"ไอ้ทวี" who are you?

โดย...ธนก บังผล

คับแค้นแน่นอก "สารวัตรเฉลิม" ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ถูกปรับโยกไปเป็นรมว.แรงงาน จนฟิวส์ขาดหลุดปากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ตอนหนึ่งว่า

"ไอ้ทวีจะไม่ให้เกียรติผมก็ได้ แต่ต้องให้เกียรติคณะทำงานด้วย แต่หากคุณไม่พอใจผม ก็ไปวิ่งเต้นโยกย้ายผมเลย สุดท้ายไอ้ทวี มันก็ทำได้ มันเอาความเท็จไปฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี)และยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร นายกรัฐมนตรี)จนเป็นที่มาของการปรับ ครม.ให้ผมออกจากเก้าอี้ แล้วเอา พล.ต.อ.ประชา มาแทน เพราะไอ้ทวี เป็นคนไปฟ้องว่า ไอ้เฉลิม เป็นคนตั้งบ่อน ตำรวจก็ไม่พอใจ นักข่าวที่สนิทกันก็มาถาม ผมก็ไม่แก้ตัว"

นั่นหมายถึง สาเหตุการถูกปรับจากรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงคราวนี้

“ไอ้ทวี”ที่สารวัตรเฉลิมเชื่อหมดใจว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการย้ายเขาในครั้งนี้ เป็นใคร ไฉนมีอิทธิพลสูงส่ง ถึงขนาด ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ เชื่อใจ สั่งย้าย ร.ต.อ.เฉลิม ครั้งนี้

สำรวจตรวจสอบแล้ว คนที่ “ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ”ฟังและไว้ใจ ตามที่”เฉลิม”พุ่งเป้า คงไม่พ้น คนชื่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)

เส้นทางของ พ.ต.อ.ทวี จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 37 (นรต.37) เติบโตสร้างชื่อมาจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จนเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้กำกับการ 2 บก.ป.หรือผู้กำกับประเทศไทยในสมัยนั้นผลงานสำคัญ คดีวัดธรรมกาย

นอกจากนั้น พ.ต.อ.ทวี เคยสร้างทีมสวนคลี่คลายคดีสำคัญ เช่น คดีแก๊งล็อคหวย ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือกองสลาก เมื่อปี 2544 ซึ่งนำมาสู่การพิพากษาลงโทษจำคุกผู้กระทำผิดในเครือกลม บางกรวย ซึ่งขณะนั้น พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็นผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) โดยมี พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการกองสลากด้วย พ.ต.อ.ทวี ยังเป็นทีมสืบสวนที่มี พ.ต.ท.ชัดชัย เลี่ยมสงวน ซึ่งเคยตกเป็นจำเลยคดีอุ้มทนายสมชาย นีละไพจิตร ร่วมอยู่ด้วย

ว่ากันว่าผลงานเข้าตา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอนนั้นเป็นอย่างมาก จนชักชวนให้ลาออกจากข้าราชการตำรวจ มาเป็นรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม (ยธ.)
โดยเขายังได้เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีสำคัญหลายคดี อาทิ คดีเช่าตึกทีพีไอทาวเวอร์ คดีปั่นหุ้นปิคนิค คดีทุจริตขายสินทรัพย์ขององค์กรเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.)

หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกปฏิวัติยึดอำนาจ พ.ต.อ.ทวี ถูกย้ายไปเป็นรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.

แต่หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ พี่ชายของ พล.ต.อ.สมบัติ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรมว.ยธ. นายสมพงษ์ ได้ดึง พ.ต.อ.ทวี กลับห้วยมารักษาการอธิบดีดีเอสไอ เมื่อปี 2551

พ.ต.อ.ทวี ได้รับแต่งตั้งเป็นอธิบดีดีเอสไอ ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 2551 - 29 ก.ย. 2552 ซึ่งระหว่างที่คุมดีเอสไอ อยู่นั้น เขาถูกมองว่า คอยช่วยเรื่องคดีความต่างๆ ที่อยู่ในมือของดีเอสไอ ซึ่งโยงใยถึงพ.ต.ท.ทักษิณ เช่น คดีหุ้นเอสซีเอสเสท คดีฆ่าตัดตอนในช่วงสงครามยาเสพติด ฯลฯ

แต่สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ก็มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.ทวี ลงวันที่ 29 ก.ย. 2552 ให้ไปดำรงเป็นรองปลัดยธ. และแต่งตั้ง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นอธิบดีดีเอสไอแทน

ก่อนที่ พ.ต.อ.ทวี จะถูกโยกไปเป็นเลขา ศอ.บต. ในรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งแต่วันที่11 ต.ค. 2554 จนถึงปัจจุบัน

ที่สำคัญเพื่อรร่วมรุ่นนรต.37 ก็พากันเข้ายึดครองตำแหน่งสำคัญในกระทรวงยุติธรรม อาทิ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดยธ. พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย อดีตนายเวรพล.ต.อ.สมบัติ ก็เป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และพ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธฺบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ

หากพูดถึงความสนิทส่วนตัวระหว่าง พ.ต.อ.ทวี กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือได้ว่ารู้มือกันมานับ 10 ปีแล้ว

และอาจเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกได้ว่าข้าราชการประจำมีพลังย้ายนักการเมืองได้