สเปซเอกซ์จะไปดวงจันทร์
ในบรรดาบริษัทเอกชนที่ทำกิจการด้านอวกาศของโลก สเปซเอกซ์ (SpaceX) เป็นบริษัทที่เราได้ยินข่าวคราวบ่อยที่สุด
โดย...วรเชษฐ์ บุญปลอด
ในบรรดาบริษัทเอกชนที่ทำกิจการด้านอวกาศของโลก สเปซเอกซ์ (SpaceX) เป็นบริษัทที่เราได้ยินข่าวคราวบ่อยที่สุดบริษัทหนึ่งก็ว่าได้ เป็นความหวังที่จะส่งนักบินอวกาศชาวอเมริกันไปสู่สถานีอวกาศนานาชาติ หลังจากกระสวยอวกาศขององค์การนาซ่าซึ่งใช้งานมานานต้องยุติบทบาทลง ผู้บริหารของสเปซเอกซ์ประกาศในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าสเปซเอกซ์มีแผนจะส่งมนุษย์ไปโคจรใกล้ดวงจันทร์ในปลายปีหน้า
สเปซเอกซ์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 ทำหน้าที่ออกแบบ พัฒนา ก่อสร้าง ปล่อยจรวดและยานอวกาศออกไปนอกโลก โดยเป้าหมายสูงสุดที่บริษัทวางไว้คือการทำให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่บนดาวดวงอื่น ซึ่งในสภาวะปัจจุบัน ดาวดวงอื่นที่ว่านี้ก็คือดาวอังคาร
การพัฒนาจรวดฟอลคอนและยานดรากอนเป็นเป้าหมายสำคัญของสเปซเอกซ์ในการใช้เทคโนโลยีอวกาศสำหรับส่งดาวเทียมและยานขนส่งมนุษย์หรือสัมภาระไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ นอกจากการส่งดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรรอบโลก สเปซเอกซ์ประสบความสำเร็จมาแล้วในการส่งยานอวกาศออกไปไกลนอกวงโคจรโลก ผลงานเด่นอีกอย่างหนึ่งคือการพัฒนาจรวดที่ใช้งานแล้วให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยควบคุมให้จรวดกลับมาลงจอดบนพื้นโลก
ปัจจุบันองค์การนาซ่ามีสัญญาว่าจ้างให้สเปซเอกซ์ออกแบบและพัฒนายานอวกาศที่สามารถนำสัมภาระและนักบินอวกาศไปส่งที่สถานีอวกาศนานาชาติ การส่งสัมภาระสามารถทำได้แล้ว แต่การส่งนักบินอวกาศให้เดินทางไปกับยานดรากอนมีแผนจะเริ่มทดสอบในปีนี้
วันที่ 27 ก.พ. 2560 สเปซเอกซ์ออกแถลงการณ์ว่ามีผู้สนับสนุนสองคนจ่ายเงินจำนวนมากให้บริษัทส่งพวกเขาไปโคจรใกล้ดวงจันทร์ในปี 2561 แถลงการณ์ระบุว่าจะมีการทดสอบด้านสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย หากผ่านการทดสอบจะต้องมีการฝึกฝนสำหรับการปฏิบัติตัวในสถานการณ์ฉุกเฉิน นอกจากผู้โดยสารทั้งสองและนักบินซึ่งทำหน้าที่ควบคุมยาน คาดว่าอาจมีผู้สนใจร่วมเดินทางไปด้วยเพิ่มเติม รายชื่อนักบิน ลูกเรือ และผลการทดสอบจะเปิดเผยในระยะต่อไปภารกิจไปดวงจันทร์นี้ สเปซเอกซ์จะใช้จรวดฟอลคอนเฮฟวี (Falcon Heavy) ซึ่งมีจรวดขับดันที่สามารถส่งยานอวกาศที่มีน้ำหนักมากกว่าจรวดรุ่นที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม จรวดรุ่นนี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา มีแผนจะทดสอบครั้งแรกภายในปีนี้ โดยจะถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศจากฐานปล่อยบนแหลมคานาเวอรัลภายในศูนย์อวกาศเคนเนดี ซึ่งเป็นสถานที่ปล่อยจรวดในโครงการอะพอลโล ส่วนยานดรากอนที่มีเป้าหมายในการส่งมนุษย์ไปสถานีอวกาศนานาชาติก็จะเริ่มทดสอบในปีนี้ และคาดว่าจะสามารถส่งมนุษย์ไปกับยานดรากอนได้ในปี 2561
การไปดวงจันทร์ในครั้งนี้ไม่ใช่การลงจอดบนพื้นผิว ยานจะโคจรอ้อมหลังดวงจันทร์แล้วเดินทางกลับโลก ภารกิจนี้ใช้เวลาราวหนึ่งสัปดาห์ หากเป็นไปตามแผน จะเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 46 ปี ที่มนุษย์เดินทางไปใกล้ดวงจันทร์ หลังจากนักบินอวกาศของนาซ่าไปสัมผัสดวงจันทร์ครั้งสุดท้ายด้วยยานอะพอลโล 17 ในปี 2515
แผนของสเปซเอกซ์ที่จะส่งมนุษย์ไปโคจรใกล้ดวงจันทร์ในปี 2561 ค่อนข้างสร้างความประหลาดใจ หลายคนตื่นเต้นที่จะมีการส่งมนุษย์ไปใกล้ดวงจันทร์อีกครั้งในเร็วๆ นี้ ขณะที่อีกหลายคนไม่เชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามกำหนด แผนการส่งยานเรดดรากอน (Red Dragon) ไปดาวอังคารในปี 2561 ที่ประกาศไว้เมื่อปีที่แล้วก็มีอันต้องเลื่อนไปเป็นปี 2563
ก่อนหน้านี้เราได้ยินข่าวเกี่ยวกับยานฉางเอ๋อ 5 ของจีนที่จะถูกส่งไปเก็บตัวอย่างดินบนดวงจันทร์กลับมาโลกในปี 2560 อินเดียเตรียมส่งจันทรายาน-2 ไปลงบนพื้นผิวดวงจันทร์ในปี 2561 ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐอเมริกาก็แสดงความสนใจที่จะให้นาซ่ากลับไปดวงจันทร์ภายในปี 2563 ซึ่งเป็นนโยบายที่ต่างไปจากโอบามาที่ต้องการส่งมนุษย์ไปดาวอังคารมากกว่า ปัจจุบันดวงจันทร์จึงกลับมาเป็นเป้าหมายที่ได้รับความสนใจจากทุกคน
ปรากฏการณ์ท้องฟ้า (5-12 มี.ค.)
ดาวศุกร์เป็นดาวสว่างเด่นอยู่บนท้องฟ้าทิศตะวันตกในเวลาหัวค่ำ โดยมีดาวอังคารซึ่งจางกว่ามากอยู่เหนือขึ้นไป ดาวศุกร์ยังคงอยู่ในกลุ่มดาวปลา ดาวอังคารจะออกจากกลุ่มดาวปลาเข้าสู่กลุ่มดาวแกะในปลายสัปดาห์ เราจะสังเกตได้ว่าดาวศุกร์มีมุมเงยต่ำลงทุกวันเมื่อเทียบตำแหน่งบนท้องฟ้าในเวลาเดียวกัน เนื่องจากดาวศุกร์มีมุมห่างจากดวงอาทิตย์ลดลงเรื่อยๆ ทำให้ตกเร็วขึ้น ต้นสัปดาห์ตกลับขอบฟ้าราว 2 ทุ่มเศษ ปลายสัปดาห์ตกราว 1 ทุ่มครึ่ง
ดาวพฤหัสบดีอยู่ใกล้ดาวรวงข้าวในกลุ่มดาวหญิงสาว เริ่มเห็นเหนือขอบฟ้าตะวันออกตั้งแต่เวลา 3 ทุ่ม เคลื่อนสูงถึงจุดสูงสุดบนท้องฟ้าด้านทิศใต้ในเวลาตี 2 ครึ่ง แล้วคล้อยต่ำลงไปทางทิศตะวันตกในเวลาเช้ามืด ดาวเสาร์อยู่ในกลุ่มดาวคนยิงธนู ขึ้นมาอยู่เหนือขอบฟ้าทิศตะวันออก ค่อนไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่มุมเงย 10 องศา ตั้งแต่เวลาประมาณตี 2
สัปดาห์นี้เข้าสู่ครึ่งหลังของข้างขึ้น คืนวันที่ 5 มี.ค. ดวงจันทร์สว่างครึ่งดวงอยู่ใกล้ดาวอัลเดบารันในกลุ่มดาววัวที่ระยะห่าง 5 องศา ดวงจันทร์เคลื่อนไปทางทิศตะวันออกมากขึ้นทุกวันพร้อมกับส่วนสว่างที่เพิ่มขึ้น เช้ามืดวันที่ 11 มี.ค. ก่อนดวงจันทร์ตกราวตี 5 ดวงจันทร์จะผ่านใกล้ดาวหัวใจสิงห์ในกลุ่มดาวสิงโตที่ระยะ 2 องศา แล้วสว่างเต็มดวงในวันถัดไป


