posttoday

สังหารโหดความงาม ตัดต้นไม้กลางกรุง

22 เมษายน 2559

กทม.ลงมือตัดต้นไม้สวยงามริมถนน ด้วยเหตุผลที่ว่ามีความอันตรายต่อสายไฟฟ้า ผลที่ว่ากลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังพร้อมใจกันแชร์ภาพถ่ายต้นไม้ถูกตัดจนเหลือแต่ตอ

โดย...นิติพันธุ์ สุขอรุณ

ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ แต่อย่างน้อยที่สุด ผู้คนยังได้ชื่นชมความสวยงามของดอกไม้หลากพันธุ์ที่พากันออกดอกสวยงามในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พอให้ได้ชื่นอกชื่นใจกันบ้าง โดยเฉพาะต้น “ชมพูพันทิพย์” ภายในสวนจตุจักร รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ทั่วมหานครเมืองหลวงของไทย

แต่ความสวยงามมักมีเวลาน้อยเสมอ เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงมือตัดต้นไม้สวยงามริมถนน ด้วยเหตุผลที่ว่ามีความอันตรายต่อสายไฟฟ้า ผลที่ว่ากลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังพร้อมใจกันแชร์ภาพถ่ายต้นไม้ถูกตัดจนเหลือแต่ตอ

บาดใจคนรักร่มไม้ที่อาศัยหลบแสงแดดสาดส่องสัญจรผ่านไปมาบนทางเท้าไม่น้อย

ต้นสังกัดที่ลงมือพรากความงามไปจากสายตาประชาชนอย่าง สุวรรณา จุ่งรุ่งเรือง ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. อธิบายว่า การดำเนินการดูแลรักษาต้นไม้ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวนกว่า 1.5 แสนต้น จำเป็นต้องดำเนินการตัดแต่งกิ่งเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเสาไฟฟ้า รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ส่วนปมที่ว่ามีประชาชนร้องเรียนถึงวิธีการตัดต้นไม้ไม่ถูกต้องเหมือน กทม.ไม่เอาใจใส่นั้น สุวรรณา ยืนยันว่า การตัดต้นไม้มีระเบียบขั้นตอนปฏิบัติถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อให้ยังคงรูปทรงสวยงาม สร้างร่มเงาได้ และต้องไม่สร้างผลกระทบต่อทรัพย์สินส่วนอื่นๆ ด้วย

สำหรับขั้นตอนปฏิบัติเริ่มที่สำนักงานเขตจะต้องทำแผนงานตัดแต่งต้นไม้ตามแนวสายไฟฟ้าส่งให้สำนักสิ่งแวดล้อมฯ ก่อนรวบรวมแนวทางส่งให้การไฟฟ้านครหลวงรับทราบการปฏิบัติงาน ถัดมาทางสำนักงานเขตต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถานีตำรวจในท้องที่ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบว่าจะมีการตัดแต่งต้นไม้ในบริเวณนั้นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุต้นไม้ล้มทับประชาชนหรือรถยนต์ที่กำลังสัญจรไปมาได้

ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อมฯ ชี้แจงคำถามว่า ทำไม กทม.ต้องมาตัดต้นไม้ในช่วงเดือน เม.ย. ซึ่งมีอุณหภูมิร้อนระอุสูงที่สุดเช่นนี้ เนื่องจากการตัดแต่งต้นไม้เป็นสิ่งที่แต่ละสำนักงานเขตดำเนินการตลอดทั้งปี ซึ่งช่วงฤดูร้อนต้นไม้จะแตกใบใหม่เต็มที่ มีการสะสมอาหารเลี้ยงลำต้นไว้ได้เพียงพอ จึงเหมาะสมที่สุดในการดำเนินการตัดแต่ง ส่วนในช่วงหน้าฝนทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการด้วยความยากลำบาก ทั้งยังอันตราย ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม กทม.ต้องตัดต้นไม้ในช่วงหน้าร้อน

“ต่อจากนี้ต้องเข้มงวดเรื่องการตัดต้นไม้ให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะยังมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาถึงความห่วงใย เหมือนว่า กทม.ไม่รักต้นไม้ ทำลายความร่มรื่นทำลายความงาม แม้จะอยู่ในช่วงหน้าร้อนเช่นนี้ แท้จริงแล้วมีความจำเป็นที่ กทม.ต้องทำบนพื้นฐานที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ถ้าไม่จำเป็น กทม.ไม่ตัดต้นไม้ เพราะสวนทางกับแผนเพิ่มจำนวนพื้นที่สีเขียว” สุวรรณา กล่าว

ทั้งนี้ หลักการตัดแต่งกิ่งไม้มี 5 วิธี คือ 1.ไม่ตัดกิ่งบริเวณที่มีสีคล้ำ เพื่อป้องกันเชื้อโรค 2.ไม่ตัดให้เหลือแต่ตอกิ่ง ป้องกันเชื้อโรคและแมลงมาเจาะทำลายความแข็งแรงของต้นไม้ 3.ไม่ตัดให้กิ่งฉีกขาด 4.แต่งแผลให้เรียบร้อย และ 5.ไม่มีการทาสีหรือปูน

อีกมุมจาก อรยา สูตะบุตร ผู้ประสานงานกลุ่มบิ๊กทรี ที่รณรงค์ให้รักษาต้นไม้ทั่วฟ้าเมืองไทย พูดถึงเรื่องนี้ว่าจุดเริ่มต้นที่ประชาชนไม่พอใจการตัดต้นไม้แบบ “สังหารโหด” เกิดขึ้นริมบนถนนเทศบาลสงเคราะห์ พื้นที่ของสำนักงานเขตจตุจักรที่ดำเนินการตัดต้นชมพูพันทิพย์กำลังออกดอกสวยงามเต็มถนน ลำต้นมีขนาดความสูงเทียบเท่าอาคาร 3-5 ชั้น ตัดทิ้งเหลือเพียงตอไม้โล่งไม่มีใบให้ร่มเงา นำไปสู่การร้องเรียนถึงสำนักงานเขตให้ออกมารับผิดชอบในที่สุด

เธอเล่าว่า หลังการหารือเพื่อแก้ปัญหาร่วมกับสำนักงานเขต พบว่า แม้เจ้าหน้าที่จะผ่านการฝึกอบรมตัดต้นไม้อย่างถูกวิธีมาแล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ผู้ผ่านการฝึกอบรมเป็นระดับชั้นหัวหน้า ทว่าขั้นตอนปฏิบัติเป็นหน้าที่ของลูกน้อง ซึ่งไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมมา ดังนั้นข้อสรุปคือทางเขตจะต้องแจ้งกับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงว่าจะตัดแต่งต้นไม้ต้นใดบ้าง เพื่อให้ชาวบ้านได้ร่วมตรวจสอบความถูกต้องด้วยอีกแรง

“ความเคลื่อนไหวในสังคมออนไลน์รวมถึงตัวแทนชุมชนจากหลายพื้นที่แสดงออกถึงความรัก ความหวงแหนต้นไม้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่หวังให้เกิดขึ้นทั่วกรุงเทพฯ เพื่อช่วยกันรักษาต้นไม้ในเมืองไม่ให้ถูกตัดทิ้งโดยขาดองค์ความรู้” อรยา กล่าว

วีระพงษ์ พูลอ่อน พนักงานบริษัทเอกชน ให้ความเห็นในฐานะประชาชนว่า ต้นไม้ใกล้ป้ายรถประจำทางที่ขึ้นเป็นประจำถูกตัดเหลือแต่ตอ ทั้งที่ร่มเงาสามารถอาศัยหลบแดดได้เป็นอย่างดี ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงตัดทิ้ง ทำไมไม่ปลูกกันคนละแนวกับเสาไฟฟ้าจะได้ไม่ขยายกิ่งก้านไปดันสายไฟ

ยุทธศักดิ์ อัมปาน พนักงานบริษัทเอกชน ให้มุมที่แตกต่างว่า กทม.ทำถูกแล้ว เพราะถ้าเข้าสู่หน้าฝนหากเกิดฝนตกหนัก ลมพัดกิ่งไม้หักใส่รถยนต์จะเป็นอันตรายได้

ข่าวล่าสุด

ล้ำไปอีกขั้น เสื้อกั๊ก AI ช่วยผู้ป่วยหลอดเลือดสมองขยับแขน