posttoday

เมื่อพระอาจารย์จิ๋ว (พระครูพุทธบาล) อายุ 60 ปี

28 มีนาคม 2553

...สมาน สุดโต

วันที่ 1 มี.ค. 2553 วัดป่าพุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร อินเดีย ตั้งอยู่ห่างพระมหาเจดีย์พุทธคยา และต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทางด้านหลังประมาณ 300 เมตร คับคั่งด้วยพระสงฆ์นับสิบ พระลามะทิเบตนับพัน และพุทธศาสนิกชนชาวไทยและอินเดียไม่ต่ำกว่าร้อยท่าน ที่ไปรวมตัวกันบำเพ็ญกุศลวันครบรอบ 60 ปีพระอาจารย์จิ๋ว หลวงพ่อจิ๋ว ที่มีสมณศักดิ์พระครูพุทธบาล

พระเถระที่เป็นประธานในพิธีได้แก่ พระธรรมกิตติเมธี กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะเลขานุการผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช พระเทพโพธิวิเทศ หัวหน้าพระธรรมทูตสายอินเดีย และเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา ส่วนศิษย์ฆราวาสที่เป็นประธานได้แก่ พายัพ ชินวัตร และครอบครัว

พระธรรมกิตติเมธีสัมโมทนียกถา

เมื่อพิธีสงฆ์ผ่านไปเรียบร้อย พระธรรมกิตติเมธีได้กล่าวสัมโมทนียกถา ความว่าการจัดงานอายุวัฒนมงคลแล้วมีพระสงฆ์จำนวนมากมาร่วมในพิธีในประเทศที่ไม่ใช่ประเทศไทยนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา แต่พระอาจารย์จิ๋วทำได้ ท่านชื่อจิ๋ว แต่แจ๋วจริงๆ พร้อมกันนั้นท่านเฉลยคำว่าอายุวัฒนมงคลที่พระสงฆ์มักใช้เสมอในงานทำบุญวันเกิดว่า คำนี้เป็นคำพระใช้ในการทำบุญอายุครบรอบต่างๆ ที่เราหายใจปีละ 39 ล้าน 4 แสน 2 หมื่นครั้ง เมื่ออาจารย์จิ๋วอายุ 60 ปี หากนับวันก็ได้ 21,900 วัน อยู่ได้ขนาดนี้เป็นกุศลยิ่งใหญ่ ท่านทำงานอย่างหนัก ผ่านอุปสรรคข้อขัดข้องตลอดถึงเหตุเภทภัยต่างๆ อยู่รอดปลอดภัยมาได้จนถึงอายุ 60 ปี เป็นบุญเฉพาะตัว เป็นบุญที่ญาติโยมทุกท่านอุปถัมภ์ค้ำจุน สนับสนุนกิจการทั้งปวง

ท่านพูดถึงความรู้สึกส่วนตัวที่มีต่ออาจารย์จิ๋วโดยยกย่องว่า ท่านเป็นปางหนึ่งของวิษณุกรรมเทพบุตร คือสร้าง (วัด) ทั่วไป ทั้งในสหรัฐอเมริกา ประเทศไทย และที่ประเทศอินเดีย สร้างแล้วก็ไม่ได้คิดว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นของท่าน แต่สร้างแล้วเป็นสมบัติของแผ่นดิน ทำเพื่อบูชาแผ่นดิน บูชาพระแม่ธรณีว่าเราได้เกิดมาบนแผ่นดินนี้ จะดีหรือไม่ดีอย่างไรก็ถือว่าชีวิตยืนอยู่บนแผ่นดินได้นับว่าดีมาก เพราะคนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยรู้จักคุณของแผ่นดิน

การรู้จักคุณแผ่นดินเช่นแผ่นดินแม่ แผ่นดินพ่อนั้นเป็นสิ่งน่าสรรเสริญ แผ่นดินแม่คือแม่เป็นผู้อุ้มท้องเรามา เมื่อถึงวันเกิด ไม่ใช่วันสำคัญอะไรของเรา แต่เป็นวันที่ทำบุญรำลึกถึงโยมมารดา ที่ท่านให้ชีวิต และป้องกันเหตุเภทภัยทุกอย่างเพื่อลูกน้อยเป็นปุพเพกตปุญญตา หากไม่มีบุญนี้ก็เชื่อว่าท่านอาจารย์จิ๋วคงไม่ได้เดินทางมาสร้างวัดไทยในแดนพุทธภูมิ หรือที่เรียกว่าพุทธคยา ประเทศอินเดีย

ตลอดเวลาที่ท่านสร้างวัดนั้นมีมารผจญในรูปแบบต่างๆ ทั้งพญามาร และอาสวะกิเลสต่างๆ ท่านอาศัยบุญแม่พ่อ และการต่อสู้จึงผ่านมาได้

ความจริงแล้วคนทุกคนมีชีวิต มีลมหายใจมาถึงทุกวันนี้เพราะมีผู้สร้างคือพ่อแม่ เป็นผู้สร้างคนแรกในชีวิต แม่อุ้มท้องมา 9 เดือนกว่า ทะนุถนอมสร้างให้เราเกิดเป็นคน เลี้ยงดูให้เติบใหญ่มีบุญยิ่งใหญ่ที่ลูกชายได้มาบวชสืบอายุพระพุทธศาสนา สร้างกุศลผลบุญ เป็นผู้นำบุญชักชวนญาติโยมให้บำเพ็ญบุญกุศลในถิ่นต่างๆ เป็นบุญเฉพาะตนบ้าง ส่วนรวมบ้าง เชื่อแน่ว่าญาติโยมและพลังศรัทธาทั้งหลายได้ร่วมกิจการกับท่านอาจารย์จิ๋วคงดีใจว่าอาจารย์ของเรามีอายุถึง 60 ปี

ต่อไปนี้บางท่านที่เคยเรียกว่าอาจารย์ อาจเรียกหลวงตาก็ได้ เพราะ 60 ปีนั้นถือว่าแก่แล้ว แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงตัวเลขหลอกๆ เมื่อทุกท่านเห็นอาจารย์จิ๋วแข็งแรง เราก็อยากแข็งแรงเหมือนอาจารย์จิ๋ว ทำไมอาจารย์จิ๋วทำงานมากแล้วยังแข็งแรง ที่เป็นดังนี้เพราะท่านรู้จักวิธีสร้างสภาพจิตของท่านให้ผ่องใส เมื่อพบสิ่งไม่ดีในชีวิตจริง มลทินโทษทางจิตใจก็ทิ้งไป ขอให้ญาติโยมทำอย่างอาจารย์จิ๋ว สลัดทิ้งสิ่งไม่ดีในจิตใจออกไปชีวิตจะดูหนุ่มกว่าวัย

พายัพอนุโมทนา

พายัพ ชินวัตร ซึ่งเป็นศิษย์และเคารพในพระอาจารย์จิ๋วมาเป็นเวลานาน ได้กล่าวอนุโมทนาในเวลาต่อมาว่า วันนี้เป็นวันครบ 60 ปีท่านอาจารย์ โดยแสดงความรู้สึกแบบประหลาดใจพร้อมกับคำพูดว่า ผมติดตามท่านอาจารย์มาถึง 30 แล้วหรือนี่ พร้อมกับกล่าวต่อว่า 30 ปีจากชีวิตที่ไม่รู้จักอะไรเลย รู้แต่ว่าความร่ำรวย รู้แต่ว่าการได้ชัยชนะคือความยิ่งใหญ่ แต่ท่านอาจารย์สอนให้รู้จักการให้ รู้จักการเสียสละ การเต็มใจที่จะให้จนกระทั่งมารักษาศีล ซึ่งเป็นความปกติของร่างกายและของจิต เพื่อไม่ให้อารมณ์จิตส่ายไปมากเกินไป ไม่ทุกข์เกินไป ไม่สุขเกินไป จนกระทั่งภาวนาเพื่อเกิดความตั้งใจ เกิดความชัดเจน เกิดการเข้าใจแล้วก็วาง ถึงบัดนี้ 30 ปีแล้วหรือนี่

30 ปีที่ผมรู้จักกับท่าน แล้วก็ปฏิบัติตามท่านมาตลอดยังห่างไกลกับความสำเร็จ ยังห่างไกลกับความหลุดพ้นมากนัก เวลาผ่านไปไวเหลือเกิน

ขอฝากญาติโยมทุกท่านว่าชีวิตและเวลาเป็นของมีค่าอย่าปล่อยให้เลยไป ผ่านไปแล้วจะเสียใจดังที่ผมเคยมีประสบการณ์

ท่านอาจารย์สอนผม เมื่อก่อนผมเชื่อ ต่อมาก็เคารพ วันนี้คำที่ท่านสอนเป็นความศรัทธา ตัวผมเองขอปวารณาตัว เนื่องจากวันนี้เป็นวันครบรอบ 60 ปีของท่านอาจารย์ที่ผมเคารพ จึงขอปวารณาตัวว่าจะเต็มใจและเต็มที่และสุดกำลังใจในการที่จะเป็นลูกศิษย์ของท่าน ในการที่จะเดินไปกับท่าน เพื่อสืบศาสนา

ผมอยากสืบศาสนากับท่าน ทิ้งมรดกคุณงามความดีไว้ ทิ้งหลักธรรม ทิ้งวัตถุเพื่อสืบต่อพระศาสนาให้คนรุ่นหลังได้เข้าใจ เพราะหลักธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งประเสริฐ เป็นสิ่งสามารถออกจากทุกข์ได้

ความจริงแล้วธรรมของพระพุทธเจ้าก็อยู่เป็นปกตินั่นแหละ มีโลภ มีโกรธ มีหลง ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง มีทุกข์ และมีสุข เป็นธรรมดา ให้อยู่กับเขานั่นแหละ อยู่กันอย่างภาคภูมิใจ แต่จิตไม่หวั่นไหว ไม่ยึดในทุกข์ ไม่ยึดในสุข จิตเดินเข้าหาความเป็นธรรมดา เราเดินมาได้เยอะแล้ว ผมพร้อมจะเป็นลูกศิษย์ที่จะรับใช้ท่าน ขอให้พุทธคยาแห่งนี้ ขอให้ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แห่งนี้ พรต่างๆ ขอให้ท่านมีแต่ความสุข ความเจริญ ปรารถนาสิ่งใดขอให้ได้สิ่งที่ท่านปรารถนา ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง วันเกิดของท่านพวกเราทุกคนพร้อมและตั้งใจว่า นับแต่นี้ต่อไปจะปฏิบัติธรรม จะนำธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า และของอาจารย์ มาปฏิบัติ และดำเนินชีวิตต่อไป

วัดใหญ่อันดับต้นๆ ในอินเดีย

หลวงพ่อจิ๋ว หรือพระอาจารย์พนมศักดิ์ พุทธญาโณ ประธานสมาคมพุทธไทยภารตะ เปิดเผยว่า วัดป่าพุทธคยา เริ่มสร้างวัดป่าพุทธคยาเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2537 เริ่มต้นด้วยการตั้งเป็นสมาคมพุทธไทยภารตะ เพื่อซื้อที่ดิน แต่เมื่อซื้อมาแล้วมีปัญหาตามมามากมาย เช่น เจ้าของที่ไม่ยอมโอนที่ดินให้ทั้งๆ ที่รับเงินไปแล้ว ต้องต่อสู้ฟ้องร้องกันนานจึงได้สิทธิ เท่านั้นยังไม่พอ องค์การยูเนสโกยังฟ้องคัดค้านการสร้างวัด อ้างว่าอยู่ใกล้พระมหาเจดีย์พุทธคยา ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ขณะนี้เรื่องยังไม่ยุติ แต่ถึงกระนั้นท่านได้เดินหน้าสร้างทุกสิ่งทุกอย่างในวัดอย่างต่อเนื่อง เช่น พระอุโบสถศิลปะผสมไทยล้านนา และอีสาน ก็เรียบร้อยเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ คอยการตกแต่งภายในเท่านั้น

ส่วนศาลาและที่พักสงฆ์และผู้แสวงบุญชาวพุทธที่ตั้งชื่อว่าพุทธญาโณ ที่สามารถรองรับได้ประมาณ 1,000 คน กำลังใกล้เสร็จสมบูรณ์ เพราะการก่อสร้างเดินหน้าไปไม่เคยหยุด ในขณะที่กุฏิที่พักพระสงฆ์ผู้ใหญ่ และเป็นที่บำเพ็ญสมถะกรรมฐานเสร็จตามโครงการ ไม่ต้องกล่าวถึงศาลาพายัพ พอใจ ชินวัตร ที่เป็นอาคาร 3 ชั้นนั้น สร้างเสร็จมานาน

10 กว่าปีที่ดำเนินจัดสร้างวัดบนเนื้อที่ 10 กว่าไร่ จนกลายเป็นวัดไทยที่ใหญ่ในอันดับต้นๆ ของอินเดียในขณะนี้ แม้ว่าจะต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ มากมาย ก็ไม่ท้อ ที่ทำใหญ่วันนี้ แต่อีก 10 ปีข้างหน้าจะแคบมากก็ได้ เมื่อโลกมันเปิด พุทธบริษัทจะหลั่งไหลมาที่นี่เยอะมาก แต่ถ้าเราไม่เตรียมการเพื่อ 10 ปีข้างหน้า จะไม่ทัน ก็เลยทำทีเดียว หากได้ที่กว้างกว่านี้ ก็จะทำใหญ่กว่านี้ เชื่อว่าตนเองยังจะพอทำได้

เชื่อว่าวัดนี้เป็นที่ภาคภูมิใจของชาวไทยพุทธอีกแห่งหนึ่งในดินแดนพุทธภูมิ

อนึ่ง วันที่ 17 เม.ย. 2553 นี้ หลวงพ่อจิ๋ว จะจัดงานพระราชทานเพลิงศพโยมมารดาของท่าน ที่วัดพุทธบูชา ต.หินลาด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โดยวันที่ 4 เม.ย. 2553 เป็นวันพระราชทานเพลิงศพ

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เชลซี พบ เอฟเวอร์ตัน พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68