ชีวิตใหม่ของแมวพิการ ชีวิตใหม่ของผม
วินาทีที่รู้ตัวว่าถอยรถเหยียบลูกแมว หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม --- นี่กูกำลังจะกลายเป็นฆาตกรเหรอวะเนี่ย
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล
วินาทีที่รู้ตัวว่าถอยรถเหยียบลูกแมว หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม --- นี่กูกำลังจะกลายเป็นฆาตกรเหรอวะเนี่ย
วิ่งลงไปดูด้วยความตกใจก็พบกับภาพอันน่าสะเทือนอารมณ์ ลูกแมวน้อยตัวหนึ่งกำลังคลานกระเสือกกระสน ขาหลังสองข้างครูดกับพื้นคล้ายนางเงือกเกยตื้นพยายามกลับสู่ท้องทะเล จึงรีบอุ้มพาไปส่งโรงพยาบาลสัตว์อย่างด่วนจี๋ ฝ่าการจราจรติดขัดเย็นวันศุกร์นานเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงมือหมอ ทั้งสงสาร ทั้งหวาดกลัวจับใจ กลัวมันตาย แหม! ก็เกิดมาไม่เคยขับรถทับใครมาก่อนนี่ครับ
ผลตรวจเอกซเรย์พบว่าไม่มีกระดูกชิ้นใดแตกร้าว ไม่มีอวัยวะภายในส่วนไหนบอบช้ำ แมวน้อยรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ ทว่าต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดนานนับสัปดาห์ แต่ข่าวร้ายจากปากหมอที่ทำผมแทบเข่าทรุด (พอๆ กับค่าใช้จ่ายในการรักษา) นั่นคือแมวตัวนี้อาจต้องเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต เนื่องจากไขสันหลังบอบช้ำอย่างหนัก ส่งผลต่อเส้นประสาท ทำให้ขาหลังทั้งสองข้างอ่อนแรง ลุกขึ้นยืนเดินไม่ได้ ฉี่อึเองไม่ได้ แต่หมอยังปลอบใจว่า หากได้รับการรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัด ฝังเข็ม กินยา ควบคู่กับการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของ โอกาสกลับมาหายก็ยังพอมีลุ้น
ผมตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตด้วยการรับแมวมาเลี้ยง ทั้งที่ชีวิตนี้ไม่เคยเลี้ยงสัตว์มาก่อน ยิ่งเป็นสัตว์พิการด้วยแล้ว ยิ่งเครียดหนักว่าจะเลี้ยงยังไง เลี้ยงแล้วมันจะหายกลับมาเป็นดังเดิมหรือไม่?
ท่ามกลางวิกฤตยังมีเรื่องดีงามเกิดขึ้น พี่น้องผองเพื่อนหลายคนต่างหยิบยื่นน้ำใจให้ชนิดที่ทำน้ำตาซึม บางคนบริจาคอาหารกระป๋องเป็นลัง บางคนแนะนำแหล่งขายอุปกรณ์เกี่ยวกับการเลี้ยงแมวราคาย่อมเยา บางคนให้คำปรึกษาวิธีดูแลแมวพิการอย่างเป็นห่วงเป็นใย หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวก็พลันฟื้นตื่นขึ้นมามีพลังเพราะกำลังใจจากคนรอบข้าง
การที่มีแมวพิการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน สร้างความเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง ผมต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าตรู่มาให้อาหาร ง้างปากป้อนยา หยอดวิตามิน บีบฉี่ บีบอึ แล้วเช็ดล้างทำความสะอาดให้หอมฉุย เกาคอเกาคางเล่นกับมัน ยืดแข้งยืดขาทำกายภาพบำบัดให้ ว่างก็นั่งเสิร์ชกูเกิลอ่านวิธีเลี้ยงแมวสำหรับมือใหม่ หาวิธีรักษาทุกวิถีทาง
กลิ่นแมวตลบอบอวลติดเสื้อผ้าเป็นเนื้อเดียวกันโดยมิต้องฉีดน้ำหอม
เวลาผ่านไปสองสัปดาห์ เจ้าแมวน้อยที่ตื่นกลัวหวาดระแวงก็เริ่มกลับมาคึกคัก กินเก่ง อยากรู้อยากเห็น ผมตั้งชื่อให้ใหม่เท่ๆ ว่า “จอห์น” มาจากคำว่าแมวจรจัด จำได้ว่าวันแรกที่พาไปรักษาหมอบอกว่า แมวอาเจียนออกมาเป็นเมล็ดข้าวสาร เศษกระดูกไก่ และอะไรต่อมิอะไรที่ชี้ชัดว่ามาจากถังขยะ คิดแล้วเวทนา ลูกแมวข้างถนนวัยเพียง 4 เดือน เดินยังเตาะแตะไม่คล่องแคล่ว ต้องเผชิญกับความหิวโหย ฝูงหมาดุ คนใจร้าย แถมยังต้องมาเจอไอ้โง่ที่ไหนไม่รู้ขับรถทับจนเกือบพิการอีก ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิด อยากจะชดใช้ด้วยการเลี้ยงมันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
การต่อสู้ครั้งนี้ดูท่าจะยืดเยื้อยาวนาน แต่ก็ต้องลองสู้ดูสักตั้ง จะสักเท่าไหร่เชียวกับการรักษาแมวกึ่งพิการให้กลับมาเดินได้ (ปาดเหงื่อแป๊บ) ซึ่งหมอยืนยันว่าถ้าทุกฝ่ายไม่ถอดใจเสียอย่าง ทั้งหมอ ทั้งผม ทั้งแมว งานนี้คงพอมีหวัง
สุดท้ายขอฝากข้อคิดขำๆ ที่คุณผู้ชายทั้งหลายสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตจริงนั่นคือ
ไม่ว่าจะคนหรือแมว ทับเขาแล้วต้องรับผิดชอบนะครับ อิอิอิ


