posttoday

"ไม่เรียนครูก็สอบครูได้"แก้ปัญหาการศึกษาไทยจริงหรือ?

03 เมษายน 2560

หลากหลายมุมมองนักวิชาการจากเวทีเสวนาเรื่อง "ตั๋วครู:วิกฤตของวิชาชีพครูจริงหรือ?"

โดย...พรพิรุณ ทองอินทร์

เมื่อเร็วๆนี้ มีการจัดเวทีเสวนา เรื่อง “ตั๋วครู : วิกฤตของวิชาชีพครูจริงหรือ?” โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ร่วมกับ CHES, ทปสท. และองค์กรพันธมิตร เพื่อระดมความคิดและหาทางออกของกระบวนการผลิตครู ใช้ครู และพัฒนาครูอย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกล่วววิกฤตการขาดแคลนครูในยุคปัจจุบัน

คนจบสาขาอื่นเป็นครูได้หรือเปล่า?

เป็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในแวดวงวิชาชีพครู เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดโอกาสให้ผู้ไม่มีวุฒิครูมาสอบเป็นผู้ช่วยครูได้ จึงมีเสียงคัดค้านจากกลุ่มนักศึกษาที่มีสิทธิ์สอบตามหลักสูตรครู 5 ปี และกลุ่มอาจารย์คณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์  ส่วนใหญ่มองว่าอาชีพครูเป็นเรื่องที่จะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการคัดเลือก

กมลเทพ ชังชู ผ.อ.โรงเรียนอนุบาลปราโมชพัฒนา กล่าวว่า ตนไม่ได้จบคณะครุศาสตร์มาโดยตรง แต่ได้เป็นครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์แก่เด็กนักเรียนมาตั้งแต่เรียนจบ โดยอาศัยประสบการณ์จากตอนเป็นเด็ก เช่น คุณครูเคยสอนอย่างไรก็สอนเด็กแบบที่ครูเคยสอน กระทั่งสอนมาได้ 5 – 6 ปี แล้วได้ไปอบรมที่ต่างประเทศถึงได้รู้ว่า เราสอนเด็กไม่ได้ ควบคุมเด็กไม่ได้ จิตวิทยาไม่มี เป็นแค่ "คนเก่งที่สอนเด็ก" จนสุดท้ายต้องสั่งสมประสบการณ์ใหม่

"การที่ครูที่จบจากสาขาอื่นมาเป็นครูเป็นเรื่องที่ดี แต่จะเป็นแค่ครูที่เป็นคนเก่ง ทว่าสอนเด็กไม่เป็น กว่าจะสอนได้ต้องสะสมประสบกาณ์อยู่หลายปี แต่ถ้าเป็นครูที่มาจากครูสายตรง ก็จะรู้แค่ในมุมมองแคบตามที่เรียนมา รู้ไม่เท่าทันเท่าครูที่จบสายอื่น ติดอยู่ที่ความรู้เดิม เหมือนที่ครูวิทยาศาสตร์ก็รู้แต่เรื่องวิทยาศาสตร์"

"ไม่เรียนครูก็สอบครูได้"แก้ปัญหาการศึกษาไทยจริงหรือ?

 

สอนเด็กไม่ใช่เรื่องหมูๆ

ผศ.ดร.รัฐกรณ์ คิดการ ประธานสภาคณาจารย์ และข้าราชการแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประสบการณ์ที่จบคณะครุศาสตร์มาแล้วได้ไปสอนเด็ก มีความตั้งใจที่จะสอนเด็กมาก แต่เด็กไม่รู้ไม่เข้าใจในที่สุดถึงได้รู้ว่าการที่มีความรู้แล้วไปสอนเด็กทันทีไม่ได้ ต้องใช้เวลาสอนนานหลายปีถึงจะมองตาเด็กเข้าใจว่าเด็กต้องการอะไร

"มันเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ในหนังสือเรียน ต้องใช้เวลาศึกษาและทำความเข้าใจ ตอนนี้ต้องมองภาพรวมของทั้งประเทศ ไม่ได้มองแค่จุดใดจุดหนึ่ง ต้องมองว่าจะไปสอนใคร เพราะการสอนเด็กแต่ละระดับมีความแตกต่างกัน ทั้งการสอนเด็กที่เก่งและการสอนเด็กที่อ่อน
หลายคนบอกว่าให้ติวเตอร์ไปสอนเด็กก็ได้ เพราะติวเตอร์เก่งมาก แต่ผมกลับมองว่าติวเตอร์ก็สอนได้แค่เด็กที่เก่ง ลองให้ติวเตอร์สอนเด็กที่อ่อนดูจะทำได้ไหม ผมเคยไปสอนที่โรงเรียนสาธิต ผมตกใจมาก แค่ก้าวขาเข้าไปถึงหน้าประตูห้อง เด็กแย่งกันถามสิ่งที่ไม่เข้าใจจนหมดคาบ เราแทบไม่ต้องสอนอะไรด้วยซ้ำ เพราะเป็นสิ่งที่เด็กรู้อยู่แล้ว แต่พอมาสอนในระดับมหาลัยราชภัฎ พูดแทบเป็นแทบตายจนหมดคาบ พอถามว่าสงสัยอะไรไหมสุดท้ายก็ไม่มีคนถาม นี่คือจุดที่ต่างอย่างเห็นได้ชัด"

ผศ.ดร.รัฐกรณ์ กล่าวต่อว่า  การศึกษาเป็นเรื่องที่ต้องพัฒนาคน ต้องมีการคิดอย่างเป็นระบบ การพัฒนาต้องใช้เวลา ครูไม่ได้เป็นเพียงผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้เท่านั้น แต่เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจด้วย ยอมรับว่าการมีใบประกอบวิชาชีพมีความจำเป็น โดยเฉพาะครูชั้นประถมศึกษา เพราะเป็นครูที่สอนเด็กเล็ก ต้องสอนทุกอย่าง และทุกวันนี้การสอบของนักเรียนในวิชาต่างๆ หรือการสอบบรรจุครูก็เป็นการสอบที่ดูแลความรู้ แต่ไม่ได้ดูที่คุณธรรม หากมีข้อสอบที่วัดความรู้มา ก็แค่ท่องจำและนำไปสอบ ใครๆก็ทำได้

"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ท่านเป็นคนที่เก่ง แต่ไม่เข้าใจเรื่องปัญหาการศึกษา การศึกษาคือการพัฒนาคน ต้องคิดอย่างเป็นระบบ เพราะตอนนี้คุณภาพการศึกษาไทยต่ำทั่วประเทศ ต่ำทุกสาขา ทุกมหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงควรควรพัฒนาไปพร้อมกันทั้ง 3 ด้าน คือ ความรู้ ทักษะ เจตคติ ตอนนี้เราวัดกันแค่ด้านเดียวคือ ความรู้ การตกต่ำของคนไทยไม่ใช่เรื่องคุณภาพแต่เป็นเรื่องคุณธรรม ครูไม่ได้เป็นเพียงผู้ถ่ายทอดวิชา แต่เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ"

"ไม่เรียนครูก็สอบครูได้"แก้ปัญหาการศึกษาไทยจริงหรือ?

 

ทางออกวิกฤตอาชีพครู

ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ อดีตประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) กล่าวว่า คนที่ไม่ได้เรียนครูมาโดยตรงสามารถเป็นครูได้ แต่จะดีกว่าและไม่เสี่ยงถ้าได้รับการฝึกฝนวิธีการสอน ไม่ใช่ว่าคนเป็นครูอยากสอนก็สอนได้เลยทันที ต้องมีเงื่อนไขที่เรียกว่า "VUCA" มาจากคำว่า Volatility (ความผันผวน) Uncertainty (ความไม่แน่นอน) Complexity (ความซับซ้อน) และ Ambiguity (ความคลุมเครือ) หลังจากที่ครูผ่านการอบรมและฝึกฝนแล้ว คนที่ไม่ได้เรียนด้านครูมาโดยตรงก็จะสามารถเป็นครูผู้สอนได้ทั้งหมดในทุกระดับชั้น ทุกวิชา เพราะผู้เรียนแตกต่างกัน ผู้สอน วิธีสอน วิธีความรู้ก็แตกต่างเหมือนกัน

"การเป็นครูนั้นไม่สามารถที่จะสอนวิธีเดียวกันให้กับเด็กนักเรียนได้ทุกคน ในวงการครูก็มีครูที่ไม่จบครุศาสตร์โดยตรงมาสอนและสามารถสอนดีก็มีเหมือนกัน และครูที่จบครุศาสตร์โดยตรงมาสอนเด็กนักเรียนแล้วสอนได้แย่ก็มี ทั้งผู้เรียนและผู้สอนต่างกัน ความรู้ที่ได้รับก็ต่างกันด้วย"

ผศ.ดร.สุรวาท ยืนยันว่า การศึกษาทุกวันนี้ไม่ได้ตกต่ำเพราะครู และครูก็ไม่ได้ขาดแคลนแต่อย่างใด ยังมีครูที่ติดค้างอยู่ระบบอีกมาก เพราะที่ผ่านมาคุรุสภาได้เข้าไปปรับปรุงมาตรฐานการผลิตครูมาตลอด

"ตอนนี้ครูทั้งประเทศ ครูเก่ามี 70 - 75 % ผลิตโดยหลักสูตรในระบบเก่า ส่วนครูใหม่ที่จบจากหลักสูตรระบบใหม่ก็ได้เข้าสู่ระบบเพียงแค่ 10 - 15% เท่านั้น  ที่คุรุสภายังไม่ได้มีควบคุมและแนวทาง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ปิดกั้น เราเดินทางมาถูกทางแล้ว เพียงแต่ต้องมาปรับแนวทาง มีการรองรับงาน ไม่รองรับแบบสะเปะสะปะ"

"ไม่เรียนครูก็สอบครูได้"แก้ปัญหาการศึกษาไทยจริงหรือ?

 

สำหรับแนวทางในการจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องตั๋วครูและผลิตครูให้ตอบโจทย์กับการศึกษาไทย ผศ.ดร.สุรวาท กล่าวว่า ควรปรับหลักสูตรครูให้เข้มข้นขึ้น ควรกำหนดนโยบายให้ชัดเจน เป็นไปได้ไหมที่เด็กที่จบครูมาโดยตรง 5 ปี จะสอนได้ดีและมีความมั่นใจมากกว่า ส่วนคนที่ไม่ได้จบครูมาโดยตรงแต่อยากสอน ควรไปเรียนเพิ่มอีกสัก 1 – 2 ปี เพื่อเพิ่มทักษะการสอน

"ครู 1 คนต่อนักเรียน 1 ห้อง กี่คน ต้องการครูจากสาขาวิชาไหน สาขาวิชาไหนที่ครูขาดแคลน มีช่องว่างการศึกษาตรงไหน ควรควบคุมให้ชัด บางโรงเรียนครูเยอะจนล้น บางโรงเรียนครูขาดจนไม่พอต่อการสอนของเด็ก หากต้องการปรับคุณภาพการศึกษาอย่างแท้จริงคิดว่าแนะนำมาถูกทาง แต่ต้องเลือกเด็กและครูผู้สอนให้สอดคล้องกับความต้องการ ปัจจุบันมีสถาบันที่ผลิตครูกว่า 200 แห่ง เปิดโดยที่คุรุสภาไม่รู้ เพราะคุรุสภาไม่มีระบบและมาตรการควบคุมสถาบันผลิตครูมากพอ ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ต้องกำหนดมาตรฐานวิชาชีพให้ชัดเจน หน่วยงานที่ต้องใช้ครูต้องมีแผนการจัดการอย่างชัดเจน ต้องการครูจบจากสาขาอะไร ต้องใช้จำนวนคนเท่าไหร่ อัตราเกษียณอายุเมื่อถึงอายุเท่าไหร่ และควรบอกล่วงหน้า เพราะครูไม่ได้เกษียณพร้อมกันทั้งหมด แต่ทยอยกันเกษียณ ถึงแม้จะเริ่มกำหนดทิศทางการผลิตครูและการศึกษาได้อย่างดีแล้ว แต่การเลือกเด็กนักเรียน การเลือกครู และการพัฒนาครู การปรับปรุงสภาพแวดล้อมจะต้องสอดคล้องกับความต้องการทั้งปริมาณและคุณภาพการศึกษาด้วย"

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การเสนอมุมมองของเรื่องการมีตั๋วครู เพื่ออำนวยและเปิดรับครูเท่านั้น สพฐ.ยังยืนยันว่ามีความจำเป็นที่ต้องได้ครูที่มีคุณภาพตรงตามสาขาที่สถานศึกษาต้องการ และได้ทันเวลา เมื่อต้องการให้เป็นแบบนี้ หลายฝ่ายมองว่าจึงควรจัดระบบครูและครูผู้ช่วยให้เกิดความเท่าเทียมกัน

"ไม่เรียนครูก็สอบครูได้"แก้ปัญหาการศึกษาไทยจริงหรือ?


ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68