โลกรับความผันผวน เก็งเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ย
ภายหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 3.8 หมื่นอัตรา ยิ่งลดความคาดหวังของตลาดที่จะได้เห็นเฟด ขึ้นอัตราดอกเบี้ย
โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์
ภายหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 3.8 หมื่นอัตรา น้อยกว่าคาดการณ์ที่ 1.62 แสนอัตราเอาไว้มาก ก็ยิ่งลดความคาดหวังของตลาดที่จะได้เห็นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนเดือน ก.ค.จากราว 50% เมื่อสัปดาห์ก่อน เหลือเพียง 27% เท่านั้น
ดัชนีค่าเงินเหรียญสหรัฐของบลูมเบิร์กปรับตัวร่วงหลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวในวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา 1.5% ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ค่าเงินเหรียญสหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง โดยดัชนีค่าเงินดังกล่าวตกลงมากอยู่ที่ 93.867 จุด จากก่อนหน้าการปล่อยรายงานดังกล่าวที่ 95.638 จุด และอยู่ที่ 94.244 จุด เมื่อเวลา 12.14 น.ตามเวลาฮ่องกงของวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ค่าเงินเอเชียก็แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบค่าเงินเหรียญสหรัฐ เช่น ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นอยู่ที่ 106.35 เยน/เหรียญสหรัฐ ในการซื้อขายช่วงเช้าของวันที่ 6 มิ.ย. เมื่อเทียบกับการอ่อนค่าระดับเหนือ 109 เยน/เหรียญสหรัฐ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ขณะที่ค่าเงินริงกิตมาเลเซีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันถูกและข่าวอื้อฉาวทางการเมือง ยังแข็งค่าขึ้นเป็น 4.08 ริงกิต/เหรียญสหรัฐ เทียบกับ 4.1530 ริงกิต/เหรียญสหรัฐ ก่อนการเปิดเผยรายงาน
ด้านธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) ปรับค่าเงินหยวนขึ้น 0.5% หลังค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนตัวลง แต่ค่าเงินหยวนยังอ่อนค่าตามเงินเหรียญสหรัฐ แตะระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2014
ทิม ชโรเดอร์ส ผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เพนกานา แคปิตัล ในเมลเบิร์น เปิดเผยว่า หากเฟดเลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปอีก ค่าเงินในตลาดเกิดใหม่จะยิ่งแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ส่วนค่าเงินเยนของญี่ปุ่นที่แข็งค่าขึ้น ไม่เป็นผลดีต่อญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นไม่สามารถใช้นโยบายใดๆ ภายในได้เลย เนื่องจากปัจจัยภายนอกให้ผลกระทบที่รุนแรงกว่า
ดัชนีนิกเกอิ 225 ของญี่ปุ่นร่วงลงไปถึง 1.1% ระหว่างการซื้อขายในวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนปิดตลาดที่แดนลบ 0.37% สวนทางกับดัชนีเอ็มเอสซีไอตลาดเกิดใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% นำโดยตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ขณะที่ดัชนีเอ็มเอสซีไอเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเวลา 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นฮ่องกงของวันที่ 6 มิ.ย.
ตลาดเห็นต่าง เฟดถอยขึ้นดอกเบี้ย
เฟดมีกำหนดการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ โดยจากตัวเลขการจ้างงานที่น้อยที่สุดในรอบ 5 ปี ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.ที่จะถึงนี้ โดย สตีเฟน อินเนส เทรเดอร์อาวุโส จากโออันดา เอเชีย แปซิฟิก ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา เปิดเผยว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่เพียงแต่ทำให้เฟดไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ แต่อาจจะทำให้เฟดไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปี 2016
“การจ้างงานเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจสหรัฐตลอดปีที่แล้ว และรายงานการจ้างงานกลายเป็นเรือช่วยชีวิตของเฟด เมื่อตัวชี้วัดอื่นๆ ไม่สนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แล้วคราวนี้เฟดจะไปเอามาจากไหน” อินเนส กล่าว
นอกจากนี้ วิษณุ วรธาน นักวิเคราะห์จากธนาคารมิซูโฮ เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี ว่า ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐยังสร้างความไม่แน่นอนต่อมุมมองเศรษฐกิจโลก และมีแนวโน้มที่จะฉุดความเชื่อมั่นของเอเชียได้ ดังนั้นการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินในเอเชียจึงเป็นเรื่องระยะสั้น
สอดคล้องกับ แพทริก เบนเนตท์ นักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนจากซีไอบีซี ระบุว่า การชะลอตัวของสหรัฐหรือกิจกรรมเศรษฐกิจโลก ไม่เป็นผลดีต่อแรงซื้อภายในเศรษฐกิจเอเชีย ในขณะที่บรรดาผู้กำหนดนโยบายในเอเชียจะต่างพยายามออกนโยบายเพื่อลดค่าเงิน เพื่อช่วยเหลือการส่งออก
อย่างไรก็ตาม เคนเนธ อาคินเทวี ผู้จัดการอาวุโสด้านการลงทุน บลจ.อเบอร์ดีน เปิดเผยกับซีเอ็นบีซี ว่า เฟดอาจยังคงเดินหน้าเป้าหมายในระยะใกล้นี้ เนื่องจากในปี 2016 นี้ยังมีเหตุการณ์ที่ยากต่อการดำเนินการขึ้นดอกเบี้ยอีก เช่น การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือน พ.ย.
จับตาประชามติอังกฤษ 23 มิ.ย.นี้
อาคินเทวี ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า การลงประชามติสถานะการเป็นสมาชิกภาพของสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษในวันที่ 23 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ ยังสร้างความไม่แน่นอนให้กับเฟด และจากผลสำรวจก็ยังคงไม่เห็นผลชัดว่าอังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกอียูหรือไม่
ก่อนหน้าการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน สมาชิกเอฟโอเอ็มซี 2 คน ได้แก่ ดาเนียล ทารุลโล และ เจโรมี โพเวลล์ แสดงความกังวลต่อการทำประชามติของอังกฤษ โดยมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจของสหรัฐและอังกฤษจะได้รับผลกระทบจากการถอนตัวออกจากอียู ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนี 10 ปี ร่วงไปอยู่ที่ 0.069% เมื่อเทียบสถิติต่ำสุดที่ 0.05% หลังจากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 มิ.ย.ผลสำรวจพบว่าชาวอังกฤษจะลงคะแนนเสียงออกจากอียูนำผู้สนับสนุนการเป็นสมาชิกอยู่ 2%
ด้านค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงอ่อนค่าลงไป 1% เมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ แตะจุดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่การเก็งกำไรจากค่าเงินผันผวนในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ปรับตัวแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2009 จากความกังวลดังกล่าว


