นายแบงก์แห่งอาเซียน ‘บุญทักษ์ หวังเจริญ’
เอ่ยถึงชื่อ “ธนาคารทหารไทย” ในขณะนี้ ไม่มีใครนึกถึงภาพของแบงก์ทหาร ที่มีนายทหารเป็นคณะกรรมการ
โดย...ชลลดา อิงศรีสว่าง
เอ่ยถึงชื่อ “ธนาคารทหารไทย” ในขณะนี้ ไม่มีใครนึกถึงภาพของแบงก์ทหาร ที่มีนายทหารเป็นคณะกรรมการ เป็นธนาคารที่เน้นให้บริการแก่ 3 เหล่าทัพและครอบครัวอีกต่อไป
บุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย เป็นผู้พลิกโฉมของธนาคารแห่งนี้ ผลงานโดดเด่นจนได้รับเลือกให้เป็นซีอีโอยอดเยี่ยม และยกให้ธนาคารทหารไทยเป็นธนาคารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียแปซิฟิก ในปี 2015
รางวัลทั้งสองประเภทนี้ ดิ เอเชียน แบงเกอร์ ลีดเดอร์ชิป อวอร์ดส (The Asian Banker Leadership Awards) เป็นผู้มอบให้ระหว่างการประชุมสุดยอดของนักการธนาคารแห่งเอเชีย (The Asian Banker Summit) ประจำปี 2558
บุญทักษ์หัวเราะเมื่อถูกถามถึงที่มาที่ไปของรางวัลนี้ “ผมไม่รู้เรื่อง ทางทีมงานเขาโทรมาถามผู้บริหารคนอื่นว่า ผมจะไปร่วมการประชุมอาเซียนแบงเกอร์ไหม ก็ไม่มีใครตอบแทนได้ เพราะผมมีงานเยอะมาก ทั้งงานประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) งานประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และผมเป็นประธานสมาคมธนาคารไทยด้วย ทำให้งานยุ่งมาก เขาก็บอกว่า ถ้าผมไม่ไปงานจะกร่อย เพราะนี่เป็นรางวัลที่ใหญ่ที่สุดในงาน”
ก่อนมอบรางวัล ทางผู้จัดงานประกาศเหตุผลว่าที่เลือกมอบรางวัลให้ เป็นเพราะบุญทักษ์เป็นผู้นำในการปฏิรูปธนาคารทหารไทยจนประสบความสำเร็จ พลิกฟื้นจากธนาคารที่ขาดทุนหมื่นล้านบาทกลายเป็นกำไร โดยกำไรสุทธิในปี 2557 ของธนาคารเพิ่มขึ้น 66.2% ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดของธุรกิจธนาคารไทย กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5 เท่า ในปี 2557 เมื่อเทียบกับปี 2552 ในขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (เอ็นพีแอล) ลดลงจาก 12.7% ในปี 2552 เหลือ 2.9% ในปี 2557 และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลงจาก 77% ในปี 2552 เหลือ 53% ในปี 2557
นอกจากนี้ ยังเป็นผู้นำในการนำเอาผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ๆ สู่ลูกค้า พลิกโฉมการให้บริการและธุรกิจธนาคารไปอย่างสิ้นเชิง
บุญทักษ์ กล่าวว่า รางวัลที่ได้นี้สื่อต่างชาติและนายแบงก์ในอาเซียนเลือกขึ้นมา ซึ่งเป็นนายแบงก์และธนาคารไทยแห่งแรกที่ได้รางวัลนี้ แสดงว่าเขาเห็น “Make The Difference” ตามสโลแกนของธนาคาร ในสิ่งที่เราทำ เขาทึ่งว่าหนี้เสียแสนล้านบาทเราล้างขาดทุนเป็นกำไรได้อย่างไร
ผลงานที่ถือว่าเป็นชิ้นโบแดงของธนาคารทหารไทยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดเงิน คือ การออกผลิตภัณฑ์เงินฝากไม่ประจำ ลูกค้าไม่ต้องกรอกสลิปฝาก-ถอนเงิน ผลิตภัณฑ์ที่ฟรีค่าธรรมเนียม และที่โดดเด่นคือ “ME by TMB” ธนาคารทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ลูกค้าทำรายการเองโดยไม่ต้องมาที่สาขา และจะได้ดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่า เนื่องจากธนาคารประหยัดต้นทุนด้านพนักงานไปได้มาก
“ผมดีใจที่สามารถเปลี่ยนผลิตภัณฑ์การเงินในระดับประเทศได้ ด้วยการผลักดันให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์มากที่สุด ผมภูมิใจในหน้าที่เล็กๆ ของผม” บุญทักษ์ กล่าว
บัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เคยกล่าวว่า บุญทักษ์ชอบงานแบงก์ ทำอย่างสนุกสนาน ผิดจากเขาที่ไม่ค่อยชอบเป็นนายแบงก์
บุญทักษ์ ยอมรับว่า ชอบงานธนาคาร ทำแล้วรู้สึกสนุกมาก สิ่งที่ทำมีผลกระทบต่อเนื่องไปถึงคนเป็นล้านคน เราทำให้คนล้านคนแฮปปี้ คนล้านคนได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราคิด เช่น กดเอทีเอ็มไม่มีค่าธรรมเนียม ทำแล้วมีความสุข ยิ่งมีคู่แข่งมาทำเยอะๆ ยิ่งดี ประชาชนได้ประโยชน์
“ปรัชญาในการทำงานของผม คือ หาความพึงพอใจที่ได้สร้างมากกว่าครอบครอง แค่ได้สร้างก็พึงพอใจ นี่เป็นวิธีคิดแบบพวกวิศวะ แต่ผมไม่เคยทำงานวิศวะสักวัน” บุญทักษ์กล่าวพร้อมกับหัวเราะ
“ช่วงที่เข้ามาทำงานที่ธนาคารทหารไทยใหม่ๆ ผมเป็นกังวลว่า ผมจะมีทีมงานเป็นแบบไหน ปรากฏว่าผมมีทีมงานที่ดีมาก ปีแรกเราต้องจัดโครงสร้างใหม่ ต้องเปิดโครงการให้เกษียณอายุก่อนกำหนด มีพนักงานลาออกไปพันกว่าคน ใช้เงินไปเยอะมาก แต่เดี๋ยวนี้มีแต่ธนาคารอื่นมาดึงคนของเราไป ผมถือว่าเขาก้าวหน้าจากความตั้งใจทำงาน มีคนเห็นคุณค่าของเขา ผมดีใจนะ ไม่รู้สึกติดค้างเขา” บุญทักษ์ กล่าว
สำหรับหน้าที่ของซีอีโอนั้น เขาเห็นว่ามีเรื่องสำคัญ 2 อย่าง คือ จะต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า และอีกหน้าที่หนึ่ง คือ การสร้างระบบ ธนาคารจะต้องอยู่ได้ด้วยระบบ ไม่ใช่ด้วยคน ต้องหาคนเก่งมาทำงานและสร้างคนทดแทน ต้องมั่นใจว่าในทุกตำแหน่งจะมีคนพร้อมที่จะโยกย้ายเข้าไปแทน ต้องดูว่าในระยะเวลา 3 ปี 5 ปี จะมีกี่คนที่จะขึ้นมาทดแทนคนเก่า
วิธีการนี้จะใช้หัวหน้าฝ่ายคุยกับพนักงานว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า อยากย้ายไปทำงานที่ไหน ตรงไหนที่อยากทำ ไม่ใช่ทำงานแบบเดิม อยู่ในที่เดิมๆ ตลอดไป มันไม่มีประโยชน์อะไร มีแต่ความเสี่ยงในชีวิตคุณ ซึ่งธนาคารมีโปรแกรมพัฒนาบุคลากร ทั้งจัดอบรม สัมมนา เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าทำงานต้องมีความก้าวหน้า
“ปีหน้าก็จะครบสัญญาว่าจ้างในวาระที่ 2 ผมก็เตรียมหาคนมาแทน ซึ่งก็มีทั้งคนในและคนนอก ถึงเวลานั้นทางคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นจะเลือกคนที่เหมาะสมเอง เมื่อผมเดินออกจากแบงก์นี้ไปแล้ว ผมอยากมองกลับมาแล้วเห็นองค์กรมีชีวิตชีวา อยู่ได้ 100 ปี 200 ปี สร้างสิ่งที่มีคุณค่าทางสังคม ซึ่งจะทำให้องค์กรมีความมั่นคงยั่งยืน” บุญทักษ์ กล่าว
บุญทักษ์ บอกว่า เป็นธรรมดาที่ทำงานต้องเจอปัญหา แต่ก็ไม่เคยท้อกับปัญหาที่เจอ ค่อยๆ แก้ไป คิดอยู่เสมอว่า ทุกวันเหมือนเป็นวันสุดท้ายของชีวิต ทำทุกอย่างให้เต็มที่ ทำสุดกำลัง
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่เขาอยากทำให้เสร็จอีกหลายเรื่อง เช่น การมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบการชำระเงินของประเทศ ที่จะต้องมีกฎหมายรองรับ การสร้างช่องทางให้ผู้ที่เข้าไม่ถึงบริการของธนาคาร หรือสถาบันการเงิน โดยเฉพาะลูกค้าเอสเอ็มอี
ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย บุญทักษ์ผลักดันให้มีการทำแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ครอบ คลุม ทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ 1.การสร้างระบบชำระเงินและธนาคารดิจิทัล 2.การยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานด้วยจรรยาบรรณธนาคาร และการให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน 3.การสนับสนุนการทำธุรกรรมการเงินในภูมิภาค 4.การเข้าถึงบริการทางการเงินทุกภาคส่วน และ 5.การผลักดันแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ในส่วนของการสร้างระบบชำระเงินและธนาคารดิจิทัล จะเน้นความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
นั่นคือภารกิจที่นายแบงก์แห่งเอเชียแปซิฟิกคนนี้กำลังดำเนินการ


