ตำรวจชายแดนใต้ ตัดพ้อถูกด่านปลัดจังหวัดยึดปืน เหลือแต่มือเปล่าไว้จับโจร

ตำรวจจังหวัดชายแดนภายใต้ โพสต์ตัดพ้อลูกน้องเดินทางมาทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย แต่กลับถูกด่านตรวจปลัดจังหวัดยึดปืน

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Suriya Pankerd” ซึ่งคาดเป็นนายตำรวจระดับสูงรายหนึ่งในพื้นที่จังหวัดยะลา โพสต์เรื่องราวตัดพ้อที่ลูกน้องตนเองเดินทางเพื่อจะมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ระหว่างทางกลับถูกด่านตรวจปลัดจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียง ตรวจค้นยึดอาวุธปืน ทำให้ลูกน้องของนายตำรวจรายดังกล่าวเสียขวัญกำลังใจ เพราะไม่มีอาวุธปืนไว้ปฏิบัติหน้าที่และป้องกันตนเอง

“คุณเป็นปลัดระดับจังหวัด ตั้งโครงการสวยหรูปราบปรามอาชญากรรม ยาเสพติด อาวุธปืนสงคราม ตั้งด่านขนาดนั้น โจรคงเดินมาให้จับง่ายๆ ผลก็คือ ปืนแก๊ปสักกระบอก ยาบ้าสักเม็ด ก็จับไม่ได้

จับปืนโจรไม่ได้ ตำรวจลูกน้องผมขับรถผ่านจะเดินทางมาสามจังหวัดชายแดนใต้ เห็นปืนของทางราชการ เอ็มโฟร์ อยู่ในรถ จับปืนโจรไม่ได้ จับปืนตำรวจก็ยังดี บอกว่า พกพาเป็นอาวุธสงคราม

ถ้าลูกน้องผม เกเรพกปืนไปอาละวาด ค้ายา ไปก่อเหตุจะไม่ว่าสักคำ พวกคุณรู้ใหมเส้นทางเสี่ยงกว่าจะเดินทางมาถึงโรงพัก ผมต้องผ่านอะไรบ้างจาก อ.จะนะ เข้ามาผ่านด่านหม้อแกง เคยโดยคาร์บอมบ์ เส้นทางต่างๆ ล้วนอันตราย โดยเฉพาะมาถึงบ้านเนียง ลูกน้องผมเกือบตาย 3 ศพ จากการวางระเบิดรถยนต์

พวกคุณเห็นใจในความเสี่ยงอันตราย ตำรวจสามจังหวัดชายแดนพวกผมบ้างไหม ยิ่งเจ็บปวดเมื่อพวกคุณบอกว่า อาวุธปืนทางราชการ ให้พกในสามจังหวัดได้เท่านั้น เมื่อพวกผมพกปืนออกเดินทางหรือทำงานสืบสวนหาข่าว นอกเส้นทางสามจังหวัด จะให้ผมฝากปืนยาวของทางราชการไว้ที่ปั้มน้ำมันหรือไงครับ

ลูกน้อง อธิบายให้ฟังว่าเข้าพื้นที่เสี่ยงเวลากลางคืน ก็ไม่ฟัง ขนาดระดับ รอง ผบก. ฯ มาอธิบายข้อกฎหมายให้ฟังว่าปฎิบัติหน้าที่ ในพื้นที่เสี่ยงอันตรายมีเหตุอันควรที่จะพกปืน พวกคุณก็ไม่ฟัง...พวกคุณจะจับอย่างเดียว จับปืนทางราชการได้ประโยชน์อันใด

ต่อไปนี้ ปืนพกของทางราชการพวกท่านยึดไป ลูกน้องผมเหลือแต่สองมือเปล่า ที่จะไปจับโจร มันเจ็บปวดครับ ที่บ้านเมือง มีคนระดับนักปกครอง ทำงานมีวิสัยทัศน์ได้แค่นี้ หวังมีผลงานตั้งด่าน แล้วจับได้ โดยไม่คิดถึงข้อกฎหมาย ผลกระทบ ขวัญกำลังใจของคนทำงานพื้นที่เสี่ยง” ผู้โพสต์ ระบุ

หลังภาพพร้อมข้อความดังกล่าวเผยแพร่ออกไปมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นใจและให้กำลังใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภายใต้เป็นจำนวนมาก และอยากให้เจ้าหน้าที่พื้นที่ใกล้เคียงเข้าใจรูปแบบการทำงานของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนใต้ว่า จำต้องพกอาวุธติดตัวเพื่อระวังภัยจากผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่