"นพ.อภิวัฒน์"แจ้งปอท.เอาผิดคนบิดเบือนคำพูดปม30บาทรักษาทุกโรค

ศ.ดร.นพ.อภิวัฒน์ มุทิรางกูร เข้าแจ้งความตำรวจปอท. หลังถูกผู้ไม่หวังดีบิดเบือนคำพูดที่ออกรายการทีวีและแชร์ต่อสร้างความเสื่อมเสีย

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) ศ.ดร.นพ.อภิวัฒน์ มุทิรางกูร  กรรมการแพทยสภา นำหลักฐานซึ่งเป็นภาพตัดต่อข้อความอันเป็นเท็จ เข้าพบ พ.ต.อ.นิติพัฒน์ วุฒิบุญยสิทธิ์ ผกก.(สอบสวน)บก.ปอท. และ ร.ต.อ.สมบัติ สมบัติโยธา รอง สว.(สอบสวน) กก3. บก.ปอท.  เพื่อแจ้งความกับผู้ที่โพสต์และแชร์ข้อความทางเฟชบุ๊ก และไลน์  ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

ศ.ดร.นพ.อภิวัฒน์  กล่าวว่าเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ไปให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์และออกรายการทีวีเกี่ยวกับเรื่องอยากให้มีการปรับเปลี่ยนนโยบาย30บาทรักษาทุกโรค ซึ่งในตอนท้ายของรายการได้มีการสรุปข้อความที่บิดเบือนไปจากที่ตนให้สัมภาษณ์ ซึ่งทางรายการก็ได้ขอโทษแล้ว แต่กลับมีผู้ไม่หวังดีนำภาพตนไปตัดต่อพร้อมข้อความที่บิดเบือนทำให้เกิดการเกลียดชัง ที่ตนเดินทางเข้ามาแจ้งความในวันนี้ไม่ได้เพื่อมุ่งหวังที่จะปกป้องเกียรติยศชื่อเสียงของตนเอง แต่เพราะเห็นว่าการสร้างกระแสโซเชียลด้วยข่าวที่มีเนื้อหาบิดเบือนไปจากความจริง หรือเพื่อจุดประสงค์เพื่อสร้างเกลียดชัง จะส่งผลในการแก้ไขปัญหาของชาติ

"แนวทางที่ต้องการเรียกร้องนั้น ผมต้องการให้นโยบาย30 บาท รักษาทุกโรคยังอยู่ แต่อยากให้มีการแก้ไขระบบการรักษา เนื่องจากผมทำงานอยู่ในวงการแพทย์ รับรู้ปัญหาต่างๆที่กระทบต่อสุขภาพคนไทย ทั้งด้านการป้องกันโรคและการรักษา ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการบริหารงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)ภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุข และที่หน้าเป็นห่วง สปสช. เข้ามาควบคุมมาตรฐานการแพทย์ด้วยวิธีเหมาโหล ทั้งยา ละวิธีรักษาโรคผู้ป่วยเกือบจะทุกๆโรค ซึ่งวิธีดังกล่าวอาจส่งผลทางด้านลบของผู้ป่วยบางโรค เช่นการรักษาโรคไตวาย ซึ่งทาง สปสช จะมีสูตรสำเร็จในการรักษาอยู่แล้ว โดยกำหนดให้ผู้ป่วยโรคไตวายได้รับการรักษาด้วยการล้างท้องเองที่บ้าน แต่ถ้าผู้ป่วยปฏิเสธการรักษาด้วยวิธีการล้างท้อง แต่เลือกที่จะจ่ายเงินเองเพื่อฟอกเลือด จะมีอัตราการเสียชีวิตลดลง1 ใน3  จากการสำรวจพบว่าผู้ที่รักษาโรคไตวายตามระบบการรักษาของ สปสช. เสียชีวิตสูงถึง90% จึงอยากให้มีการปรับปรุงระบบและวิธีการรักษา"ศ.ดร.นพ.อภิวัฒน์กล่าว

ศ.ดร.นพ.อภิวัฒน์ กล่าวอีกว่า อยากให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง กระทรวงสาธารณสุขก็ทำหน้าที่ในการบริการสุขภาพ ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันและรักษาโรค ส่วน สปสช.  ก็ทำหน้าที่เป็นกองทุนบัญชีการเงินเพื่อนสนับสนุนหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแก้ไขปัญหาทางการแพทย์และสาธารณสุขของไทยตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ส่วนเรื่องที่ตนพูดว่า"คนไทยหาหมอมากไป เพราะไม่ดูแลตัวเอง คนบางภาคกินของดิบป่วยจนซ้ำซาก เป็นภาระสังคม" ตนไม่ได้มีเจตนาหมายความว่าแบบนั้นแค่ต้องการให้คนไทยรักษาสุขภาพดูแลตัวเองให้แข็งแรงจะได้ไม่ป่วย และต้องเข้าโรงพยาบาล

พ.ต.อ.นิติพัฒน์ เปิดเผยว่าในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องทำการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง เพื่อทำการสืบสวนหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป