คำถามจากทางบ้าน ทำไมคนจีน ชอบมองหน้า?
พบกันอีกครั้งกับคอลัมน์ “อ้ายจงเล่าจีน” ทุกวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 4 ของเดือน ฉบับนี้ขอเขียนถึงเรื่องราวที่คนทางบ้านถามมาครับ กับคำถามที่ว่า
โดย...ภากร กัทชลี เจ้าของเพจอ้ายจง นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยซีเตี้ยน เมืองซีอาน มณฑลส่านซี
พบกันอีกครั้งกับคอลัมน์ “อ้ายจงเล่าจีน” ทุกวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 4 ของเดือน ฉบับนี้ขอเขียนถึงเรื่องราวที่คนทางบ้านถามมาครับ กับคำถามที่ว่า “ทำไมไปเมืองจีน คนจีนชอบมองหน้าจังเลย จนเกิดวิตกกังวลว่า เราทำอะไรผิดแผกไปจากพวกเขาชาวจีนหรือเปล่า?”
คนไทยหลายคนที่เพิ่งไปเมืองจีนอาจจะสงสัย งุนงง จนบางคราเกิดอาการหงุดหงิดใจ ผู้เขียนก็เช่นกัน แรกๆ ที่ไปอยู่ปักกิ่ง ไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร ก็มักเจอคนจีนมองหน้าบ่อยๆ จนอยากจะถามว่า “มองหน้า ทำไมเหรอ?” แต่กลัวจะได้คำตอบมาว่า “แล้วเธอล่ะ มองหน้าฉันทำไม?”
หากจะให้คิดไปว่า ที่เขามอง เพราะเรานั้นหล่อเหลาแบบ มาริโอ้ หรือพี่ป้อง ณวัฒน์ ดาราไทยที่โด่งดังในจีนอย่างมากก็คงไม่ใช่ แม้จะมีส่วนคล้ายก็ตามที (อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีครับ ล้อเล่นนะครับ ล้อเล่น)
ผู้เขียนเคยถามเพื่อนๆ คนไทยด้วยกันว่าเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนจีนถึงชอบมองหน้าพวกเรา คำตอบที่ได้กลับมาร้อยละ 99.99 ทุกคนต่างสงสัยและอยากรู้คำตอบเหมือนผู้เขียนเช่นกัน
ลองสอบถามจากเพื่อนคนจีนหลายๆ คน รวมทั้งสังเกตด้วยตนเอง จึงพอวิเคราะห์และสรุปคำตอบได้ดังนี้
1.คนจีนมองคนไทยเพราะคงสงสัยว่าเป็นต่างชาติหรือคนจีนกันแน่ หลายครั้งที่พวกเราพูดคุยกันเป็นภาษาไทย แต่หน้าตาเรามันไม่ค่อยจะไทยเท่าไหร่ ออกแนวจีน (ทางใต้) เช่น ภาษากวางตุ้ง ภาษาแต้จิ๋ว ภาษาไต้หวัน หรือแม้กระทั่งภาษาเกาหลี คนจีนก็เคยถามผู้เขียนมาแล้วว่าพูดภาษาเกาหลีหรือ? (อยากจะถามกลับจังเลยว่า เกาหลีใต้ หรือเกาหลีเหนือ)
คนจีนเลยพยายามมองหน้าเราเพื่อหาคำตอบ แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า ถ้ามาอยู่ไทย โดยเฉพาะแถวผับ แหล่งเที่ยวกลางคืนทั้งหลายคงจะได้ “ลูกตะกั่ว” แทนคำตอบ
2.คนไทยเรามักแต่งตัวต่างจากคนจีนอยู่บ้าง โดยเฉพาะช่วงแรกที่ไปอยู่ที่นั่น เพราะวัฒนธรรมและแฟชั่นการแต่งตัวของเรากับที่นั่นค่อนข้างแตกต่างกัน เช่น ใส่รองเท้าแตะในช่วงอากาศที่พวกเราคิดว่าเย็นสบาย ด้วยอุณหภูมิประมาณ 20 นิดๆ คล้ายๆ กับทางภาคเหนือของไทยตอนช่วงหน้าหนาว ซึ่งคนจีนจะใส่รองเท้าแตะแค่ตอนช่วงที่เข้าหน้าร้อนจริงๆ ประมาณเดือน มิ.ย.-ส.ค. หรืออีกกรณีคือ คนไทยใส่เสื้อโค้ตในช่วงที่รู้สึกว่าหนาว แต่คนจีนมองว่าเย็นสบายในช่วงอุณหภูมิประมาณ 10 กว่าๆ
บางครั้งอาจจะเป็นสองแบบข้างต้นรวมกัน ท่อนบนใส่เสื้อโค้ต พันผ้าพันคอครบชุด แบบกลัวหนาวสุดๆ แต่ท่อนล่างกลับใส่รองเท้าแตะ เสมือนว่าบรรยากาศสบายๆ ชิลๆ ผู้เขียนยอมรับว่าเคยแต่งแบบนี้ด้วยล่ะ
3.เวลาคนไทยไปไหนมาไหนกันสองคนกับเพื่อนเพศเดียวกัน โดยเฉพาะ ชาย-ชาย คนจีนจะมองแบบอยากรู้อยากเห็นมาก เพราะอะไร คิดว่าผู้อ่านคงจะจำที่ผู้เขียนเล่าให้ฟังได้ว่า คนจีนตั้งสมญานามให้ประเทศไทยว่า “เหรินเยากั๋ว” หรือแปลเป็นไทยได้ไพเราะเพราะพริ้ง “ประเทศกะเทย”
4.เวลาคนจีนเห็นคนไทยสวยๆ มักจะมอง บางครั้งไม่มองเปล่า แต่จะถามด้วยว่า “เป็นกะเทยหรือเปล่า” สืบเนื่องมาจากสมญานามที่เล่าไปแล้วข้างต้น
5.เวลาที่อยู่กับคนต่างชาติ ผมสีทอง หรือพวกพี่มืด คนจีนก็ชอบมองเช่นกัน โดยเฉพาะถ้าสาวไทยอยู่กับต่างชาติพวกนี้ คนจีนจะคิดไว้ก่อนเลยว่าเป็นแฟนกัน
6.ในบางครั้งสิ่งที่คนจีนมองก็มีประโยชน์ มีหลายครั้งที่ผู้เขียนลืมรูดซิปกระเป๋าเป้ ของเกือบจะตกออกมา แต่คนจีนคงไม่กล้าบอกผู้เขียนตรงๆ เนื่องจากคงคิดว่าผู้เขียนไม่เข้าใจภาษาจีน เลยพยายามส่งสายตาบอก
สรุปแล้ว การมองหน้าของคนจีนก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเราคนไทย นิสัยอยากรู้อยากเห็น เป็นนิสัยพื้นฐานของมนุษย์เรา เพียงแต่คนจีนมักจะมองแบบตรงๆ ไม่มีศิลปะในการใช้หางตามองแบบคนไทย
จากที่ผู้เขียนได้อธิบายไปแล้ว คงจะเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมคนจีนถึงมองเรา ขอสารภาพตามตรงว่าในตอนแรกผู้เขียนก็ไม่ชิน แต่พอเข้าใจพวกเขา คราวหลังมา มองกลับไปด้วยตาประสานตาจนคนจีนหลบสายตาไปเอง และพออยู่ไปนานๆ ทำให้เข้าใจว่า แม้แต่คนจีนด้วยกันเองยังมองแบบจ้องเป็นเรื่องปกติ
บ่อยครั้งที่คนจีนเดินผ่านเวลาคนอื่นนั่งกินข้าวในร้าน เขาก็จะมองที่จานเลย แบบว่าดูน่ากินหรือไม่ อะไรแบบนี้ ดังนั้น ให้คิดว่าเป็นเรื่องปกติละกันครับ แต่ถ้ามองจ้องจนเราทนไม่ไหวจริงๆ ลองถามเขาเลยครับ คนจีนมีสิทธิที่พึงมอง เราก็มีสิทธิที่พึงจะถามเช่นกัน?
ยิ่งถ้าเจอหนุ่มหล่อสาวสวย มองหน้าไปเลย แล้วเดินไปหาเรื่องคุย อาจจะได้เพื่อน...(รู้ใจ) ก็ได้นะ


