วูบกลางฟิตเนส...ภัยร้ายใกล้ตัว
คนไทยส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ความเข้าใจถึงวิธีการออกกำลังกายในฟิตเนสที่ถูกต้อง บ้างป่วยเป็นโรคต้องห้าม บ้างมือใหม่ไร้ประสบการณ์ บ้างบ้าพลัง ระวังให้ดีหักโหมเกินไปอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
โดย....อินทรชัย พาณิชกุล
ข่าวการเสียชีวิตอย่างกระทันหันของ หนุ่มวัย 38 ปี ขณะออกกำลังกายที่ศูนย์ออกกำลังกายชื่อดังภายในห้างสรรพสินค้ากลางกรุง สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก
รายงานระบุว่าชายหนุ่มคนนี้ได้สมัครเป็นสมาชิกกับฟิตเนสและเดินทางมาออกกำลังกายเป็นวันแรก หลังเข้ารับการทดสอบจากที่ปรึกษาด้านการออกกำลังกายของทางฟิตเนส ก็ขึ้นวิ่งบนอุปกรณ์ลู่วิ่งไฟฟ้า ก่อนจะล้มลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เมื่อตรวจสอบสัญญาของการเป็นสมาชิกฟิตเนสพบว่าไม่ได้ระบุว่ามีโรคประจำตัว ทั้งยังไม่ได้แจ้งขอเทรนเนอร์ในการออกกำลังกาย ขณะเดียวกันผลการชันสูตรพลิกศพของเจ้าหน้าที่กู้ภัยนิติเวชพบว่าผู้ตายมีโรคความดันโลหิต และมีคอลเลสเตอรอลสูงอุดตันในเส้นเลือด
วูบกลางฟิตเนส
สาเหตุของการ "วูบ"กลางฟิตเนสในครั้งนี้ ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคม
นพ.มีชัย อินวู้ด ผู้อำนวยการกองกีฬาเวชศาสตร์ การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเสียชีวิตระหว่างออกกำลังกายเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ทว่าเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ
"ตามหลักการแล้ว ถ้าออกกำลังกายทั่วไป เช่น วิ่งจ็อกกิ้งเหยาะๆตามสวนสาธารณะ ไม่ค่อยมีปัญหา แต่การออกกำลังกายอย่างจริงจังเพื่อฝึกซ้อมเข้าแข่งขัน หรือเพิ่มกล้ามเนื้อ มีโอกาสเสี่ยงสูงกว่า โดยปกติก่อนจะสมัครสมาชิกฟิตเนส จะมีการตรวจสุขภาพอย่างละเอียด ตั้งแต่อายุ ส่วนสูง น้ำหนัก วัตถุประสงค์ของการมาออกกำลังกาย เช่น อยากมีหุ่นดี เพิ่มมัดกล้าม เพื่อให้ปอดและหัวใจแข็งแรง รวมถึงตรวจหาโรคประจำตัว เนื่องจากอาจมีโรคแอบแฝงซึ่งไม่ปรากฏอาการในยามปกติ แต่อาจปรากฏในช่วงที่กำลังออกกำลังกาย เช่น โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคปอดและทางเดินหายใจ โรคทางสมองบางชนิด โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อไขข้อต่างๆ"
เล่นไม่เป็น-บ้าพลัง...เสี่ยงตาย
ณรงค์ฤทธิ์ ปิงวัง ที่ปรึกษาด้านการออกกำลังกาย เล่าถึงประสบการณ์น่าตกใจในฟิตเนสให้ฟังว่า เหตุการณ์ที่คนเล่นหักโหมจนหน้ามืดล้มศีรษะฟาดลู่วิ่ง หรือเหล็กยกน้ำหนักหล่นทับร่าง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
"ปัญหาส่วนใหญ่เกิดมาจากการไม่มีคนคอยให้คำแนะนำปรึกษาเรื่องการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี แม้แต่สอนเรื่องการใช้อุปกรณ์ต่างๆภายในฟิตเนส โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้น เหมือนเวลาเราลงเรือ ก็ต้องรู้จักเสื้อชูชีพ รู้จักวิธีการพาตัวเองให้ปลอดภัย บางคนมาถึงก็วิ่งๆๆ บางคนก็ยกๆๆ จู่ๆเกิดหน้ามืด ช็อกหมดสติ บางคนแรงหมดขณะกำลังยกอุปกรณ์จำพวกฟรีเวท เช่น ดัมเบลล์ บาร์เบลล์ เจอเหล็กหล่นทับจนได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากไม่มีคนดูแลอย่างใกล้ชิด"
กลุ่มเสี่ยงที่สุดในสายตาเทรนเนอร์ฟิตเนสคนนี้คือ พวกมือใหม่ ไร้ประสบการณ์ และพวกโชว์เก๋า บ้าพลัง
"พวกมือใหม่มักจะไม่มีความรู้เรื่องการออกกำลังกาย ไม่มีการยืดกล้ามเนื้อก่อนเล่น เล่นผิดท่า อีกพวกคือพวกที่กลับมาออกกำลังกายอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ออกกำลังมาเป็นเวลานาน คิดว่าตัวเองแน่ บ้าพลัง คิดว่าตัวเองแข็งแรง เป็นนักกีฬาเก่าแต่ไม่ได้เล่นนาน อีกอย่างการพักผ่อนน้อย ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำก็มีส่วนทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุขณะออกำลังกายได้เช่นกัน"
คำแนะนำถึงนักออกกำลังกาย
ณรงค์ฤทธิ์แนะนำฝากไปยังผู้ที่นิยมมาออกกำลังกายตามฟิตเนสก็คือ ควรตรวจสุขภาพอย่างละเอียดก่อนสมัครสมาชิกฟิตเนส ขอคำปรึกษาในการออกกำลังกายที่ถูกต้องจากผู้รู้ และอย่าหักโหม
"การตรวจสุขภาพอย่างละเอียดทำให้รู้ว่ามีโรคประจำตัวหรือไม่ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคหอบหืด ความดันโลหิต หรือโรคอื่นๆ เพื่อดูว่าต้องมีใบรับรองแพทย์เพื่ออนุญาตในการออกกำลังกายหรือเปล่า บางคนทดสอบไม่ผ่าน ก็ต้องมีการวางโปรแกรมออกกำลังกายที่เหมาะสม ที่สำคัญมือใหม่ควรฟังคำแนะนำของเทรนเนอร์ในเรื่องการออกกำลังกายเบื้องต้น เพื่อให้รู้ว่าศักยภาพตัวเองมีแค่ไหน หากไม่พร้อมก็ต้องยืดเวลาให้ผลลัพธ์ช้าไปก่อน ห้ามหักโหมโดยเด็ดขาด"
สอดคล้องกับความคิดเห็นของ นพ.มีชัย ที่บอกว่าคนที่เสียชีวิตขณะออกกำลังกายส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงที่ใช้เรี่ยวแรงอย่างหนักหน่วง หักโหม จนร่างกายปรับตัวไม่ทัน
เปรียบเทียบกับรถยนตร์ขนาด 1.2 ลิตร วิ่งในเมืองฉิว แต่ถ้าวิ่งทางไกลอาจเกิดโอเวอร์ฮีทได้
"ข้อควรระวังก็คือ หากมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อเป็นตะคริว เหงื่อออก ตัวเย็นผิดปกติ ให้หยุดทันที แล้วขอความช่วยเหลือจากครูฝึกหรือเพื่อนที่ออกกำลังด้วยกัน"
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย ให้ความเห็นว่า สถานประกอบการฟิตเนสทุกแห่งควรมีเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า (AED) ไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งสอนการใช้งานอย่างถูกวิธีให้พนักงาน ขณะเดียวกันต้องมีคู่มือเบื้องต้นในการวอร์มร่างกายให้แก่ผู้ที่มาออกกำลังกายด้วย
"นักกีฬาตายในสนามกันเยอะ ก็เพราะใช้กำลังกันอย่างไม่บันยะบันยัง การออกกำลังกายที่ดีควรมีการ warm up & cool down หมายถึงการอบอุ่นร่างกาย และการยืดกล้ามเนื้อ ก่อนออกกำลังกาย และหลังออกกำลังกายติดต่อกันเป็นเวลานาน ค่อยๆผ่อนให้ร่างกายเย็นลงช้าๆ ไม่ควรหยุดออกกำลังกายทันทีทันใด"
เล่นอย่างพอดี อย่าหักโหม โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว อาจช่วยลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขณะออกกำลังกายได้


