posttoday

จับหม่อมเก๊แต่งกายเลียนแบบทหาร-ฉ้อโกงเงินชาวบ้าน

20 ธันวาคม 2559

นครสวรรค์-รวบหม่อมเก๊คาโรงพักขณะไปให้การคดีฉ้อโกงเงินชาวบ้าน ตำรวจตั้งสองข้อหาหนัก

นครสวรรค์-รวบหม่อมเก๊คาโรงพักขณะไปให้การคดีฉ้อโกงเงินชาวบ้าน ตำรวจตั้งสองข้อหาหนัก  

เมื่อวันที่20ธ.ค.59 พ.ต.ต.สามารถ สาโรจน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้เชิญนายชัยรินทร์ หรือหม่อมบิ๊ก อิศรางกูร ณ อยุธยา ชาว อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี มาสอบปากคำ หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ก่อนหน้านี้ ว่าถูกนายชัยรินทร์ ซึ่งแอบอ้างว่าเป็นหม่อม และเป็นนายทหารยศใหญ่ หลอกยืมเงิน โดยมีผู้เสียหาย 4 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท

โดยนายชัยรินทร์แต่งกายคล้ายชุดทหาร เดินทางมาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจพร้อมกับเพื่อนหญิงสาวไม่เปิดเผยนาม และมีกำลังฝ่ายทหาร จาก มทบ.31 ค่ายจิระประวัติ เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์เตรียมเอาผิดกับนายชัยรินทร์อีกทอดหนึ่งด้วย
 
ระหว่างการสอบปากคำ นายชัยรินทร์ได้พูดเสียงดังต่อว่า กลุ่มนักข่าวที่บันทึกภาพอ้างว่า ชุดที่ใส่ให้เห็นนี้ไม่ใช่ชุดทหาร แต่เป็นแบบฟอร์มชุดนักข่าว สังกัดนสพ.เก้าเหล่าทัพไทย มีสำนักงานอยู่ที่จ.ชลบุรี และชี้ไปที่ปกเสื้อของตัวเองว่า ตราที่ติดอยู่คอปกเสื้อ เป็นดาว 6 แฉก หมายถึงตำแหน่งหัวหน้าเฉพาะกิจฝ่ายข่าว

ส่วนการสอบปากคำ นายชัยรินทร์ให้การยอมรับว่า เคยยืมเงินผู้เสียหายบางคนเท่านั้น จึงมีการโต้เถียงกับกลุ่มผู้เสียหายอยู่พักใหญ่ ก่อนที่นายชัยรินทร์จะมีการนำโทรศัพท์มากดเบอร์โทรหาพรรคพวกรายหนึ่ง ซึ่งนายชัยรินทร์เรียกนามปลายสายว่า"ท่านนายกฯ"
 
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้มีการตรวจสอบประวัติ จนพบเจอเฟซบุ๊กของนายชัยรินทร์ ใช้ชื่อว่า “หม่อมบิ๊ก บิ๊ก” เจ้าตัวแต่งกายชุดทหารเต็มยศ ไปปรากฏตัวตามสถานที่ต่างๆ และภาพถ่ายร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการอีกหลายคน และมักจะโพสต์ข้อความ ทำนองว่าไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชน และตรวจสอบการทุจริตของข้าราชการ สุดท้าย นายชัยรินทร์จึงถูกพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามหลักฐาน 2 ข้อหา ฐานฉ้อโกงทรัพย์ และแต่งกายเลียนแบบทหาร

จากนั้น จึงมีการนำตัวนายชัยรินทร์ ไปตรวจค้นรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีส้ม หมายเลขทะเบียน กจ 1712 อุทัยธานี ปรากฏว่า ภายในรถพบอาวุธปืน 9 มม. ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก แม็กกาซีน 2 ตลับ เครื่องกระสุนปีขนาด 9 มม. 32 นัด ชุดแต่งการเลียนแบบทหาร 2 ชุด และบัตรประจำตัวแอบอ้างอีกหลายหน่วยงาน

นอกจากนี้ รถคันดังกล่าว ยังมีการไฟไซเลนท์บนหลังคารถอีกด้วย จึงถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหลายข้อหา พร้อมกับจะมีการตรวจสอบประวัติเพื่อขยายผลต่อไป 
 
ด้าน นางธนพร ถี่ถ้วน อายุ 64 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยพฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้ว่า ถูกนายชัยรินทร์ พร้อมพรรคพวกอีก 4 คน ทำทีเข้ามาตีสนิท ระหว่างไปทำบุญที่วัดที่วัดแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2553 ขณะนั้นนายชัยรินทร์อ้างตัวว่า เป็นนักข่าวสังกัด นสพ.เบาะแส มาสืบเรื่องคดีฆาตกรรมคดีหนึ่ง ซึ่งก็ได้มีติดต่อพูดคุยกันเรื่อยมา จนมาถูกนายชัยรินทร์ขอยืมเงิน ครั้งแรกยืมไป 4,000 บาท จากนั้นก็ถูกขอยืมอยู่บ่อยครั้งครั้งละหลายหมื่น อ้างเอาไปทำธุรกิจรับเหมา จนถึงขนาดที่ต้องนำที่ดินไปจำนอง เพื่อเอาเงินมาให้นายชัยรินทร์ยืม รวมกันทั้งหมดกว่า 2 ล้านบาท แต่เมื่อขอทวงเงินคืนกลับถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมาตลอดนอกจากนี้ นายชัยรินทร์ยังมีการไปขอยืมเงินบุตรชายของตนอีก 3 แสนบาทด้วย

ส่วนพฤติกรรมของชัยรินทร์ หลายครั้งจะมีการอ้างตัวว่าเป็นหม่อม และมีการโชว์บัตรประจำตัวว่าเป็นคนนามสกุลดัง ชอบแต่งกายเครื่องแบบคล้ายทหารด้วย จึงทำให้หลงเชื่อยอมให้ยืมเงินไปดังกล่าว
 
ขณะที่ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า เปิดร้านค้าวัสดุก่อสร้างในอ.เมืองนครสวรรค์ ถูกนายชัยรินทร์เข้ามาติดต่อซื้อของที่ร้าน แต่ติดเงินไว้ก่อน อีก 2-3 วัน จะมาจ่ายคืน มีการอ้างตัวเป็นหม่อม และเป็นทหารยศใหญ่มาเกลี้ยกล่อมให้ความน่าเชื่อถือ จึงหลงกลยอมให้ติดหนี้ค่าของรวมกันมูลค่าหลายแสนบาท จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อทวงเงินได้อีกเลย กระทั่ง ไปพบกับผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ถูกนายชัยรินทร์หลอกยืมเงินไม่คืนเช่นกัน จนมีการรวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดี.

ข่าวล่าสุด

ล้ำไปอีกขั้น เสื้อกั๊ก AI ช่วยผู้ป่วยหลอดเลือดสมองขยับแขน