ยาทำแท้ง

ปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรถูกหยิบยกขึ้นมาพูดในหลากหลายเวที มีข้อเสนอแนะเพื่อล้อมคอกปัญหามากมาย ล่าสุด คณะกรรมการพัฒนาอนามัยเจริญพันธุ์แห่งชาติเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาการท้องไม่พร้อมของวัยรุ่น ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการพัฒนากฎระเบียบตลอดจนทำการทบทวนศึกษาอุปสรรคในการเข้าถึงการคุมกำเนิด

สำหรับยาทำแท้งหรือมิฟีพริสโตน ทางการแพทย์ใช้เป็นยาหยุด หรือยุติการตั้งครรภ์โดยบริโภค เป็นยาเม็ดใช้รับประทาน ซึ่งจะได้ผลต่อเมื่ออายุครรภ์อยู่ในระยะแรกคือไม่เกิน 49 วัน นับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย

ยามิฟีพริสโตนมีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง อาทิ เลือดออกมากบริเวณช่องคลอดและมดลูก เกิดภาวะติดเชื้อในมดลูก ทำให้ผู้ได้รับยารู้สึกอ่อนเพลียและไม่มีกำลัง ปวดหลัง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ ซึมและวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ วิตกกังวล และเกิดภาวะหดเกร็งของระบบทางเดินอาหาร

ข้อมูลสำรวจโรงพยาบาล 101 แห่ง ใน 13 จังหวัด เพื่อเฝ้าระวังการแท้งเมื่อปี 2554 โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่า 1 ใน 3 เป็นผู้ป่วยทำแท้ง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 15-19 ปีมากที่สุดถึง 28% เป็นการตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจ 71.5% และไม่ได้คุมกำเนิดถึง 53.1%

อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยมากถึง 20% ทำแท้งด้วยตัวเอง และเกือบ 20% ทำแท้งโดยผู้ที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์หรือไม่ทราบว่าผู้ทำแท้งคือใคร