‘ประเสริฐ’ CFO คู่ใจ ‘ปลิว’ แห่ง ช.การช่าง

ธุรกิจจะวิ่งไปข้างหน้าได้รวดเร็วแค่ไหน ปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญก็คือเม็ดเงินในกระเป๋า ซึ่งเจ้าของหรือผู้บริหารจะต้องเฟ้นหามือการเงินมือทองมาอยู่ข้างกาย

“ประเสริฐ มริตตนะพร” กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มงานบริหาร บริษัท ช.การช่าง (CK) ซึ่งถือว่าเป็นซีเอฟโอคู่ใจ “ปลิว ตรีวิศวเวทย์” เจ้าของ ช.การช่าง ที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ในการจัดหาแหล่งเงินมาขยายอาณาจักร ช.การช่าง ให้เติบใหญ่เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีสินทรัพย์ใหญ่อันดับหนึ่ง กว่า 8 หมื่นล้านบาท และมีรายได้ 3.54 หมื่นล้านบาท ในปี 2557

ประเสริฐเล่าให้ฟังว่า 32 ปีใน ช.การช่าง โดยเริ่มทำงานเมื่อปี 2526 และเป็นผู้รับผิดชอบการจัดหาแหล่งเงินมาโดยตลอด วันนี้แม้อายุจะถึง 60 ปีแล้ว แต่ยังทำหน้าที่ต่อไปจนกว่ามือการเงินแถวถัดไปจะแข็งแกร่ง

ซีเอฟโอ ช.การช่าง กล่าวถึงหลักการหาเงินว่า เมื่อบริษัทเข้าประมูลและชนะได้งานมา เงินเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมาก แน่นอนในการหาเงินก็จะต้องรอบคอบและมีต้นทุนที่ดีที่สุด เมื่อบริษัทได้โครงการมาก็นำโครงการนั้นมากู้เงิน ให้สถาบันการเงินดูและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในด้านต่างๆ รวมถึงความสามารถชำระเงินคืน ซึ่งกรณีของ ช.การช่าง ในการขอเงินกู้ไม่ได้ใช้สินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่จะโอนสิทธิในการรับเงินตามความคืบหน้าของงานให้กับสถาบันการเงิน ซึ่งจะเป็นอย่างนี้ไปจนสถาบันการเงินมั่นใจ

“ประเสริฐ” เริ่มทำหน้าที่ในการหาเงินครั้งแรก จากโครงการก่อสร้างขนาดไม่ใหญ่ คือ โรงเรียนนายร้อย จปร. ที่เขาชะโงก มูลค่า 2,600 ล้านบาท จนมาถึงวันนี้ ช.การช่าง รับงานขนาดใหญ่และการจัดหาเงินที่ผ่านมือมากสุด คือ การหาแหล่งเงินกู้วงเงิน 8 หมื่นล้านบาท ดำเนินโครงการเขื่อนไซยะบุรี ซึ่งผมถือว่าเป็นความสำเร็จที่ธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง มาร่วมในการปล่อยกู้ได้ และวันนี้ไซยะบุรีมีความคืบหน้าทุกๆ ด้าน

ส่วนประสบการณ์ในฐานะมือการเงินที่มิอาจลืม คือ วิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 ตอนนั้นต้องทำทุกอย่างให้สถาบันการเงินมั่นใจต่อหนี้ที่มีกันอยู่ เราบอกว่าจะชำระหนี้คืนทุกบาท แต่ช่วงมีปัญหาขอคืนเฉพาะดอกเบี้ย บริษัทก็ผ่านมาได้

วันนี้ ช.การช่าง อยู่ในฐานะที่ทุกธนาคารพร้อมให้กู้ เพราะประวัติทางการเงินที่ดี ขณะที่กิจการก็เติบโตแข็งแกร่ง