"สั้นเสมอหู"สร้างชื่อไทยแลนด์

โดย...ทีมข่าวในประเทศ

งานนี้ถึงขั้น “จุกอก” สำหรับสาวสั้นเสมอหู ใบเตย อาร์สยาม ภายหลังถูกผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงวัฒนธรรมรุมสวด

“แต่งกายไม่เหมาะสม ใช้เรือนร่างสร้างจุดขาย ทำให้ภาพลักษณ์วงการลูกทุ่งเสื่อมเสีย” คือความผิดฉกรรจ์ที่แน่นอยู่ในอกของเธอในเวลานี้

“ทุกอย่างที่เราทำก็เพราะโปรดักชัน ส่วนตัวไม่มีส่วนร่วมในการคิดคอนเซปต์ค่ะ” สุธีวัน ทวีสิน นักร้องสาวรายนี้เปิดใจ

ใบเตย บอกว่า ไม่อยากให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมมองว่ากำลังใช้ท่าเต้นแลกกับความดัง แต่อยากให้มองว่าเป็นงานที่ทันสมัยมากขึ้น สิ่งที่ทำไม่ใช่ว่าตั้งใจจะทำลายวงการลูกทุ่ง หรือว่าทำให้มันเสื่อมเสีย แต่มันเป็นเพลง ด้วยคอนเซปต์ที่เป็นแบบนี้ ต้องเต้นแบบนี้

“อยากจะขอโทษกรมส่งเสริมวัฒนธรรมที่ภาพหรือผลงานที่ออกไปทำให้เขาไม่พอใจ แต่ว่าเราไม่ได้เจตนา แล้วก็ไม่มีใครเจตนาหรือตั้งใจทำให้มันออกมาอย่างนั้น มันเป็นคอนเซปต์ที่ทีมงานคิด” เธอยืนยันเจตนา

ใบเตย กล่าวว่า สิ่งที่ทำทุกวันนี้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ทำให้ชาวต่างชาติรู้จักลูกทุ่งไทย ถือเป็นการส่งเสริมความทันสมัยทางดนตรีแบบก้าวล้ำ

“พอเห็นอะไรก็นึกว่าเป็นใบเตยทุกอย่าง เรื่องนุ่งสั้น หรือว่าเรื่องท่าเต้น อันที่จริงแล้วก็ไม่ใช่แค่ลูกทุ่งหรือแค่เราที่โป๊เปลือย คนอื่นก็เป็น ไม่เห็นไปว่าเขาเลย ก็อยากให้ไปโฟกัสที่คนอื่นบ้าง ไม่ใช่อะไรก็ใบเตยๆ” ลูกทุ่งสาวเปลือยความรู้สึก และยืนยันว่า วันนี้ได้ใช้ผลงานพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ทำให้วัฒนธรรมเสื่อมเสีย

“ตอนนี้ค่ายก็ไม่ได้ว่าอะไร เรื่องสั้นเสมอหูก็คงยังไม่เปลี่ยนค่ะ” เธอยังชัดเจนเสมอต้นเสมอปลาย

อย่างไรก็ดี มีความเห็นจาก คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ อดีต รมว.วัฒนธรรม ที่วิพากษ์ว่า ต้องยอมรับว่าปัจจุบันสื่อทีวี อินเทอร์เน็ต เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บทบาทการแสดงออกของศิลปิน ดารา นักร้อง เปลี่ยนไป สังเกตได้จากการแต่งตัว ที่สมัยใหม่ นิยมนุ่งสั้นโชว์หน้าอกเพื่อเป็นจุดขายของตัวเองและเพื่อการค้า

“เมื่อสื่อยิ่งนำเสนอเผยแพร่ คนเหล่านี้ก็ยิ่งได้รับการยอมรับมากขึ้น เช่นเดียวกับกรณีใบเตย อาร์สยาม ที่มีภาพลักษณ์เป็นผู้หญิงเซ็กซี่ สร้างเอกลักษณ์ให้ตัวเองแตกต่างจากนักร้องลูกทุ่งคนอื่นๆ จนเป็นที่ฮือฮาของสังคม ที่สำคัญสามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับบริษัทต้นสังกัดได้อย่างมหาศาล” อดีต รมว.วัฒนธรรม ระบุ

คุณหญิงไขศรี แสดงความคิดเห็นอีกว่า ขณะนี้สังคมไทยอ่อนแอมากจนไม่สามารถควบคุมอะไรได้แล้ว ต้องตั้งคำถามให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ปัญหาว่า ทำอย่างไรถึงจะสร้างสำนึกให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าของบริษัทที่ผลิตตัวศิลปินมาเพื่อการค้าก็ควรให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม

ดำรงค์ ทองสม รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ผู้เปิดหน้าวิจารณ์ใบเตยจนเกิดกระแสข่าว อธิบายความตั้งใจที่แท้จริงว่า เพียงแต่อยากท้วงติงให้รู้ว่าการแต่งกายหรืออากัปกิริยาการแสดงที่ออกมาน่าจะเหมาะสมกับสังคมวัฒนธรรมไทย เตือนให้รู้ว่าควรสั้นพอประมาณ

ล่าสุด ศุภชัย นิลวรรณ ผู้บริหารค่ายเพลงอาร์สยาม ต้นสังกัดของใบเตย ชี้แจงว่า อาร์สยามผลิตเพลงทุกแนว ลูกทุ่งป๊อปอย่างใบเตยถือเป็นหนึ่งในนั้น

“เราใช้บุคลิกของศิลปินแต่ละคนเป็นองค์ประกอบในการสร้างสรรค์ผลงานเพลง แต่ไม่ได้หมายความว่านักร้องทั้งค่ายจะมานุ่งน้อยห่มน้อยหากินจนเป็นสูตรสำเร็จ” ศุภชัย ยืนยัน

สำหรับมิวสิกวิดีโอ “เพลงแน่นอก” ที่เผยแพร่ผ่านยูทูบ มีผู้เยี่ยมชมแล้วมากกว่า 36 ล้านครั้ง และมีทั้งชาวไทยและต่างชาตินำไปคัฟเวอร์กันอย่างแพร่หลาย ขณะที่สาวใบเตยเตรียมให้สัมภาษณ์เปิดใจในวันที่ 20 มิ.ย.นี้