posttoday

ผู้นำศาสนาขอเป็นคนกลางเตือนสตินักการเมือง

14 เมษายน 2557

5ผู้นำศาสนา เสนอเป็นคนกลางเตือนสตินักการเมือง เตรียมจัดงานสวดภาวนาขจัดความขัดแย้งในประเทศ 18เม.ย.นี้

5ผู้นำศาสนา เสนอเป็นคนกลางเตือนสตินักการเมือง เตรียมจัดงานสวดภาวนาขจัดความขัดแย้งในประเทศ 18เม.ย.นี้

ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ประชาชนมีความเห็นแตกต่างกันมากขึ้น สะสมจนก่อให้เกิดเป็นความแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทำใหัประเทศชาติลุกเป็นไฟ ในสภาวะกาลเช่นนี้ผู้นำ 5ศาสนาในประเทศไทย จึงได้จัดกิจกรรมสวดภาวนาพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่18เม.ย.2557

ทั้งนี้ 5ผู้นำศาสนาที่เข้าร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้ประกอบด้วย พระพรหมเมธี กรรมการและโฆษกมหาเถรสมาคม ,อาจารย์ประสาน ศรีเจริญ รองประธานผู้ทรงคุณวุฒิของสำนักจุฬาราชมนตรี , มุขนายกยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ เลขาธิการสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ,ศจ.ดร.วีชัย โกแวร์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการสหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย ,พระมหารสชครูพิธศรีวิสุทธิคุณ ประธานศาสนาพราหมณ์-ฮินดูแห่งประเทศไทย และนายมานิต สัจจะมิตร นายกสมาคมศรีคุรุสิงห์สภา ศาสนาซิกข์แห่งประเทศไทย

พระพรหมเมธี กล่าวว่า การเมืองขณะนี้มีความวุ่นวายมากมาย ดังนั้นจึงพยายามทำให้ศาสนาขึ้นมานำการเมือง เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในสังคม เพราะคนไทยในแผ่นดินต้องทำหน้าที่ของตนให้ถูกต้อง ไม่เอารัดเอาเปรียบ ทำให้คุณค่าของความเป็นคนนั้นเท่าเทียมกัน ซึ่งประเทศชาติเหมือนเรือที่กำลังรั่ว เกิดจากคนในเรือทะเลาะกัน จึงต้องมาช่วยทำให้คนไม่ทะเลาะและมาช่วยกันซ่อม มนุษย์ทุกคนต้องการชัยชนะในเรื่องต่างๆ ซึ่งการชนะต้องชนะทั้งกายและใจถึงจะเรียกว่าชนะที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้น การรวมตัวของ 5ศาสนา จะทำให้เกิดการร่วมมือ เกิดความสามัคคี เพื่อทำให้เกิดสันติภาพในที่สุด

ด้านอัครมุขนายก เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช กล่าวว่า ผู้ศาสนาขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงความรุนแรง ขอให้หันหน้าเข้ามาเจรจากัน เรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่เราต้องทำให้เกิดการปฏิรูปประเทศเพื่อทำให้ทุกภาคส่วนมีความเสมอภาค ในด้านของคริสศาสนา สอนให้ทุกคนมีความรักต่อกัน เมื่อมีความรักต่อกันความรุรแรงก็จะไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ขอวิงวอนพระเจ้าให้โปรดอภัยในทุกคน และนำมาซึ่งความสุขของทุกคนในประเทศ

ขณะที่ ประสาน ศรีเจริญ กล่าวว่า ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ผู้นำศาสนามีความห่วงใยและพยายามนำหลักคำสอนของศาสนามาให้สติแก่ทุกคนทุกฝ่าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระราชดำรัสไว้ว่า " รู้ รัก สามัคคี " คำว่ารู้หมายถึงมิติของการใช้ปัญญา รู้สถานการณ์ รู้เหตุเการณ์ และจะแก้ปัญหาอย่างไร มีผลต่อสังคมประเทศชาติอย่างไร ดังนั้นทุกฝ่ายต้องใช้ปัญญาแก้ปัญหา ไม่ใช่การใช้อารมณ์ความแค้นมาสู้กัน ตอนนี้เหมือนคนอยู่ในกองไฟ จึงไม่ควรเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก

คำต่อมาคือ รัก หมายถึง ความเมตตาต่อกันโดยสุจริต ต้องประกอบด้วยรักด้วยจิต รักด้วยพฤติกรรม และ วาจาที่บริสุทธิ์ใจ เมื่อนำมารวมกันจะเป็นมิติของความบริสุทธิ์ และคำว่า สามัคคี หมายถึงความสมานฉันท์ การปรองดอง อภัยซึ่งกันและกัน ถ้าทำได้บ้านเมืองจะกลับมาเป็นสุข

ศ.วีรชัย โกแวร์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางการเมืองต้องการคนกลาง ซึ่งคนกลางที่ดีที่สุดคือนักศาสนา ผู้นำศาสนาแสวงหาประโยชน์ส่วนรวมไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตน ถ้าหากส่งเสียงนี้ให้ดังออกไปได้ก็จะทำให้ผู้นำทางการเมืองทุกฝ่ายได้สติรู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่ ดังนั้นจึงควรได้มีการเตือนดังๆไปให้คนเหล่านี้ เป็นการเตือนสติ คนโง่เท่านั้นที่จะปฏิเสธการเตือนสติของนักศาสนา จึงขอเสนอให้ผู้นำศาสนาไปเตือนนักการเมืองต่อหน้า เตือนตรงๆไม่ต้องตีความ หากเตือนแล้วไม่ฟัง ประชาชนก็จะรับรู้เองว่าควรจะติดตามคนเหล่านี้ต่อไปหรือไม่

สำหรับการเข้าร่วมสวดภาวนาของศาสนาต่างๆ พุทธศาสนนิกชน สามารถเข้าร่สมภาวนาจิตได้ที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ถนนมหาไชย เวลา19.00 น. ส่วนชาวมุสลิม สามารถเข้าร่วมละหมาดในทุกมัสยิด หรือที่มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย (มัสยิดกลาง) กรุงเทพฯ ถนนรามคำแหง เวลา12.15น. และชาวคาทอลิก สามารถเข้าร่วมพิธีกรรมนมัสการไม้กางเขนในโอกาสวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ ที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ ตรอกโอเรียลเต็ล บางรัก เวลา15.00น.

คริสชนนิกายโปรเตสแตนท์ พิธีมหาสนิทที่คริสตจักรร่มเย็น ถนนพัฒนาการ ซอย17เวลา19.00น. ศาสนิกชนพราหมณ์-ฮินดู สวดภาวนาได้ที่เทวสถานโบาถ์พราหมณ์ ถนนบ้านดินสอ และที่สมาคมฮินดูสมาช ถนนศิริพงษ์ เวลา19.00น. และ ศาสนิกชนซิกข์ ร่วมพิธีสวดภาวนาได้ที่ สมาคมศรีคุรุสิงห์สภา ถนนจักรเพชร เวลา10.00น.

ผู้นำศาสนาขอเป็นคนกลางเตือนสตินักการเมือง

 

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี