posttoday

‘อยากประสบความสำเร็จ ต้องกล้าคิด และลงมือทำ’ พงศ์นรินทร์ อุลิศ

02 ตุลาคม 2559

พงศ์นรินทร์ อุลิศ คือผู้บริหารโรงภาพยนตร์เฮ้าส์ อาร์ซีเอ และผู้ก่อตั้ง Cat Radio เขาคือคนที่เด็กแนวต่างยกให้เป็นผู้นำ

โดย...มีนา

พงศ์นรินทร์ อุลิศ คือผู้บริหารโรงภาพยนตร์เฮ้าส์ อาร์ซีเอ และผู้ก่อตั้ง Cat Radio เขาคือคนที่เด็กแนวต่างยกให้เป็นผู้นำ และผู้เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นใหม่ๆ ได้แจ้งเกิดมาแล้วหลายราย โดยที่ปัจจุบันศิลปินเหล่านี้ได้ไปโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงอย่างสวยงาม พงศ์นรินทร์คิดเสมอว่าโลกนี้มีสิ่งสวยงามอีกมากมาย คลื่นเพลงของเขาจึงนิยมเปิดแต่เพลงที่ยังไม่ฮิต เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนฟัง ล่าสุดเขากำลังเตรียมจัดงาน แคท เอ็กซ์โป งานมหกรรมดนตรีที่ทุกคนเรียกกันว่า “วันชาติของเด็กแนว” เลยทีเดียว งานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยใช้ชื่อว่า Cat Expo 3D ซึ่งจะเกิดขึ้นบนพื้นที่กว่า 40 ไร่ของลุมพินีสแควร์ ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 5-6 พ.ย.นี้

งานที่พงศ์นรินทร์จัดมักจะมีเอกลักษณ์โดดเด่น จนทำให้ถูกมองว่าเป็นผู้นำทางความคิดของเด็กแนว เด็กอินดี้ หรือฮิปสเตอร์อะไรก็แล้วแต่ แต่ในมุมมองของพงศ์นรินทร์แล้ว เขาแค่อยากจัดงานดีๆ สนุกๆ เพื่อให้ทุกคนได้มาร่วม

“เราคือ แคท เรดิโอ เราทำรายการวิทยุที่เปิดเพลงที่เราชอบเพื่อสร้างเพลงฮิตใหม่ๆ มากกว่าเปิดเพลงที่ดังแล้ว เพราะผมเชื่อว่ายังมีศิลปินดีๆ ที่รอโอกาสแจ้งเกิดอีกมากมาย เราทำรายการแมวๆ ให้คนอายุ 15-35 ปีฟัง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือผู้ชิง รวมทั้งใครก็ตามที่มีรสนิยมแบบเรา ซึ่งงานมหกรรมล่าสุดที่พวกเรากำลังทำจะมีโชว์มากถึง 100 โชว์ เพื่อบอกคนบอกโลกนี้มีความหลากหลาย แล้วพวกคุณไปเลือกชอบเอา มหกรรมเมื่อปีที่แล้วศิลปินนำซีดีมาขายในงานสามารถหอบเงินล้านกลับบ้านได้ งานของเราถือเป็นมหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยก็ว่าได้”

ความคิดและสิ่งที่พงศ์นรินทร์สร้างสรรค์เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ศิลปินรุ่นใหม่ๆ ให้มีกำลังต่อสู้ต่อไป แม้เส้นทางการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงจะยาก แต่ต้องให้โอกาสศิลปินรุ่นใหม่ได้แจ้งเกิด เพราะอย่างน้อยๆ ศิลปินอย่าง บอดี้สแลม ก็เริ่มต้นจากศูนย์มาก่อน แนวคิดของการสร้างสรรค์งานของพงศ์นรินทร์ตั้งอยู่บนพื้นฐานง่ายๆ ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อนก็คือ แค่ใช้ตาดู ใช้หูฟัง แล้วก็จะมองเห็นสิ่งที่เป็นจริง

“หากย้อนกลับไปตั้งแต่ผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมที่โรงเรียนสวนกุหลาบ ผมเป็นเด็กค่อนข้างช่างคิด กล้าทำ และเมื่อคิดเสร็จผมลงมือทำทันที เช่น ตอนผมอยู่มัธยมห้า ผมมีแนวคิดว่าทำไมเราไม่เลิกเรียนเร็วหนึ่งวันเพื่อจัดกิจกรรม นำภาพยนตร์สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาดู และมีคอนเสิร์ตของพี่หงา คาราวาน ซึ่งเมื่อผมคิดผมจึงชวนเพื่อนไปหอภาพยนตร์แห่งชาติเพื่อขอเข้าพบผู้บริหาร และบอกถึงจุดประสงค์ว่าผมอยากเอาหนังสมัยเมื่อ 70 ปีที่แล้วเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองไปให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียนได้ชม ซึ่งผู้บริหารหอภาพยนตร์แห่งชาติในสมัยนั้นก็มองหน้าผมแบบงงๆ ว่ามันเป็นสมบัติของชาตินะ ให้ยืมไม่ได้ ผมก็เออ จริง ของเหล่านี้หายากและมีค่า ผมก็เดินกลับไป แต่ผมไม่รู้สึกเสียใจ เพราะผมได้พยายามทำมันอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ผมสามารถเชิญพี่หงา คาราวาน ไปร้องที่งานโรงเรียนของผมได้ เพราะมาจากผมคิดแล้วลงมือทำเลย”

พงศ์นรินทร์ยังพูดถึงการหาแรงบันดาลใจในการจัดงานมหกรรมดีๆ ว่า “คนที่เคยตั้งคำถามว่า แรงบันดาลใจอยู่ไหน จริงๆ เราไม่ต้องมานั่งหา มันอยู่ที่ตัวเรานั่นแหละ เราจะให้คุณค่ากับการมองชีวิตแบบไหน

“ผมโชคดีที่เจอมุมเล็กๆ ที่ผมชอบ ถามตัวเองก่อนว่าเราจะให้คุณค่ากับชีวิตแบบไหน เลือกมองหา แต่ในวันที่เรานึกไม่ออก เปิดใจกับสิ่งที่มันเห็นตำตาก็ได้ มองรอบตัวมีสิ่งดีๆ เยอะไปหมด อยู่ที่เราจะเลือกมอง เช่น คุณจะมองฝนตกรถติดอีกแล้ว หรือนั่งคิดเวลาฝนตก มันอยู่ที่ว่าเราจะเลือกมองชีวิตแบบใด”

สุดท้ายเขาอยากฝากไปถึงน้องๆ รวมทั้งคนรุ่นใหม่ว่า โลกนี้ไม่มีสูตรความสำเร็จตายตัว หากอยากให้ตัวเราเองเป็นอะไร หรือลูกเราเป็นอะไร ควรให้เขาอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนั้น โดยเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ตรงนั้น แล้วก็ดูว่าท้ายที่สุดตัวเราหรือลูกเราตัวตนแท้ๆ โดยธรรมชาติเขาเป็นอย่างไร และให้ลูกเดินไปตามเส้นทางที่เขาอยากเลือกเองดีที่สุด อย่าไปบังคับหรือฝืนธรรมชาติของเขา

ข่าวล่าสุด

สยามพิวรรธน์คว้า 2 รางวัลโลก พร้อมเปิด NEXTOPIA สยามพารากอน