ตรังปิดโรงงานรับซื้อ อ้างปาล์มล้นสต๊อก

โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรายใหญ่ 4 แห่งเมืองตรังประกาศปิดรับซื้อไปจนถึงวันที่ 5 พ.ค. อ้างปาล์มล้นสต๊อก

นายวรวัฒน์ วงษ์สุรีย์รัตน์ ผู้จัดการฝ่ายการเงิน บริษัท ตรังน้ำมันปาล์ม เปิดเผยว่า โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มของบริษัทประกาศหยุดรับซื้อผลปาล์มสดไปจนถึงวันที่ 5 พ.ค. เช่นเดียวกับอีก 3 โรงงานรายใหญ่ของ จ.ตรัง

นายวรวัฒน์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่โรงงานต้องหยุดรับซื้อผลปาล์มสดจากเกษตรกรเพราะผลปาล์มสดล้นสต๊อก และโรงงานสกัดน้ำมันไม่ทัน เนื่องจากมีกำลังการผลิตอยู่ที่วันละ 1,000 ตันเท่านั้น ขณะที่เกษตรกรนำผลปาล์มสดเข้ามาขายโรงงานวันละ 2,800-3,000 ตัน

“ผลปาล์มสดที่ล้นสต๊อกเหล่านี้ หากทิ้งไว้นานหลายวันจะเกิดปัญหาเน่าเสีย โรงงานจึงหาทางออกโดยการหยุดรับซื้อผลปาล์มสดไปจนถึงวันที่ 5 พ.ค.นี้” นายวรวัฒน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ส่วนการที่รัฐบาลนำเข้าน้ำมันปาล์มจำนวน 5 หมื่นตันเมื่อไม่นานมานี้ก็อาจมีผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาตกต่ำจนเหลือแค่กิโลกรัมละ 2.70 บาทนั้นมาจากอุปสงค์และอุปทานทำให้ผลปาล์มสดล้นตลาดมากกว่า

นายชาญชิต นาวงศ์ศรี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทำสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มระหว่างโรงงานสกัดน้ำมันใน จ.กระบี่ กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนผสมใช้เป็นพลังงานผลิตกระแสไฟฟ้า

ทั้งนี้ นำร่องที่โรงงานไฟฟ้า จ.กระบี่ ซึ่งการเจรจาคืบหน้าไปมาก แต่ยังมีข้อกฎหมายและระเบียบโครงการนี้หากสามารถบรรลุข้อตกลงเมื่อไหร่จะรักษาราคาปาล์มให้มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น