posttoday

ทหารแจงปืนหายเป็นคดีสิ้นสุดแล้วไม่เกี่ยวยึดอาวุธช่วงคสช.

17 สิงหาคม 2557

เจ้ากรมพระธรรมนูญยอมรับปืนของกลางหายจริง 40 กระบอก แต่ไม่ใช่อาวุธสงครามที่คสช.ยึดได้ ชี้ส่วนใหญ่เป็นคดีที่สิ้นสุดแล้ว

เจ้ากรมพระธรรมนูญยอมรับปืนของกลางหายจริง 40 กระบอก แต่ไม่ใช่อาวุธสงครามที่คสช.ยึดได้ ชี้ส่วนใหญ่เป็นคดีที่สิ้นสุดแล้ว

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. พล.อ.จิระ โกมุทพงศ์ เจ้ากรมพระธรรมนูญ (จก.ธน.) กล่าวว่า ตามที่ ตุลาการพระธรรมนูญ หัวหน้าศาลทหารกรุงเทพฯ ให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ร.อ.ชินพล ออรุ่งโรจน์ และ จ.ส.อ.สมเกียรติ ม้ายอง ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ของทางราชการ เป็นอาวุธปืนของกลางนั้น ยอมรับว่ามีการลักขโมยอาวุธปืนของกลางจริง แต่มีจำนวนทั้งสิ้น 40 กระบอกไม่ใช่ 54 กระบอก และส่วนใหญ่เป็นปืนในคดีที่สิ้นสุดหมดแล้ว ยังคงเหลือปืนที่ยังเป็นคดีอยู่จำนวน 2 กระบอกเท่านั้น ซึ่งการที่ต้องเก็บรักษาไว้ก็เนื่องจากอนาคตอาจจะมีการร้องเพื่อรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่

ทั้งนี้ยืนยันว่าอาวุธปืนดังกล่าวไม่ใช่อาวุธสงครามที่ยึดได้ในช่วงการประกาศกฎอัยการศึกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่เป็นอาวุธปืนสั้นที่มีจำเลยเป็นทหาร เช่น คดีการพกพาไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

พล.อ.จิระ กล่าวว่า จ.ส.อ.สมเกียรติ ที่อยู่ระหว่างหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนร.อ.ชินพล ไม่ได้หลบหนี จึงได้ควบคุมตัวไว้ เพราะมีหน้าที่โดยตรงในการเก็บกุญแจห้องเก็บของกลาง แต่ร.อ.ชินพล ยังให้การปฏิเสธ จึงได้สั่งให้พักราชการไว้ก่อน ทั้ง 2 นาย

ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คสช. กล่าวยืนยันว่า อาวุธปืนกลางที่หายไปไม่ได้เป็นอาวุธสงครามที่ได้ยึดระหว่างการประกาศใช้กฎอัยการศึก แต่เป็นปืนของกลางจากคดีที่นายทหารกระทำความผิดในคดีอาญา แล้วถูกนำตัวมาขึ้นศาลทหาร และถูกยึดอาวุธปืน เพื่อเก็บรักษาไว้แผนกเก็บรักษา โดยปืนเหล่านั้นคดีความได้สิ้นสุดแล้ว

ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ

ข่าวล่าสุด

เปิดภาพคุมตัว "น.ส.ลัก" สอบเข้ม ปมบังคับลูกสาววัย 12 ค้ากามญี่ปุ่น