กรมอุทยานฯ แจงตัดหัวกระทิงมาเก็บไว้เป็นสมบัติชาติ-กันคนแอบขุด
ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ แจงตัดหัวกระทิงหลังตาย มาเก็บไว้เป็นสมบัติชาติและป้องกันคนลักลอบขุด
ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ แจงตัดหัวกระทิงหลังตาย มาเก็บไว้เป็นสมบัติชาติและป้องกันคนลักลอบขุด
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. นส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช ชี้แจง กรณีที่สังคมวิจารณ์ภาพเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ตัดหัวกระทิงชื่อแม่มะลิซึ่งมีอายุมากได้เสียชีวิตลงหลังติดหล่มโคลน โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่จะนำไปประดับสำนักงานนั้น ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง นำหัวกระทิงมา ไม่ใช่วัตถุประสงค์เพื่อการประดับสำนักงานตามที่เป็นข่าว หากแต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการไปเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองและดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติ หรือการศึกษาหรือวิจัยทางวิชาการ โดยวัตถุประสงค์ของเจ้าหน้าที่ที่นำซากหัวกระทิงกลับมายังสำนักงานมีดังนี้
1.เป็นการปกป้องทรัพยากรในพื้นที่อุทยาน เนื่องจากหัวกระทิงเป็นสิ่งมีมูลค่าราคาแพง เพื่อเป็นการป้องกันการลักลอบขุดซากหัวกระทิงไปจำหน่าย หรือครอบครองส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องนำหัวกระทิงมาเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติบางลาง เพื่อเป็นสมบัติของประเทศชาติ โดยทางอุทยานแห่งชาติบางลาง ได้จัดทำบัญชีซากสัตว์ป่าและ จัดทำรายงานต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
2.เพื่อจัดเก็บซากสัตว์ป่าให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่เยาวชนและประชาชนที่เข้ามาเยี่ยมชมในพื้นที่ เพื่อเป็นการปลูกฝังให้เกิดความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากร สัตว์ป่าในพื้นที่และเกิดการเรียนรู้และทราบข้อมูลทางวิชาการ โดยเฉพาะหัวกระทิงนอกจากจะทำให้ได้เรียนรู้ลักษณะสัณฐานวิทยาของเขากระทิงเพื่อจำแนกชนิดจากเขาสัตว์แล้ว ยังสามารถเรียนรู้การประเมินอายุของกระทิงจากการนับวงพาลี ซึ่งปกติโคนเขาของกระทิงจะหยักเป็นลอนคลื่น เรียกว่า "พาลี" พาลีจะปรากฏเป็นรูปร่างเมื่อกระทิงอายุย่างเข้าปีที่ 6 ซึ่งหากไม่ตัดและนำออกมาทันทีจะทำให้ลักษณะของพาลีที่เกิดขึ้นอาจถูกทำลายโดยแมลงที่กัดแทะปลอกเขาของซากกระทิง


