posttoday

ตำรวจไทยกลัวอะไร

28 กันยายน 2558

“ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้” คำขวัญตำรวจไทยตั้งแต่ยุค พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ บุรุษเหล็ก

โดย...สมผล ตระกูลรุ่ง

“ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้” คำขวัญตำรวจไทยตั้งแต่ยุค พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ บุรุษเหล็ก ผู้เป็นตำนานการสร้างรัฐตำรวจ ทหารในยุคนั้นทนไม่ไหวกับรัฐตำรวจที่มีอำนาจควบคุมกลไกการบริหาร จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จึงได้ปฏิวัติยึดอำนาจเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2500 ปิดตำนานรัฐตำรวจในยุคนั้น

พล.ต.อ.เผ่า ถูกเนรเทศไปเสียชีวิตที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ใช้ชีวิตหรูหรา มีคฤหาสน์หลังใหญ่ริมทะเลสาบ ก่อนตาย ได้รับการจัดอันดับติดเศรษฐี 1 ใน 10 ของโลก      ดูเหตุการณ์ในยุคนั้นแล้ว เหมือนเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ กงล้อประวัติศาสตร์กำลังหมุนทับรอยเดิม ให้เราได้ศึกษาเรียนรู้และเข้าใจเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น การเรียนรู้ประวัติศาสตร์จึงทำให้เข้าใจเหตุการณ์ในปัจจุบัน

เส้นทางชีวิตของ พล.ต.อ.เผ่า ดูจะคล้ายๆ นักโทษชายที่หนีคดีเป็นสัมภเวสีอยู่ในต่างประเทศ และจุดจบของชีวิตคงจะไม่แตกต่างกัน

ตำรวจในยุคปัจจุบัน แม้จะเปลี่ยนจากกรมตำรวจเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ไม่ได้เปลี่ยนพื้นฐานแนวความคิดหรือวิธีการทำงานของตำรวจ เปลี่ยนเพียงชื่อองค์กรเท่านั้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แต่กลับทำให้ความรู้สึกของตำรวจยิ่งใหญ่ขึ้น เพราะเป็นหน่วยงานที่ขึ้นต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรง จากเดิมที่อยู่ภายใต้กระทรวงมหาดไทย ที่ยังมีปลัดและรัฐมนตรีมหาดไทยเป็นผู้บังคับบัญชา

ความรักความหวงแหน การปกป้ององค์กร เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องอยู่ภายใต้คุณธรรม จริยธรรม และความถูกต้อง และต้องมีเหตุผล ความรักองค์กร การปกป้ององค์กรของตำรวจส่วนหนึ่งในวันนี้ ดูไปแล้วเป็นการรักษาฐานอำนาจทางการเมือง เป็นการใช้การเมืองเป็นตัวนำ เพื่อรักษาอำนาจ รักษาผลประโยชน์ ที่ได้รับจากการเมือง

ตำรวจไทยในวันนี้ ยังไม่เป็นตำรวจอาชีพที่แท้จริง

เหตุการณ์ที่พิสูจน์การเป็นตำรวจอาชีพ คือ กรณีของคุณจิตภัสร์ กฤดากร หรือ คุณตั๊น ที่สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นตำรวจ แต่มีตำรวจจำนวนหนึ่งออกมาผูกโบดำคัดค้าน อ้างว่าคุณตั๊นเคยเหยียดหยามสำนักงานตำรวจฯ เคยพังป้ายสำนักงานตำรวจฯ ในยุคของ กปปส. แม้จะมีการชี้แจงว่าเป็นสิทธิที่สามารถสมัครได้ หากไม่ขาดคุณสมบัติ แต่ก็ยังมีการคัดค้าน จนทำให้คุณตั๊นตัดสินใจถอนตัวจากการสมัคร

เคยคิดทบทวนกันหรือไม่ว่า สำนักงานตำรวจฯ ซึ่งเป็นองค์กรสำคัญของประเทศชาติ ที่จะต้องมีอยู่คู่ประเทศชาติตลอดไป นั้น ได้ประโยชน์อะไรจากการออกมาคัดค้านของตำรวจกลุ่มนี้ การสมัครเข้าเป็นตำรวจของใครก็ตาม เขาไม่ได้ทำงานให้ตำรวจคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการส่วนตัว แต่เขาจะต้องเข้ามาทำหน้าที่ในองค์กร ทำงานให้กับราชการ เพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติตามความรู้ความสามารถ

การประท้วงองค์กรใดๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสีใดก็ตาม ผู้ประท้วงย่อมกล่าวหาว่า องค์กรนั้นๆ ทำไม่ถูก ไม่ให้ความเป็นธรรม จึงจำเป็นต้องออกมาประท้วง 

ข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ปิดล้อมสำนักงานตำรวจฯ ของ กปปส.ก็เช่นกัน ผู้ชุมนุมกล่าวหาว่าตำรวจไม่ทำตามหน้าที่ เป็นตำรวจมะเขือเทศที่รับใช้แต่รัฐบาลคนเสื้อแดง ไม่ให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ทำร้ายประชาชน อันเป็นการกระทำผิดหน้าที่ ผิดกฎหมาย

เมื่อมีใครมาตำหนิติเตียน หรือกล่าวหาว่าเราทำไม่ดี สิ่งที่บัณฑิตควรทำคือ การนำข้อกล่าวหานั้นมาพินิจพิจารณาด้วยใจเป็นกลางว่า สิ่งที่เขากล่าวหานั้น เป็นความจริงหรือไม่ ถ้าเป็นจริง สิ่งที่ควรทำคือแก้ไขปรับปรุง แต่หากสิ่งที่เขากล่าวหาไม่จริง ก็ไม่ต้องเดือดร้อน

ในทางพุทธศาสนา จึงไม่ควรไปโกรธคนที่มากล่าวร้ายหรือมาตำหนิติเตียน ไม่ว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม ถ้าไม่เป็นความจริง ก็ไม่ต้องโกรธ เพราะสิ่งที่พูดไม่เป็นความจริง ยิ่งถ้าเป็นความจริงยิ่งไม่ควรโกรธ แต่ต้องขอบคุณที่เขามาเป็นกระจกให้เราได้เห็นความเป็นจริง

ถ้าการกล่าวหาเป็นความเท็จ สร้างความเสียหายให้ตำรวจคนใดหรือสำนักงานตำรวจฯ หากเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เป็นการหมิ่นประมาท จะดำเนินการตามกฎหมายก็ทำไป เป็นสิทธิอยู่ภายใต้กฎหมาย

การที่คุณตั๊นสมัครเข้าเป็นตำรวจ หากสิ่งที่คุณตั๊นเคยกล่าวหาสำนักงานตำรวจฯ ทำไม่ดีอย่างไร คุณตั๊นเองนั่นแหละที่มีหน้าที่ต้องทำให้ดี ไม่ทำเหมือนกับสิ่งที่เคยกล่าวหาไว้ แต่ถ้าสิ่งที่คุณตั๊นกล่าวหาไว้ไม่จริง เมื่อคุณตั๊นเข้ามาอยู่ภายในองค์กร ก็จะได้รู้ว่า สิ่งที่เคยกล่าวไว้นั้น ไม่เป็นความจริง และหากคุณตั๊นในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำผิดกฎระเบียบ สำนักงานตำรวจฯ ก็สามารถดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไปได้

ผมไม่รู้จักคุณตั๊น เคยเห็นบทบาทของเธอในช่วงการชุมนุมขับไล่รัฐบาลปูแดง แต่ผมมองไม่เห็นเหตุผลว่า ทำไมต้องต่อต้านคุณตั๊นในการสมัครเข้าเป็นตำรวจ

ถ้าจะมองย้อนไปในอดีต มีคนใช้บารมีพ่อที่เป็นนักการเมืองเข้ามาเป็นตำรวจ ทั้งๆ ที่มีประวัติใช้ปืนยิงตำรวจในขณะปฏิบัติหน้าที่

ตำรวจทั้งสำนักงานในวันนี้น่าจะยังจำคดีดาบยิ้มได้ และตำรวจคงจะรู้ดีว่าใครเป็นคนยิงดาบยิ้ม แม้กฎหมายบ้านเมืองจะเอาผิดไม่ได้ เพราะตามหาไอ้ปื๊ดไม่เจอก็ตาม แต่แปลกที่ไม่มีตำรวจคนใดออกมาผูกโบดำคัดค้านการเข้ารับราชการเป็นตำรวจ

ที่หยิบยกกรณีดาบยิ้มขึ้นมา ไม่ได้มีเจตนาจะฟื้นฝอยหาตะเข็บ แต่ต้องการเปรียบเทียบว่า กรณีใดที่ตำรวจควรจะคัดค้านมากกว่ากัน

ถ้าจะเปรียบเทียบคุณวุฒิ ความรู้ความสามารถ คุณตั๊นก็ไม่เป็นรองใคร จบการศึกษาจากต่างประเทศ จบปริญญาโท เข้าใจภาษาอังกฤษเหมือนคนฝรั่ง ยิ่งประเทศไทยกำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ในแง่มุมนี้ คุณตั๊นน่าจะทำประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจฯ ได้ไม่แพ้ใคร

การคัดค้านจนทำให้คุณตั๊นถอดใจ สิ่งที่ได้คงเป็นความสะใจของตำรวจกลุ่มหนึ่ง แต่ที่เสียหายคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ในอีกแง่มุมหนึ่ง การที่คุณตั๊นไม่เป็นตำรวจก็ดีแล้ว เพราะหากเข้าไปอยู่ในสำนักงานตำรวจฯ ที่ยังไม่มีการปฏิรูป เกรงว่า นอกจากไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้ว คุณตั๊นเองอาจถูกกลืนเข้าไปในระบบตำรวจ

จนถึงวันนี้ผมยังไม่เข้าใจว่าตำรวจไทยกลัวอะไรกับคุณตั๊น

ข่าวล่าสุด

กต.ชี้ กัมพูชาปิดด่านห้ามคนไทยกลับประเทศขัดกฎหมายระหว่างประเทศ