posttoday

ยื้อตั้ง ‘ผู้ว่า รฟม.’ ช.การช่าง-บีทีเอส สะท้าน

07 กุมภาพันธ์ 2558

แม้ว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีมติแต่งตั้ง พีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่าการ

แม้ว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีมติแต่งตั้ง พีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่ ไปเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2558 แบบผิดความคาดหมาย เพื่อตอกเสาเข็มระบบรถไฟฟ้าในเมืองหลวงที่ล่าช้า

จากนั้นในวันถัดมา พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการประธานกรรมการ รฟม. ได้เรียกประชุมบอร์ดนัดพิเศษเพื่อรับทราบมติ ครม. ก่อนจะมีมติเซ็นสัญญาว่าจ้างพีระยุทธมานั่งเป็นผู้ว่าการ รฟม.เพื่อขับเคลื่อนงานในองค์กร

แต่พีระยุทธบอกกับโพสต์ทูเดย์ว่า “อย่าเพิ่งเรียกผมว่าผู้ว่าฯ เพราะตอนนี้บอร์ดยังไม่ได้เซ็นสัญญากับผมเลย”

เนื่องจากปรากฏว่า รณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าการ (บริหาร) รฟม. ในฐานะรักษาการผู้ว่าการ รฟม. แจ้งต่อบอร์ดว่า ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงพีระยุทธแล้ว หลังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีหนังสือทักท้วงกรณีอนุมัติเปลี่ยนแปลงสัญญาและเพิ่มค่างานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงสนามไชย-ท่าพระ ทำให้ รฟม.ต้องจ่ายเงินเพิ่มให้ผู้รับเหมา 290 ล้านบาท และขยายระยะเวลาก่อสร้างไป 90 วัน ซึ่งลงนามอนุมัติโดยพีระยุทธ ในฐานะผู้อำนวยการโครงการ

ข้อมูลในทางลึกระบุว่า การประชุมบอร์ด รฟม.วันนั้น พล.อ.ยอดยุทธ เพื่อนรัก พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการให้รณชิตยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงพีระยุทธ เพราะการประชุมบอร์ด รฟม. เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา บอร์ด รฟม.มีมติแต่งตั้ง ไกร ตั้งสง่า กรรมการ รฟม. เป็นประธานสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการเปลี่ยนแปลงสัญญา หากพบว่าพีระยุทธมีความผิดจริง บอร์ด รฟม.จะเริ่มสรรหาใหม่

“บอร์ดมีอำนาจตามกฎหมาย และส่งมอบอำนาจนั้นต่อมาให้ผู้ว่าการ รฟม. ดังนั้นมติของบอร์ดสอบสวนผมแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดรักษาการผู้ว่าการ จึงไม่ยกเลิกคำสั่งสอบสวนวินัยร้ายแรงผม เพราะเห็นได้ชัดว่ามันซ้ำซ้อนกัน และส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของ รฟม.ที่มีหน้าที่เร่งรัดโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ” พีระยุทธ ชี้แจง

อย่างไรก็ตาม บอร์ด รฟม.รายหนึ่ง กล่าวว่า การประชุมบอร์ด รฟม. เมื่อวันที่ 4 ก.พ. มีบอร์ดอย่างน้อย 3 คน และหนึ่งในนั้นเป็นตัวแทนสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ไม่เห็นด้วยกับการที่บอร์ดได้สั่งการให้รณชิตลงนามยกเลิกคำสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงพีระยุทธ ไม่เช่นนั้นรณชิตในฐานะรักษาการผู้ว่าการ รฟม.จะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 

“เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับพีระยุทธ ทำให้รณชิตไม่สามารถเซ็นคำสั่งอนุมัติให้พีระยุทธลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าการ รฟม. จนกว่าผลการสอบสวนวินัยร้ายแรงจะได้ข้อยุติ ส่วนการสอบสวนจะใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่ก็ต้องแล้วแต่ดุลพินิจของคณะกรรมการ เพราะในคำสั่งไม่มีระบุว่าจะต้องสอบให้เสร็จสิ้นเมื่อใด แต่ผลการสอบสวนจะมีผลต่อการเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ รฟม.ของพีระยุทธไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” บอร์ด รฟม.ชี้แจง

แน่นอนว่าคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงพีระยุทธส่งผลให้การเซ็นสัญญาจ้างพีระยุทธมาเป็นผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่จะต้องลากยาวออกไป แม้ว่า ครม.ประยุทธ์จะมีมติแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการ รฟม.ไปแล้ว

ขณะเดียวกัน รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีความสุ่มเสี่ยงไม่น้อย เนื่องจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศเป็นยุทธศาสตร์ชัดเจนว่าจะปฏิรูปประเทศ วางรากฐานในการแต่งตั้งข้าราชการ

นอกจากนี้ ในเดือน ก.พ.นี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอโครงการรถไฟฟ้า 2 สายให้ ครม.อนุมัติ คือ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี วงเงิน 5.67 หมื่นล้านบาท และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง วงเงิน 5.47 หมื่นล้านบาท

ดังนั้น หากการทอดระยะเวลาเซ็นสัญญาจ้างผู้ว่าการ รฟม.ออกไป โดยที่ยังไม่ได้ข้อยุติ จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการรถไฟฟ้าอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะแผนสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย 2 สาย คือ สายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27 กม. วงเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท ที่ต้องการให้โครงข่ายต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าใต้ดินในปัจจุบันจนสามารถวิ่งเป็นวงกลมเชื่อมการเดินทางจากฝั่งพระนครและฝั่งธนฯ เข้าด้วยกัน ซึ่งว่ากันว่า กลุ่ม ช.การช่าง ผู้ถือหุ้นบริษัท บีเอ็มซีแอล มีโอกาสแทบจะ 100% ในการคว้างานเดินรถ

อีกสายที่น่าจับตา คือ สายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 12.8 กม. ทางบริษัท บีทีเอสซี ของตระกูลกาญจนพาสน์ มีแนวโน้มจะคว้าเค้กสายนี้ไปแบบไร้คู่แข่ง ซึ่งขณะนี้มีคำสั่งในทางลับ รฟม.ไปเจรจากับบีทีเอสเพื่อวิ่งรถให้เชื่อมต่อกันจากส่วนต่อขยายจากแบริ่ง-สมุทรปราการ กับหมอชิต-คูคต

เพียงแต่มีเงื่อนไขพิเศษไปให้บิ๊กใน รฟม.พิจารณาว่า ราคาที่เหมาะสมในสายแบริ่ง-สมุทรปราการ ไม่ควรน้อยกว่า 9,200 ล้านบาท และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ไม่น่าจะน้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท การตั้งผู้ว่าการ รฟม.ไม่ได้จึงสะท้านไปทั่ว...

ข่าวล่าสุด

ล้ำไปอีกขั้น เสื้อกั๊ก AI ช่วยผู้ป่วยหลอดเลือดสมองขยับแขน