ดัชนีโรงตึ๊ง-ชุดนักเรียน วัดเศรษฐกิจเปิดเทอมซบ

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

ภัยแล้งหนักในปีนี้ ภาคการเกษตรได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง รายได้หลักจากนาปรังนั้นหมดไป การปลูกผักทดแทนก็ไม่ได้ผลเต็มเม็ดเต็มหน่วย น้ำซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเกษตรขาดแคลน ก่อนจะเข้าสู่ฤดูฝน ก่อนเริ่มต้นฤดูเพาะปลูก ซึ่งหมายถึงรายได้ เกษตรกรทั่วประเทศต้องเผชิญกับด่านสำคัญ นั่นคือค่าใช้จ่ายสำหรับบุตรหลานช่วงเปิดภาคเรียน ซึ่งในปีนี้ คาดว่าจะซบเซาหนัก จากรายได้ภาคเกษตรที่หดตัว ในภาวะเช่นนี้โรงจำนำทุกแห่งตั้งวงเงินสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับช่วงเปิดเทอม

เอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศมนตรีเมืองสุพรรณบุรี บอกว่า สั่งให้โรงจำนำของเทศบาลเมืองสุพรรณบุรีสำรองเงินเพิ่มขึ้น ประมาณ 30 ล้านบาท เตรียมไว้รับช่วงเปิดเทอม ซึ่งคาดว่าจะมีบรรดาผู้ปกครองนำสิ่งของมาจำนำเป็นจำนวนมาก เพราะปีนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่ได้ทำนาจึงไม่มีรายได้เข้ามา

ขณะที่เมืองใหญ่อย่างนครราชสีมา สุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศบาลนครนครราชสีมา บอกว่า ปีนี้มีผู้ใช้บริการกับสถานธนานุบาลทั้ง 3 แห่งของเทศบาลมากกว่าปกติ ได้สำรองเงินสดจำนวน 150 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชน หากไม่พอเพียง สามารถจัดสรรเพิ่มเติมให้ได้อีก

แม้การพึ่งบริการโรงรับจำนำเรียกได้ว่าคึกคัก แต่ก็ใช่ว่าเม็ดเงินในการซื้อของใช้จำเป็นสำหรับนักเรียนจะพุ่งขึ้นตาม

ธนวัฒน์ ประสิทธิ์พรกุล เจ้าของร้านทวีผลขายเสื้อผ้านักเรียนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า ปีนี้ลูกค้าเงียบเหงาถือว่าลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 20% แม้จะพยายามจัดโปรโมชั่นด้วยการลดราคา 10-15% และแถมเครื่องเขียนให้กับลูกค้าแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถเรียกลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่านี้ได้ สวนราคาชุดนักเรียนก็ยังยืนราคาเดิมเมื่อ 4 ปีก่อน ไม่ได้ปรับขึ้นแต่อย่างใด

ประพนธ์ วงศ์สุขสวัสดิ์ ผู้ประกอบการจำหน่ายชุดนักเรียนใน จ.บุรีรัมย์ บอกว่า แม้ปีนี้ราคาชุดนักเรียนยังไม่มีการปรับขึ้น แต่ส่วนใหญ่ผู้ปกครองก็จะเลือกซื้อราคาปานกลางหรือซื้อเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น

ไม่เฉพาะแต่ร้านจำหน่ายเสื้อผ้านักเรียน แต่ผลกระทบยังเกิดขึ้นกับร้านปักเสื้ออีกด้วย มะลิ มีแก้ว เจ้าของร้านปักเสื้อนักเรียนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา บอกว่า ปีนี้ลูกค้าลดลง 50% เนื่องจากปีที่แล้วจะมีลูกค้าเฉลี่ยวันละ 100 ตัว คงจะมาจากเศรษฐกิจไม่ค่อยดีและประสบกับปัญหาภัยแล้งด้วย

สำหรับผู้ปกครอง ในปีนี้บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองต่างประหยัดเงินในกระเป๋ามากขึ้น สภาพเศรษฐกิจไม่ดี รายได้น้อย รายจ่ายสูง สำหรับผู้ปกครองที่บุตรหลานเรียนระดับประถมศึกษา แม้ไม่ต้องจ่ายค่าเทอม แต่ต้องซื้อเครื่องแบบนักเรียน อุปกรณ์การเรียน รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ หลายรายการ ส่วนเงินอุดหนุนในโครงการเรียนฟรีของรัฐบาลก็ไม่เพียงพอกับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น

ชุลีพร แย้มโคกสูง ชาว อ.เมืองนครราชสีมา บอกว่า ลูกชายที่กำลังจะขึ้น ป.1 จำเป็นต้องซื้อใหม่ทั้งหมด ขณะที่ลูกชายคนโตซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.5 ยังสามารถใส่ชุดเดิมได้ไม่ต้องซื้อเพิ่ม เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัว แม้ชุดนักเรียนยังไม่แพงมากนัก พอรับได้ แต่ด้วยเศรษฐกิจที่ยังฝืดเคือง อะไรที่พอประหยัดได้ก็ต้องประหยัดไว้ก่อน

เตือนใจ มิมไธสง ชาว จ.บุรีรัมย์ ก็บอกว่า ค่าใช้จ่ายซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนลูก 2 คน ที่กำลังจะขึ้นชั้น ม.6 และระดับอุดมศึกษา เฉลี่ยคนละ 3,000-4,000 บาท ส่วนเงินที่ได้รับอุดหนุนก็แบ่งเบาได้ระดับหนึ่งเท่านั้น หากเป็นไปได้ก็อยากให้เพิ่มเงินอุดหนุนอีก