กบฏผีบุญยุคโลกาภิวัตน์
....สังคิต พิริยะรังสรรค์
ในสังคมเกษตรกรรม ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า
“กบฏผู้มีบุญ” หรือ “กบฏผีบุญ” เกิดขึ้นทั่วไปทั้งโลก ในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ช่วง 200 ปีเศษที่ผ่านมาได้เกิดกบฏผีบุญในภาคอีสานมาแล้วถึง 9 ครั้งสาเหตุของกบฏผีบุญส่วนใหญ่มาจากปัญหาความเดือดร้อนที่เหมือนโรคระบาดอยู่ทั่วไปของชาวบ้าน และที่สำคัญก็คือ ชาวบ้านมองความเดือดร้อนว่ามาจากการที่รัฐปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไม่เป็นธรรม เมื่อประจวบเหมาะกับสถานการณ์ที่มีบุคคลที่มีคุณลักษณะพิเศษเกิดขึ้นคือ มีความรู้ ความสามารถสูง มีบุคลิกภาพพิเศษเหนือกว่าบุคคลทั่วไปที่มักกล่าวอ้างตนเองว่าเป็นพระศรีอริยะ เมตตรัย
พร้อมทั้งประกาศว่าจะมาช่วยเหลือปลดปล่อยความทุกข์ยากให้แก่ชาวไร่ชาวนาด้วยแล้ว พลังแห่งความศรัทธาและเชื่อถือของชาวบ้านต่อผู้มีบุญก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นขบวนการติดอาวุธของประชาชนไปได้ในท้ายที่สุด
ในระหว่างปี พ.ศ. 24442445 หรือเมื่อประมาณ 100 ปีเศษมาแล้ว ได้เกิดกบฏผีบุญครั้งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน สาเหตุสำคัญประการหนึ่งมาจากการปฏิรูประบบราชการของรัชกาลที่ 5 ที่มีการรวมศูนย์อำนาจเข้าสู่ส่วนกลาง ทำให้รัฐบาลต้องใช้จ่ายเงินมากขึ้น
รัฐบาลในขณะนั้นมีนโยบายเก็บภาษีส่วยหรือ
“เงินข้าราชการ” จากชายฉกรรจ์ทุกคน (อายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไป) คนละ 4 บาทต่อปี ซึ่งคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันประมาณ 3,5004,000 บาท เงินจำนวนมากมายนี้สร้างความเดือดร้อนให้แก่คนอีสานโดยทั่วไป เพราะว่าวิถีชีวิตของพวกเขาส่วนใหญ่ในขณะนั้นยังไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับการใช้เงินตราเลย การหาปัจจัยสี่เพื่อดำรงชีวิตก็เป็นการออกแรงทำเองทั้งสิ้นความเดือดร้อนอย่างสาหัสสากรรจ์จากการที่ต้องดิ้นรนหาเงินมาให้หลวงถึงปีละ 4 บาทต่อคน ประจวบกับการเกิดภัยแล้งในมณฑลอีสานถึง 23 ปีติดต่อกัน คนจนก็แทบจะหาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ เมื่อมีองค์มั่นที่ประกาศตนว่าเป็น
“ท้าวธรรมิกราช” หรือผู้มีบุญที่จะมาปลดเปลื้องเภทภัยและความทุกข์ยากให้แก่ชาวบ้าน โดยมีอุดมการณ์ทางการเมืองว่าจะขับไล่รัฐไทยออกไป และจะจัดตั้งรัฐใหม่ขึ้นแทน ชาวบ้านจะมีชีวิตใหม่ที่ร่ำรวย มั่งคั่ง ดังข่าวลือที่สะพัดไปทั่วว่าเมื่อผู้มีบุญมาถึง “กรวดจะกลายเป็นทอง เงินทองจะหมดค่า”ชาวบ้านแทบทุกหมู่บ้านในแถบ จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และมุกดาหาร จึงพากันดีอกดีใจและพากันต้อนรับและเข้าร่วมขบวนการผีบุญในครั้งนั้นเป็นจำนวนมหาศาล
ขบวนการเสื้อแดงที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสัญลักษณ์และเป็นผู้นำสูงสุดมีคุณลักษณะพิเศษบางประการ ซึ่งในสายตาของชาวบ้านแล้วสามารถเรียกได้ว่าเป็น
“ผู้มีบุญ” อย่างแท้จริง คุณทักษิณมาจากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสูงมาก มีทรัพย์สินนับแสนล้านบาท และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี เขาทำให้คนอีสาน คนภาคเหนือ และคนจนทั่วไปถูกอกถูกใจมาแล้วจากนโยบายประชานิยมเมื่อมีการลุกขึ้นสู้ของคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ ชาวบ้านยิ่งชื่นอกชื่นใจมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ฟังคุณทักษิณประกาศว่า วันไหนที่กลับมามีอำนาจใหม่อีกครั้ง จะยกเลิกหนี้ให้แก่ชาวบ้านทั้งประเทศเลย ความฝันแบบนี้เองที่ดึงเอาชาวบ้านนับหมื่นนับแสนคนจากทั่วทุกภูมิภาคให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกบฏผีบุญยุคใหม่ โดยไม่สนใจกับพฤติกรรมการทุจริตจำนวนมโหฬารที่ผ่านมาของคุณทักษิณ และไม่สนใจว่าความฝันที่ถูกสร้างนั้นจะมีโอกาสเป็นจริงได้หรือไม่?
เพื่อบรรลุถึงซึ่งความฝันคือ การไปถึงซึ่งสังคมที่มีความเป็นธรรม กบฏผีบุญภาคอีสานได้นำพลพรรคหลายพันคนบุกเผาเมืองเขมราฐ ปล่อยนักโทษจากคุกและฆ่ากรมการเมืองที่ไม่ยอมเข้าร่วมกับฝ่ายกบฏ เช่นเดียวกันกับพลพรรคคนเสื้อแดงที่กำลังฮึกเหิม เพราะเชื่อมั่นในบุญบารมีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้ายึดศาลากลางของจังหวัดบางแห่ง บุกหน่วยทหาร จับกุมตำรวจ และทหารจำนวนหนึ่งเป็นตัวประกัน รวมทั้งได้สังหารตำรวจและทหารด้วยอาวุธสงครามด้วย
การปราบปรามพวกกบฏผีบุญในอดีตนั้น ไม่ใคร่มีความซับซ้อนนัก ในการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายกบฏกับกองทัพเมื่อวันที่ 4 เม.ย. พ.ศ. 2445 หรือเมื่อ 108 ปีที่แล้ว ที่ฝ่ายกบฏตั้งใจจะเข้ายึดเมืองอุบลราชธานี เอกสารของทางราชการระบุว่า กองทัพได้ใช้อาวุธสมัยใหม่สังหารฝ่ายกบฏ 200300 คน บาดเจ็บมากกว่า 500 คน และจับตัวเป็นเชลยได้ประมาณ 400 คน ซึ่งต่อมาศาลได้ตัดสินให้ประหารชีวิตบรรดาแกนนำ และจำคุกพวกก่อเหตุตั้งแต่หนึ่งปีถึงตลอดชีวิต
ข้อที่แตกต่างกันระหว่างกบฏผีบุญยุคเก่ากับยุคใหม่ก็คือ กบฏผีบุญยุคเก่าเป็นการต่อสู้ในชนบทจึงมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมน้อย แตกต่างจากกบฏผีบุญยุคใหม่ที่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเมืองเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท ผีบุญยุคใหม่เน้นการสื่อสารกับมวลชนด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่สำคัญก็คือ ใช้เงินจ้างคนจนจำนวนมากให้เข้าร่วมในการต่อสู้
ในสังคมโลกาภิวัตน์ การชุมนุมหรือการลุกขึ้นสู้ของมวลชน รัฐบาลไม่สามารถใช้มาตรการในการปราบปรามด้วยความรุนแรงได้อย่างง่ายๆ เหมือนในอดีต ทั้งนี้ เพราะหลักธรรมาภิบาลประการหนึ่งขององค์การสหประชาชาติคือ รัฐบาลต้องสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงกับประชาชน อย่างไรก็ตาม หลักการนี้น่าจะใช้ปฏิบัติกับการเคลื่อนไหวของประชาชนที่เป็นไปอย่างสันติและไม่ใช้ความรุนแรงหรือมีอาวุธสงครามในการชุมนุมเท่านั้น ในกรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ขณะนี้อาจไม่สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาลขององค์การสหประชาชาติ ดังนั้น รัฐบาลจึงมีความชอบธรรมที่จะดำเนินการด้วยมาตรการที่เหมาะสมเพื่อที่จะฟื้นฟูความสงบทางสังคมให้กลับคืนมาอีกวาระหนึ่ง
สิ่งสำคัญที่รัฐบาลควรคำนึงก็คือ ภายหลังเหตุการณ์การลุกขึ้นสู้ของคนเสื้อแดงผ่านพ้นไปแล้ว รัฐบาลจะทำอะไรต่อไป? ในกรณีของกบฏผีบุญยุคเก่าหลังจากที่รัฐบาลใช้เวลาปราบปรามพวกกบฏที่หนีตายออกไปอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆ นานถึง 2 เดือน เหตุการณ์จึงสงบลง ผู้นำสูงสุดคือองค์มั่นสามารถหลบหนีการจับกุมไปได้ แต่ไม่เคยหวนกลับมาก่อกวนรัฐบาลอีกเลย
ส่วนรัฐบาลได้เริ่มต้นนโยบายปฏิรูปการศึกษา การพัฒนาการเกษตร และการสร้างตำรวจภูธรขึ้นที่อีสานเป็นแห่งแรก พูดง่ายๆ ก็คือ รัฐบาลรุกทางการเมืองโดยใช้นโยบายปฏิรูปสังคม เศรษฐกิจ และความมั่นคงควบคู่กันไปเพื่อดึงเอาประชาชนกลับคืนมา
สำหรับการเอาชนะกบฏผีบุญยุคใหม่ รัฐบาลควรขจัดเงื่อนไขต่างๆ ที่ไปสร้างความไม่เป็นธรรมทางด้านเศรษฐกิจและสังคมให้แก่คนระดับล่าง โดยการลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน
นโยบายที่รัฐบาลควรดำเนินการทันทีคือ การบริหารจัดการน้ำเพื่อการผลิตให้แก่ประชาชนในชนบททั้งประเทศ นโยบายประกันราคาพืชผลซึ่งรัฐบาลทำได้ดีอยู่แล้ว การปรับปรุงโครงสร้างภาคการส่งออกสินค้าเกษตรไม่ให้มีการผูกขาด แต่ให้มีการแข่งขันเกิดขึ้นจริง การออก พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง นโยบายสร้างความเท่าเทียมทางคุณภาพด้านการศึกษา
ที่สำคัญที่สุดก็คือการปฏิรูประบบตำรวจ เพื่อทำลายระบบการซื้อขายตำแหน่งและนโยบายการควบคุมการทุจริตให้มีประสิทธิภาพ m


