ธรรมทูตขาดคู่มือ

โดย...สมาน สุดโต

คณะกรรมการอำนวยการโครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ 21 ประชุมกัน ณ ศาลาการเปรียญ (หอสมุดกลาง) วัดมหาธาตุ วันที่ 18 ก.พ. 2558 มีประเด็นที่น่าสนใจหลายเรื่อง

1.สภามหาวิทยาลัยเห็นชอบให้ตั้งวิทยาลัยธรรมทูต เพื่อรับผิดชอบการอบรมพระธรรมทูต ตั้งแต่รุ่นที่ 21 เป็นต้นไป

2.การอบรมพระธรรมทูต รุ่นที่ 21 จัดขึ้นเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระชนมายุ 60 พรรษา 2 เม.ย. 2558

การประชุมวันนี้มีพระธรรมสุธี นายกสภามหาวิทยาลัย เป็นประธาน

พระพรหมสิทธิ ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ประชุมด้วย ได้กล่าวว่าจะเดินตามรอยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) ที่ท่านสร้างไว้ดีแล้ว จึงเห็นพระพุทธศาสนาขยายไปทั่วโลก ทั้งยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง ก็เพราะผลงานพระธรรมทูตทั้งสิ้น

นอกจากนั้น สมเด็จพระพุฒาจารย์ เมื่อมีชีวิตปรารภเสมอว่ามหาวิทยาลัยสงฆ์เป็นพลังสำคัญในการผลักดันให้พระพุทธศาสนาเดินหน้าไปทั่วโลก แม้พระเถระรุ่นก่อนๆ จะคัดค้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปต่างประเทศก็ตาม บัดนี้แรงผลักดันต่างๆ นั้นทำให้เห็นพุทธศาสนากระจายไปทุกแห่งในโลก ทำให้พุทธศาสนามีอยู่ทั่วโลก มิใช่เฉพาะไทยเท่านั้น

พระพรหมบัณฑิต ในฐานะอธิการบดี มจร และประธานอำนวยการโครงการ ตั้งข้อสังเกตว่า เราอบรมพระธรรมทูตมาหลายรุ่น แต่ละรุ่นจัดทำหนังสืออนุสรณ์ประจำรุ่น ก็น่าชมเชย แต่ไม่ได้สนองความต้องการหรืออุดช่องว่างงานพระธรรมทูต เราขาดไปอย่างหนึ่งนั้น คือ คู่มือพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ที่บอกกล่าวให้ความรู้พื้นฐานด้านภาษาอังกฤษที่ใช้ในการเดินทาง ติดต่อประสานงาน และการอบรมวิปัสสนากรรมฐาน

ข้อมูลว่าใครเป็นใครในสมัชชาสงฆ์ไทย หรือสภาสงฆ์ไทยในสหภาพยุโรป รวมทั้งข้อมูลด้านกฎหมายระเบียนปฏิบัติต่างๆ ในประเทศนั้นๆ ที่เราควรรู้ เช่น การก่อสร้างนั้นจะทำได้ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไร ข้อห้าม ข้ออนุญาต เป็นอย่างไร

พระราชปริยัติเวที อดีตพระธรรมทูตประจำสหรัฐ ปัจจุบันเป็นรองเจ้าคณะสงฆ์และเจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม กล่าวว่า ควรจัดค่ายภาษาอังกฤษโดยเฉพาะเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อให้พระธรรมทูตสามารถสื่อสารกับผู้คนในประเทศนั้นๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษ เช่น สหรัฐ

พระธรรมทูตก็มีความรู้ภาษาอังกฤษเป็นที่ต้องการของญาติโยมมาก และเป็นความจำเป็นในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นหลักด้วย

พระเถระเปิดสนามสอบที่ญี่ปุ่น

ในการประชุมมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2558 เลขาธิการมหาเถรสมาคม เสนอว่า สมเด็จพระวันรัต แม่กองธรรมสนามหลวง และกรรมการมหาเถรสมาคม แจ้งว่า พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายโตเกียว นครโตเกียว และ พระสุขสันต์ สุขสนฺโต เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายโอซากา นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ได้ขออนุมัติให้มีการเปิดสอบธรรมสนามหลวง ครั้งที่ 7/2558 ณ วัดพระธรรมกายโตเกียว และวัดพระธรรมกายโอซากา ประเทศญี่ปุ่น

พระพรหมมังคลาจารย์

 

สนามหลวงแผนกธรรมเห็นชอบตามเสนอ และอนุมัติให้กำหนดเปิดสอบธรรมสนามหลวง ในวันที่ 29 มี.ค. 2558 ณ วัดพระธรรมกายโตเกียว และวัดพระธรรมกายโอซากา ประเทศญี่ปุ่น โดยมีรายละเอียดผู้ขอเข้าสอบดังนี้

1.สนามสอบวัดพระธรรมกายโตเกียว นครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีรายละเอียด ผู้ขอเข้าสอบดังนี้

มีผู้สมัครสอบธรรมศึกษาชั้นตรี จำนวน 8 คน

มีผู้สมัครสอบธรรมศึกษาชั้นโท จำนวน 16 คน

มีผู้สมัครสอบธรรมศึกษาชั้นเอก จำนวน 17 คน

และขออนุมัติผู้แทนแม่กองธรรมสนามหลวงไปปฏิบัติศาสนกิจ จำนวน 2 รูป คือ

1) พระพรหมมังคลาจารย์ รองแม่กองธรรมสนามหลวง ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร

2) พระมหาประจักร ธมฺมวิภูโต เจ้าหน้าที่ประจำฝ่ายสถิติ(คุณุ) สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวงวัดชนะสงคราม กรุงเทพมหานคร

2.สนามสอบวัดพระธรรมกายโอซากา นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น โดยมีรายละเอียด ผู้ขอเข้าสอบดังนี้

มีผู้สมัครสอบธรรมศึกษาชั้นตรี จำนวน 1 คน

มีผู้สมัครสอบธรรมศึกษาชั้นโท จำนวน 8 คน

มีผู้สมัครสอบธรรมศึกษาชั้นเอก จำนวน 10 คน

และขออนุมัติผู้แทนแม่กองธรรมสนามหลวงไปปฏิบัติศาสนกิจ จำนวน 5 รูป คือ

1) สมเด็จพระธีรญาณมุนี กรรมการมหาเถรสมาคมและที่ปรึกษาแม่กองธรรมสนามหลวงวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร

2) พระราชวรเมธาจารย์ วัดโบสถ์ จ.ปทุมธานี

3) พระราชธีรสารมุนี วัดพระศรีมหาธาตุ กรุงเทพมหานคร

4) พระกิตติสารมุนี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวงวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร

5) พระครูวินัยธร เทียนชัย ชยทีโป (วันอุบล) วัดนรนาถสุนทริการาม กรุงเทพมหานคร

6) พระกัมพล กมฺพโล (ชาญสมิง) วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร

คณะผู้แทนแม่กองธรรมสนามหลวงกำหนดเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจในวันที่ 28 มี.ค. 2558 เมื่อปฏิบัติศาสนกิจการเปิดสอบธรรมเสร็จเรียบร้อยแล้วจะเดินทางไปเยี่ยมวัดต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น และกำหนดเดินทางกลับในวันที่ 5 เม.ย. 2558 รวมเวลาไปปฏิบัติศาสนกิจครั้งนี้ จำนวน 9 วัน

ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติอนุมัติ