คุมเข้มชายแดนไทย-พม่าหลังพบเด็กลาวป่วยโรคคอตีบ

สาธารณสุขหวั่นโรคแพร่ระบาด เฝ้าระวังใกล้ชิด สั่งคุมเข้มชายแดนไทย-ลาว หลังโรงพยาบาลน่านพบผู้ป่วยเป็นเด็กจากประเทศลาวสงสัยป่วยเป็นโรคคอตีบ

นพ.พิศิษฐ์  ศรีประเสริฐ  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน  พร้อม นพ.พงษ์เทพ  วงศ์วัชรไพบูลย์ หัวหน้ากลุ่มงานเวชกรรและรอง ผอ.โรงพยาบาลน่าน  เรียกทีม SRRT ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วประชุมด่วนเพื่อติดตามสอบสวนโรค  หลังพบเด็กชายอายุ 5 ปี ป่วยเป็นโรคคอตีบ หรือ ดิพทีเรีย เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจพร้อมสั่งเฝ้าระวังชายแดนไทย-ลาวอย่างใกล้ชิด

นพ.พิศิษฐ์  กล่าวว่า  โรงพยาบาลน่านได้รับผู้ป่วยเด็กชาย ทอมมี คำเครื่อง อายุ 5  ปี  6  เดือน สงสัยป่วยเป็นโรคคอตีบ  โดยผู้ป่วยมีอาการ  ไข้  ไอ  เจ็บคอ    เข้ารับการรักษาเมื่อวันที่  24 ก.ค.ที่ผ่านมา    ซึ่งผู้ป่วยมีอาการดังกล่าวตั้งแต่วันที่  16  ก.ค.โดยเข้า   รับการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลเมืองเงิน  แขวงไชยะบุรี  สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  ต่อมาอาการไอเป็นเลือด  เจ็บคอมากขึ้น  นพ.บุญเรือน บัวไล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเมืองเงิน จึงส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลน่าน 

ทั้งนี้กุมารแพทย์ได้ตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการของผู้ป่วยสงสัยเป็นโรคคอตีบ จากการได้รับการรักษาอาการขณะนี้ได้ทุเลาลงมากแล้ว  ซึ่งโรคคอตีบเป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ  ทำให้มีการอักเสบมีแผ่นเยื่อเกิดขึ้นในลำคอ  ในรายที่รุนแรงจะเกิดการตีบตันทางเดินหายใจ  จึงทำให้ได้ชื่อว่าโรคคอตีบ  ซึ่งอาจทำให้ถึงตายได้  และจากพิษของเชื้อโรค  ทำให้มีอันตรายต่อกล้ามเนื้อหัวใจ  และเส้นประสาทส่วนปลาย และที่สำคัญโรคนี้สามารถป้องกันได้  ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ  ในเด็กอายุ  2,4,6  เดือน  และ  18  เดือนและ ฉีดวัคซีนกระตุ้นอีกครั้งหนึ่งเมื่อเด็กอายุครบ   4  ปี  สำหรับในจังหวัดน่านไม่พบผู้ป่วยโรคคอตีบเนื่องจากเด็กที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคคอตีบครบ  5  ครั้ง   (จังหวัดน่านพบผู้ป่วยครั้งสุดท้าย ปี  2539)  

อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ออกประชาสัมพันธ์ เฝ้าระวังและค้นหาผู้ป่วยที่อาการเนื่องจากผู้ป่วยได้รถโดยสารประจำทางสายทุ่งช้าง-น่าน มาเข้ารักษาตัวที่รพ.น่าน  และโรคคอตีบนี้เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ ติดต่อกันได้ง่าย ดังนั้นผู้สัมผัสโรคที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคจะติดเชื้อได้ง่าย จึงควรได้รับการติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิดให้กินยา erythromycin 50 มก./กก/วัน เป็นเวลา 7 วัน  

นอกจากนี้ยังได้ประสนนพ.บุญเรือน บัวไล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเมืองเงิน ทางโทรศัพท์ ขอให้ส่งทีมสอบสวนโรคค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม ในประชาชนลาว ในเขตเมืองเงินและใกล้เคียงและให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกอำเภอในจังหวัดน่าน ออกเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองเด็กโดยเฉพาะที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลอยู่ติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  ให้พาบุตรหลานของท่านที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด - 5  ปี ไปรับวัคซีนป้องกันโรคคอตีบจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตามนัดทุกครั้ง