กลุ่มปชต.ใหม่เดินขบวนไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

กลุ่มประชาธิปไตยใหม่เดินขบวนไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โฆษกรัฐเตือนอย่าทำผิดกฎหมาย ชี้เคลื่อนไหวหวังให้เกิดการปะทะเพื่อโจมตีรัฐบาล

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. เวลา 16.15 น. กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้รวมตัวกับกลุ่มมวลชนจำนวนหนึ่งภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ หลังเสร็จสิ้น การสัมมนา " 9 ปีที่ก้าวไม่พ้นรัฐประหาร 19 กันยา" เนื่องในครบรอบการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ก่อนจะเดินขบวนออกจากมธ. เพื่อมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จัดกำลังเข้าดูแลความสงบเรียบร้อย

ทั้งนี้ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บังคับการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้เข้าเจรจากับนายศิรวิทย์ เสรีธิวัฒน์ ตัวแทนกลุ่มฯ เพื่อขอให้การเดินขบวนเป็นไปอย่างสงบ และให้ใช้ฟุตบาทเท่านั้น ป้องกันกีดขวางการจราจร รวมทั้งไม่อนุญาตให้ชูป้ายแสดงสัญลักษณ์ใดๆ

จากนั้น กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้เคลื่อนขบวนมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยระหว่างทางมีการตะโกนขับไล่ คสช. ขณะที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็กมากั้นและไม่อนุญาตให้เข้าไปภายใน แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ฝ่าแนวกั้นเข้าไปภายในสำเร็จ จากนั้นได้มีการปราศรัยวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลพร้อม แจกดอกไม้จันทน์ให้กับผู้ร่วมชุมนุม โดยระบุว่าเพื่อเผาให้กับเผด็จการ

นายปกรณ์ อารีกุล สมาชิกกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า การรัฐประหารทำให้ประชาชนไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ โดยตลอดระยะเวลา 1ปี4 เดือนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ ได้มีการใช้อำนาจกฎหมายมาตรา 44  บังคับไม่ให้มีเสรีภาพ ทั้งยังทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นแน่นอนหากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 

"ขอเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ไม่มีกลุ่มการเมืองใดอยู่เบื้องหลัง"นายปกรณ์กล่าว

ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิดโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ว่า การดูแลด้านเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะเป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยซึ่งจะใช้กำลังของเจ้าที่ตำรวจเป็นหลัก

ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวดังกล่าวมีนัยยะสำคัญเกี่ยวข้องกับการที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมประชุมองค์การสหประชาชาติที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายก.ย.นี้ โดยคาดหวังให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งในการกับกลุ่มผู้ชุมนุม จนทำให้ถูกมองว่าใช้ความรุนแรง ซึ่งจะไปสอดรับกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มเดียวกันที่อยู่ในต่างประเทศ ทำให้คนในต่างประเทศเกิดความเข้าใจผิดว่ารัฐบาลนี้ถูกประชาชนต่อต้านเป็นจำนวนมาก และสถานการณ์ในประเทศยังคงมีความวุ่นวาย

ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 22 พ.ค. 2557 ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็ยอมรับรัฐบาลและคสช. เพราะรู้ว่ารัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาในระยะเวลา หนึ่งเท่านั้น เพื่อที่จะปฏิรูปบ้านเมืองวางกติกาและดำเนินการให้เป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้ ประชาชนส่วนใหญ่จึงเกิดความไว้วางใจให้รัฐบาลมาทำหน้าที่ ดังนั้นจึงเชื่อว่าสังคมส่วนใหญ่จะเข้าใจนัยยะสำคัญของการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ขณะเดียวกันอยากขอความร่วมมือสื่อมวลชนไม่ให้เปิดพื้นที่กับกลุ่มผู้ไม่หวังดีในการกระพือเรื่องราวที่ไม่เป็นความจริงและสร้างความขัดแย้ง

"อยากฝากไปถึงกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ว่าอย่าทำสิ่งใดที่ผิดกฎหมาย เพราะมีการประกาศข้อห้ามเอาไว้แล้ว หากมีการกระทำความผิดเข้าหน้าที่ก็จดบันทึกไว้ทั้งหมดแล้ว เมื่อถึงเวลาก็จะดำเนินคดีไม่มีการละเว้นและถึงเวลานั้นก็ควรจะต้องยอมรับกับสิ่งที่ทำลงไปด้วย"พล.ต.สรรเสริญกล่าว

ภาพประกอบ นิติพันธุ์ สุขอรุณ, เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam