต่ให้อร่อยดีกว่า"
ส่วนการคุมลูกน้องกว่า 200 ชีวิต พิมพร ยอมรับว่าเหนื่อยกว่าคุมมาตรฐานอาหารมาก แต่หลักการจะดูแลลูกน้องให้ดี คือมีที่พักพร้อมกับอาหารวันละ 4 มื้อ ให้เงินเดือนที่เหมาะสม การบริหารใช้ทั้งความโอบอ้อมอารีและเข้มงวดเพื่อให้ทุกอย่างเป็นระเบียบและหนึ่งเดียว
ทำธุรกิจอาหารอย่างไรให้สำเร็จ?
เจ้าของสูตรร้านข้าวผัดปูชื่อดังเผยว่า ขณะนี้เมื่อธุรกิจเริ่มอยู่ตัวอีกไม่นานจะวางมือและส่งธุรกิจให้ลูกทั้ง 3 คนดูแลต่อ โดยอยู่ระหว่างเร่งปลูกฝังและสอนเรื่องการควบคุมคุณภาพอาหาร-บริการให้ใส่ใจเหมือนรุ่นแม่
ส่วนการขยายธุรกิจอนาคตคิดว่าจะให้เฉพาะคนในครอบครัว ไม่มีการขายแฟรนไชส์เพราะกลัวเรื่องการควบคุมคุณภาพ รวมถึงเข็ดกับการทำธุรกิจร่วมกับผู้อื่นและไม่อยากผิดสัจจะคำสัญญาที่เคยพูดไว้ว่าจะไม่ขายแฟรนไชส์
พิมพร แนะนำหลักการทำธุรกิจอาหารทิ้งท้ายว่า สิ่งสำคัญต้องซื่อสัตย์และใส่ใจธุรกิจมากๆ อย่าหวังพึ่งลูกน้องอย่างเดียว เพราะธุรกิจอาหารเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากรสชาติผิดเพี้ยนนิดเดียวลูกค้ารู้ทันที ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญมากในการทำธุรกิจอาหาร และหากอดทนเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ก็ไม่ควรทำธุรกิจอาหาร
ทั้งนี้ ปัจจุบันหลังจาก พิมพร เริ่มประสบความสำเร็จในชีวิตเธอได้กลับไปเรียน กศน.ตอนอายุ 48 ปี และปัจจุบันจบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
