‘เฮ็ดให้ทันเด้อ’ เหรียญรุ่นสุดท้ายหลวงตาพวง
ครั้งหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ยังแข็งแรงอยู่ มักถามสาธุชนที่ไปกราบนมัสการท่านว่า มาจากไหน
โดย...ภัทระ คำพิทักษ์
ครั้งหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ยังแข็งแรงอยู่ มักถามสาธุชนที่ไปกราบนมัสการท่านว่า มาจากไหน ถ้าคณะศรัทธาตอบว่ามาจาก จ.ยโสธร หลวงพ่อคูณจึงกล่าวขึ้นมาเสมอว่า “ที่ยโสธรมีคนเก่งกว่ากูอีก ผมหงอกๆ ขาวๆ ที่นั่งอยู่ริมแม่น้ำชีนั่นแหละ ท่านหมดกิเลสแล้ว ท่านไม่แสดงเฉยๆ กูยังไม่ถึงท่านเลย ไป...”
ไป...ในที่นี้หมายถึง ท่านเลยให้คณะศรัทธาไปทำบุญกับพระอริยบุคคลท่านนั้น
พระผมหงอกๆ ขาวๆ ที่นั่งอยู่ริมแม่น้ำชี ณ เวลานั้นมีอยู่รูปเดียวคือ พระเทพสังวรญาณ (พวง สุขินทริโย) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงตาพวง นั่นเอง
เมื่อมีคนไปเรียนถามหลวงตาพวงถึงคำพูดของหลวงพ่อคูณ หลวงตาพวงก็มิได้ตอบรับ หรือตอบปฏิเสธ แต่ตอบแบบกลางๆ ว่า “ก็เคยได้ยินจากญาติโยมหลายสิบคนแล้ว ที่เล่าเหมือนกันว่า เมื่อชาวยโสธรไปกราบหลวงพ่อคูณ ท่านมักจะไล่กลับมาหาหลวงตา ...
...หลวงตาเองไม่เคยได้พูดคุยกับหลวงพ่อคูณสักครั้งเดียว หลวงตาเคยไปวัดบ้านไร่มาสองครั้ง แต่ไม่เคยมีโอกาสได้พูดคุยกับท่านเพราะมีญาติโยมจำนวนมาก จึงไม่มีโอกาสพูดคุยกัน หลวงพ่อคูณจะทราบได้อย่างไรไม่ทราบ หรืออาจจะเป็นเพราะลูกศิษย์เล่าให้ฟังถึงประวัติหลวงตากระมัง”
หลวงตาพวงเป็นพระกรรมฐาน แม้ท่านจะได้รับสมณศักดิ์ และรับภาระการบริหารคณะสงฆ์ โดยเป็นเจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุติ แต่อีกด้านหนึ่งท่านเป็นพระป่าที่เคร่งครัดในการปฏิบัติตามแนวครูบาอาจารย์ของท่านคือ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม
หลวงตาพวงเกิดเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2470 ละขันธ์ เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2552
ก่อนท่านจะละขันธ์เนื่องจากผลของโรคมะเร็งในต่อมน้ำดีนั้น ท่านเริ่มมีอาการอาพาธเมื่อปลายปี 2550 จากนั้นก็เข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง กระทั่งถึงเดือน ม.ค. 2552 ก่อนจะละขันธ์เพียง 3 เดือน ท่านได้บอกให้ลูกศิษย์ล่วงหน้าว่า ทำตัวให้ว่างในเดือน มี.ค.จะพาไปทำบุญใหญ่ทอดผ้าป่าที่ วัดศิริดำรงวนาราม หรือวัดป่าท่าสองคอน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
วัดป่าท่าสองคอนมีความสำคัญอย่างมากกับหลวงตาพวง เพราะเมื่อ 60 ปีก่อนนั้น ญาติโยมที่บ้านท่าสองคอนนี่เองที่เป็นเจ้าภาพอุปสมบทและถวายผ้าไตรให้กับท่านและเป็นสถานที่ที่ท่านจำพรรษาอยู่ในช่วง 2 ปีแรกของการได้ใช้ชีวิตอยู่ในร่มผ้ากาสาวพัสตร์
เมื่อถึงวันที่ 28 มี.ค. 2552 หลวงตาได้นำคณะเดินทางออกจาก จ.ยโสธร ระหว่างทางนั้นอาการอาพาธได้กำเริบมากขึ้นแต่ท่านก็ยังเดินทางต่อ พร้อมทั้งสั่งให้เปลี่ยนเส้นทางโดยแวะไปสักการะหลวงปู่มั่น ที่พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น จ.สกลนคร แวะกราบเจดีย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่ อ.พรรณานิคม คล้ายกับจะไปกราบลาครูบาอาจารย์ของท่าน
เมื่อไปถึงวัดป่าสองคอนแล้ว หลวงตาพวงก็ได้แจกทานให้กับชาวบ้านจนเสร็จแล้วจึงได้เรียกพระเลขาฯ มาสั่งการให้ช่วยเหลือการก่อสร้างโบสถ์วัดท่าสองคอนให้เรียบร้อย
จากนั้นจึงเข้าไปพักผ่อน โดยมีหลวงตาบุญหนา ธัมมทินโน เข้าไปพูดคุยอยู่พักใหญ่ ก่อนจะออกมาบอกว่า “แม้สังขารของหลวงตาไม่ให้แต่หัวใจท่านเต็มร้อย มีเมตตามางานครั้งนี้”
พอหลวงตาบุญหนาพาคณะสงฆ์และญาติโยมเริ่มทำวัตรเย็น ช่วงนั้นเองหลวงตาพวงได้เรียกให้นำวัตถุมงคลที่ศิษย์ได้ขออนุญาตสร้างเข้าไปให้ท่านอธิษฐานในห้อง
เป็นการอธิษฐานในลักษณะที่หลวงตานอนนิ่ง ตะแคงขวา อยู่ในท่าสีหไสยาสน์
สีหไสยาสน์ ตามพจนานุกรมแปลว่า “นอนอย่างราชสีห์ นอนตะแคงข้างขวาและนอนอย่างมีสติ กำหนดเวลาตื่นไว้ก่อนที่จะหลับ พระพุทธเจ้าบรรทมท่านี้เป็นประจำ และนับว่าเป็นท่านอนของ
ผู้มีกิเลสเบาบาง”
พระพุทธองค์ก็ทรงดับขันธ์ปรินิพานในท่าสีหไสยาสน์
วัตถุมงคลที่หลวงพ่อพวงอธิษฐานเป็นครั้งสุดท้ายนี้ สร้างขึ้นเพราะศิษย์ได้เอ่ยปากขออนุญาตในช่วง 4 สัปดาห์ก่อนที่จะเดินทางมายังวัดท่าสองคอน โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้ท่านได้แจกญาติโยมแถวนั้นไว้เป็นที่ระลึก
หลวงตาอนุญาต พร้อมทั้งกำชับว่า “เฮ็ดให้ทันเด้อ” หรือ “ทำให้ทันนะ”
ไม่เพียงแต่กำชับเช่นว่า หลวงตายังบอกด้วยว่า อย่าทำเป็นเนื้อผงเพราะพระจะแห้งไม่ทัน
วัตถุมงคลรุ่นสุดท้ายนี้มี 4 แบบ และบางชนิดทางวัดก็มียังเก็บไว้ทำประโยชน์ มีอะไรบ้างสัปดาห์หน้ามาว่ากันต่อครับ


