ซื้อรถไฟฟ้าแทนเอ็นจีวี

เลิกแผน ขสมก.ซื้อ เอ็นจีวี 2,694 คัน เหตุท่อส่งเอ็นจีวี ไม่เพียงพอ หันไปซื้อรถไฟฟ้าแทน

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะผู้บริหารเรื่องการปลดระวางรถโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งมีกรรมการจาก ขสมก. สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร และกรมการขนส่งทางบกมีมติเห็นชอบให้ ขสมก.กลับไปทบทวนแผนการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีในล็อตที่ 2 จำนวน 2,694 คัน โดยที่ประชุมมีข้อสังเกตว่า ขสมก.ไม่ควรจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีอีก เนื่องจากปัจจุบันเชื้อเพลิงเอ็นจีวีเริ่มมีปัญหา ปริมาณท่อขนส่งน้ำมันและสถานียังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ หาก ขสมก.นำเข้ารถเมล์เอ็นจีวีเพิ่มขึ้น จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกมาก

ที่ประชุมเสนอให้จัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า ตามนโยบายของ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม หรือนำรถเมล์เก่าซึ่งอยู่ในแผนเตรียมปลดระวาง 2,860 คัน ไปซ่อมบำรุงและนำกลับมาใช้ใหม่ ส่วนการปลดระวางรถเมล์ล็อตแรก 628 คัน ที่เป็นรถเก่าที่ไม่สามารถนำวิ่งออกให้บริการได้นั้นให้ดำเนินการขายได้ หลังจากนี้ ขสมก.จะต้องกลับไปศึกษาแผนการจัดซื้อรถเมล์ชุดใหม่และเสนอให้พิจารณาโดยเร็ว ส่วนการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 489 คัน ยังเป็นเหมือนเดิม แต่ล็อตต่อไปไม่ควรซื้อรถเอ็นจีวีอีกแล้ว

นางปราณี ศุกระศร รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ขณะนี้ ขสมก.ได้ว่าจ้างสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ให้นำรถเก่าทั้งรถร้อนและรถปรับอากาศไปทดสอบสภาพ วิเคราะห์ต้นทุนภาระค่าซ่อมเพื่อใช้เป็นราคากลาง ก่อนจะเปิดประมูลจัดหาผู้ซ่อมบำรุงในปีนี้

ด้านการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบส่งเสริมให้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยให้มีการใช้และการผลิตควบคู่ไปกับวิจัยและพัฒนาในเทคโนโลยี 3 ประเภท คือ รถโดยสารไฟฟ้า ยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง และรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล โดยให้นำร่องในส่วนของ
รถโดยสารไฟฟ้าของ ขสมก.

นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกฯ กล่าวว่า ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ ขสมก.จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คน ให้เป็นโดยสารไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศ 500 คัน และให้กระทรวงการคลังพิจารณายกเว้นภาษีศุลกากรและภาษีสรรพสามิต สำหรับชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าที่ยังไม่มีการผลิต
ในประเทศไทย