posttoday

'ชาญชัย'ประธานใหม่มาสด้าเปิดแผน6-7-8โกยส่วนแบ่ง

16 กันยายน 2559

แผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของบริษัทในปีนี้มี 6 รุ่นด้วยกัน ซึ่งเปิดไปแล้วทั้งหมด 5 รุ่น และจะเปิดตัวรุ่นสุดท้ายคือ มาสด้า 3 ใหม่ช่วงเดือน พ.ย.

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

เริ่มต้นดำเนินตามนโยบายภายหลังเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) ในฐานะประธานบริษัทที่เป็นชาวไทยคนแรกของบริษัทของ ชาญชัย ตระการอุดมสุข ที่ได้ให้ความสำคัญด้านการสื่อสารและพัฒนาบริการหลังการขายเป็นอันดับแรก

"สิ่งสำคัญที่เรามองเห็นคือ การซื้อขายรถยนต์อาจจะสิ้นสุดกระบวนการขายแค่ครั้งเดียว แต่การบริการหลังการขาย ลูกค้าจะต้องอยู่กับเราไปตลอดจนสิ้นสุดอายุของรถยนต์คันนั้น จึงต้องทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น" ชาญชัย กล่าว

ทั้งนี้ที่ผ่านมาธุรกิจด้านการบริการหลังการขาย ไม่ได้เป็นการทำธุรกิจเชิงรุก แต่หลังจากนี้จะมีการทำธุรกิจด้านบริการหลังการขายเชิงรุกมากขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจและลดจุดอ่อนดังกล่าวที่มีมาของบริษัทมาโดยตลอด

หลังจากนี้จะได้เห็นรูปแบบการให้บริการใหม่ของมาสด้า โดยบริษัทได้มอบนโยบายไปยังผู้แทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) ทั่วประเทศ ดังนี้ 1.การจัดบริการพนักงานรับ-ส่งรถยนต์ของลูกค้าเพื่อเข้ารับบริการตรวจเช็กตามระยะทาง การเปิดให้บริการในส่วนศูนย์บริการตลอด 7 วันทั้งสัปดาห์ และการพัฒนาห้องพักรับรองในโชว์รูมให้สะดวกสบายและทันสมัย รวมถึงการบริหารจัดการของระบบให้บริการหลังการขาย เป็นต้น

ล่าสุด บริษัทได้เปิดศูนย์จำหน่ายและบริการ (โชว์รูม) แห่งใหม่บนถนนพระราม 2 ภายใต้ชื่อ "มาสด้า เอ็ม.เค." ซึ่งเป็นโชว์รูมต้นแบบตามอัตลักษณ์องค์กร Mazda Corporate Identity (MCI) โดยมีแผนพัฒนาดีลเลอร์ในรูปแบบดังกล่าวจำนวนรวม 15 แห่งในปีนี้ และจะครบทั้ง 147 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2561

สำหรับแผนพัฒนาดีลเลอร์ของ มาสด้าดังกล่าว จะส่งผลให้ดีลเลอร์มีกำไรจากการทำธุรกิจเพิ่มขึ้นและมีความสุขในการทำงานร่วมกับบริษัทโดยนโยบายของบริษัทยืนยันว่า ใช้วิธีดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาที่โชว์รูมด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และไม่ได้มีการเพิ่มปริมาณสต๊อกรถยนต์ให้กับดีลเลอร์ เพื่อให้อัดโปรโมชั่น ระบายสต๊อกอย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันสต๊อกในดีลเลอร์ของมาสด้าอยู่ที่ในระดับ 1 เดือนเท่านั้น

ชาญชัย กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้บริหารชาวไทยถือเป็นโอกาสในการบริหารงานที่สามารถสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นให้กับพนักงานและ ดีลเลอร์ได้ด้วยภาษาเดียวกัน สามารถลดช่องว่างด้านการสื่อสารและสามารถพัฒนาการบริการให้ดีขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไป 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ของปี 2559 บริษัทมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 23% หรือมียอดขายอยู่ที่ 28,184 คัน และได้ปรับเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 4.5 หมื่นคัน จากต้นปีคาดว่าอยู่ที่ 4.2 หมื่นคัน โดยในปี 2558 อยู่ที่ 3.9 หมื่นคัน ซึ่งการปรับเป้าหมายเพิ่มขึ้นมาจากปัจจัยการเลือกตั้งสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีหลัง และทิศทางที่ชัดเจนของรัฐบาลรวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว อีกทั้งการสิ้นสุดโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรกปลายปี รวมถึงงานมหกรรมรถยนต์จะกระตุ้นตลาดได้ในช่วงปลายปี คาดว่าตลาดรวมรถยนต์ในประเทศปีนี้จะอยู่ที่ 7.8 แสนคันไม่เปลี่ยนแปลง

นอกจากนั้นเป้าหมายสำคัญด้านยอดขายในการเข้ารับตำแหน่งภายใน 3 ปีจากนี้ อยากเห็นอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 10% ต่อปี และจะต้องมีอัตราการเติบโตของส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 6% ภายในปี 2559 เพิ่มเป็น 7% ภายในปี 2560 และเพิ่มเป็น 8% ในปี 2561 จาก 8 เดือนของปีนี้ ส่วนแบ่งตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 5.7%

ขณะที่กลุ่มตลาดที่โฟกัสหลังจากนี้อยู่ในกลุ่มรถยนต์นั่งและรถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี) ส่วนกลุ่มรถกระบะจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากเชื่อว่าตลาดกระบะเป็นเซ็กเมนต์หลักของประเทศอยู่แล้ว แต่เซ็กเมนต์ที่จะมีการเติบโตคือรถยนต์นั่งและรถเอสยูวีในอนาคต

แผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของบริษัทในปีนี้มี 6 รุ่นด้วยกัน ซึ่งเปิดไปแล้วทั้งหมด 5 รุ่น และจะเปิดตัวรุ่นสุดท้ายคือ มาสด้า 3 ใหม่ช่วงเดือน พ.ย.