กำนันโวยสงสัยรถถูกสวมทะเบียนส่งตรวจสอบ

ปทุมธานี-รถ2คันเหมือนกันแถมทะเบียนตรงกันส่งตำรวจช่วยตรวจสอบคันไหนถูกสวมทะเบียนปลอม

เมื่อวันที่19ก.ย. นางวรัทยา  ตรีสินธุ์ กำนันต.คานหาม อ.อุทัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา นำรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซีวิค  สีดำ หมายเลขทะเบียน  ฎศ 7222 กทม. จำนวน 2 คัน ซึ่งเป็นรถที่มีความเหมือนกันต่างกันที่ล้อแม็คไปที่กองพิสูจน์หลักฐาน เขต 1 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพรถยนต์เก๋งทั้งสองคันว่าคันใดเป็นรถที่ถูกต้องตามทะเบียนขนส่ง หลังจากที่นางวรัทยานำรถไปต่อภาษีที่กรมการขนส่งเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2557 แต่ถูกปฎิเสธเพราะมีนางรื่นรมย์  ใสสด ชาวจ.กาญจนบุรี ได้นำรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค หมายเลขทะเบียน ฎศ 7222 กทม. รุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน เข้ามาต่อ ภาษี และพรบ.ก่อนหน้าแล้วเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2557 จึงได้เข้าแจ้งความได้ที่ กองปราบปรามไว้เป็นหลักฐาน เพราะเชื่อว่ารถที่ใช้นั้นน่าจะถูกสวมทะเบียนปลอม ซึ่งได้นำรถทั้งสองคันมาตรวจสอบพบว่ามีหมายเลขทะเบียนเดียวกันสีเดียวกันเลขตัวเครื่อง ตัวถังเหมือนกันทุกอย่างมีเพียงอย่างเดียวที่แตกต่างกัน  คือ ซีเรียลบาโค๊ด
 
นางวรัทยา กล่าวว่า ได้ออกรถยนต์ที่ศูนย์ฮอนด้า ในจ.สมุทรปราการ ในนาม พ.จ.อ.สมาน พางศิริ ซึ่งเป็นสามี ต่อมาสามีเสียชีวิต รถคันดังกล่าวก็ได้เป็นมรดกตกถอด ทางธนาคารที่ทำสินเชื่อเป็นผู้โอนให้ซึ่งก็ได้ทำการต่อภาษีและพรบ.มาตลอดทั้ง 2 ปี  จนมาปีนี้กลับพบว่ากลับถูกปฎิเสธในการให้ต่อภาษี เนื่องจากมีผู้ได้นำรถ สีเดียวกันหมายเลขทะเบียนเดียวกันมาต่อภาษีไปแล้ว
 
ด้านนายสมจิตร  (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของเต็นท์รถจ.สุพรรบุรี ที่นำรถฮอนด้าซีวิคอีกคันเข้ามาตรวจสอบ กล่าวว่า รถคันดังกล่าวน้องชายได้ซื้อรถมาจากนายวัฒนพล  เจริญภักดี ชาวจ.ราชบุรี ซึ่งก่อนที่จะตกลงซื้อขายกันก็ได้ตรวจสอบไปยังที่กรมขนส่งแล้วว่ารถคันดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายมีการเซ็นสัญญาโอนลอยกัน กระทั่งได้ขายไปให้กับนางรื่นรม ซึ่งขั้นตอนในการต่อทะเบียนก็ไม่มีปัญหาอะไรจนกระทั่งได้รับการติดต่อจากบริษัทสินเชื่อว่า มีรถรุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน หมายเลขทะเบียนเดียวกัน ที่จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้นำรถเข้ามาตรวจสอบด้วยเนื่องจากไม่แน่ใจว่าจะถูกลอกขายรถมาหรือไม่
 
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน เขต 1 ได้รับรถทั้งสองคันไว้ตรวจสอบ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน ตามเอกสารทะเบียนขนส่งว่าคันไหนมีรายละเอียดหมายเลขตามอุปกรณ์ และเครื่องยนต์ที่แท้จริง เพื่อให้จะได้ดำเนินการกับรถคันที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจจะมีการสวมทะเบียนมาแล้วหลอกขาย