ร้อง "บิ๊กตู่" ยุติสัมปทานเหมืองทองในไทย

เครือข่ายปูชนียบุคคลไทย ยื่น 5ข้อเรียกร้องถึง นายกรัฐมนตรี ขอให้ยุติการทำสัมปทานเหมืองทอง พร้อมทบทวนเหมืองอื่นในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. เครือข่ายปูชนียบุคคลไทย ที่นำโดย ศ.ระพี สาคริก ประธานเครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนางรตยา จันทรเทียร ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร, นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ,นางสุนี ไชยรส นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตวุฒิสภากรุงเทพมหานคร ร่วมกันเรียกร้องให้ยุติการต่ออายุสัมปทานเหมืองแร่ทองคำ รวมทั้งทบทวนการให้สัมปทานเหมืองแร่อื่นๆ

น.ส.รสนา แถลงว่า การทำเหมืองแร่ทองคำด้านเศรษฐกิจพบว่ารัฐจะได้ประโยชน์จากการให้สัมปทานกับบริษัทไม่มาก แต่ผลประโยชน์ส่วนใหญ่จะไปตกอยู่ที่บริษัทต่างชาติที่เข้ามาทำ และที่สำคัญได้ส่งผลเสียต่อทรัพยากรธรรมชาติและร่างการของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งในโอกาสนี้ที่สัมปทานใบอนุญาตประกอบโลหกรรมเหมืองแร่ทองคำจะสิ้นสุดลงวันที่ 13 พ.ค.59 ซึ่งจะทำให้ยุติต้นเหตุของปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนมายางยาวนาน จึงขอยื่นขอเรียกเรียกร้องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล 5ข้อ คือ

1.ขอให้หยุดการต่อใบอนุญาตประกอบโลหกรรมเหมืองแร่ทองคำของบริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด(มหาชน) 2.ขอให้เร่งรัดการตรวจพิสูจน์สิ่งแวดล้อมเพื่อเร่งฟื้นฟูเยียวยาประชาชนและพื้นที่เกษตรกรรมอย่างยั่งยืน 3.ขอให้กำชับข้าราชการให้รักษาหน้าที่ต่อประเทศชาติประขาชนเหนือกว่าการปกป้องผลประโยขน์ของเอกชน 4.ขอให้สั่งการให้มีมาตราการคุ้มครองผลประโยชน์ของคนงานเหมืองทองคำให้ได้รับการชดเชยสูงสุด ทั้งมีมาตรารับประกันความเจ็บป่วยอันเนื่องจากสารพิษที่อาจสะสมของคนงาน และชาวบ้านในอนาคต และ 5.ขอให้ยุตินโยบายทำเหมืองแร่ทองคำทุกพื้นที่ของประเทศ 

น.ส.รสนา กล่าวอีกว่า การออกมาครั้งนี้เพื่อต้องการให้รัฐยุติการต่อสัมปทานเหมืองแร่ทองคำในเดือน พ.ค.นี้ และทบทวนเรื่องการให้สัมปทานเหมืองแร่อื่นๆเช่นกัน เพราะมองว่าไม่คุ้มค่าทั้งทางด้านทรัพยากรของประเทศและชีวิตของประชาชน จึงอยากให้รัฐบาลยุติในเรื่องนี้

ด้าน นางรตยา กล่าวว่า การทำเหมืองทองคำในประเทศไทยมีการทำมานานแล้ว แต่การทำแบบสมัยใหม่ ที่ขุดเอาหินก้อนใหญ่ขึ้นมา และนำไปเข้ากระบวนการป่นออกมาก็กลับได้ทองเพียงน้อยนิด แต่ทำความเสียหายด้านทรัพยากรจำนวนมากนี้ได้ เริ่มขึ้นเมื่อปี 2544 

"จากรายงานชี้ข้อมูลให้เห็นว่าประเทศไทยมี แร่ทองคำถึง 7,000ตัน แต่คนไทยไม่สามารถทำได้จึงต้องเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาดำเนินการ โดยที่ประเทศซึ่งเป็นเจ้าของแผ่นดินได้ผลประโยชน์ไม่ถึงร้อยละ10 ด้วยเหตุนี้จึงอยากให้รัฐบาลหยุดการต่ออายุสัมปทานการทำเหมืองทองในอีก 1เดือนข้างหน้านี้ เพื่อเก็บสมบัติที่มีค่านี้ไว้ให้ลูกหลานในอนาคต"นางรตยากล่าว

ขณะที่ นายไกรศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศไทยไม่ควรให้มีการทำเหมืองแร่ในพื้นที่ป่าสงวนอีกต่อไป และพื้นที่ใกล้บริเวณชุมชน เนื่องจากการดำเนินการทำเหมืองแร่นี้จะมีผลกระทบโดยตรงกับบริเวณโดยรอบเนื่องจากมีการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย และไม่คุ้มค่าหากเปรียบเทียบกับรายได้ที่เข้าประเทศ