สตาร์บัคส์แสลงสตาร์บัง

หลังจากภาพร้านกาแฟ “สตาร์บัง” ซึ่งมีชื่อร้านพ้องและตราโลโก้คล้ายกาแฟชื่อดังสตาร์บัคส์ โดนส่งต่อกันจนว่อนเน็ตแบบขำๆ

พิษของโซเชียลมีเดียก็สำแดงเดช โดยช่วงบ่ายวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมาร้านมอเตอร์ไซค์เร่ขายกาแฟ สตาร์บัง ที่จอดขายอยู่ในซอกหลืบของกรุงเทพฯ ย่านบางลำพู ก็โดนหนังสือแจ้งขอให้เปลี่ยนโลโก้ที่หน้าร้าน จากสำนักงานกฎหมายชื่อดังทางด้านละเมิดลิขสิทธิ์

ปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า ผู้ประกอบการร้านสตาร์บัคส์ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ยื่นจดคุ้มครองเครื่องหมายการค้าไว้กับกรม ดังนั้นกรณีที่มีผู้ประกอบการรายอื่นลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าและชื่อแบรนด์ให้คล้องจองก็ถือว่าเป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเครื่องหมายการค้าของสตาร์บัคส์

ดังนั้น จึงเป็นสิทธิที่สตาร์บัคส์จะยื่นคัดค้านให้ผู้ประกอบการร้านกาแฟ สตาร์บัง เปลี่ยนชื่อพร้อมเครื่องหมายการค้า เนื่องจากกรณีดังกล่าวถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า มาตรา 109 ถือว่าจงใจลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าจนทำให้สาธารณชนสับสน จะมีความผิดโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 2 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ

นางสุมนพินทุ์ โชติกะพุกกณะผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) กล่าวว่า กรณีร้านกาแฟดังกล่าว ถูกยื่นจดหมายเตือนจากตัวแทนฝ่ายกฎหมาย ที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทแม่ที่สหรัฐ เป็นการดำเนินการเพื่อปกป้องเครื่องหมายการค้าปกติ ไม่ได้มุ่งหมายที่จะดำเนินการมากกว่านั้น

ด้านนายดำรง มัสแหละ เจ้าของร้านมอเตอร์ไซค์เร่ขายเครื่องดื่มเช่น กาแฟ ชาชัก “สตาร์บัง” ซึ่งส่วนใหญ่จอดขายย่านถนนพระอาทิตย์ กรุงเทพฯ กล่าวผ่าน ASTV ผู้จัดการออนไลน์ว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา มีชายสองคนนำเอกสารมาให้ เมื่อแกะออกปรากฏว่าเป็นหนังสือจากสำนักทนายความติลลิกิแอนด์กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล แจ้งว่า ร้านสตาร์บังได้ละเมิดเครื่องหมายทางการค้าของสตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชั่น เจ้าของร้านสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ และแจ้งให้เปลี่ยนเครื่องหมายการค้า

“โลโก้สตาร์บังดังกล่าว มีลูกค้าคนหนึ่งเป็นคนช่วยออกแบบให้ ใช้มา 4-5 เดือนแล้ว ซึ่งโลโก้นี้เป็นที่สนใจต่อผู้ที่สัญจรผ่านไปมาย่านถนนพระอาทิตย์ รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ จนมีการถ่ายภาพร้านรถเข็นของตนไปเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ เพราะเห็นว่าร้านกาแฟมีความแปลกทั้งชื่อและป้ายร้าน กระทั่งเป็นที่บอกต่อในสังคมออนไลน์ และมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการสม่ำเสมอ แต่ภาพที่ปรากฏในโซเชียลเน็ตเวิร์กไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนแต่อย่างใด เพราะใช้อินเทอร์เน็ตไม่เป็น มีเพียงแค่ลูกค้าเล่าให้ฟังว่า ภาพของตนปรากฏในเฟซบุ๊ก” นายดำรง เล่าที่มาที่ไป

เจ้าของร้านสตาร์บัง กล่าวหลังชีวิตโดนยื่นหนังสือโนติสว่า พร้อมที่จะยินยอมปฏิบัติตามที่ร้องขอ โดยในเบื้องต้นจะเปลี่ยนโลโก้ใหม่ใน 2-3 วัน ก่อนที่จะประสานงานกับทางสำนักทนายความบริษัท ติลลิกิแอนด์กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อแจ้งให้ทราบตามขั้นตอนต่อไป

สำหรับหนังสือดังกล่าวระบุเรื่อง การละเมิดเครื่องหมายการค้าของสตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชั่น ลงวันที่17 ต.ค. โดยมี สืบศิริ ทวีผล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ติลลิกิแอนด์กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล โดยระบุว่า ทางบริษัทเป็นผู้รับมอบอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายในประเทศไทยของสตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชั่น และเป็นเจ้าของทะเบียนเครื่องหมายการค้า “Starbucks Coffee และรูปวงกลมสีเขียวซ้อนกัน” โดยเมื่อไม่นานมานี้ได้ทราบมาว่าเป็นเจ้าของมอเตอร์ไซค์ขายกาแฟชื่อ สตาร์บัง คอฟฟี่ ซึ่งขายกาแฟและเครื่องดื่มอื่นๆ ในกรุงเทพฯ ซึ่งโลโก้และรูปวงกลมสีเขียวซ้อนกันเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีลักษณะคล้ายกับเครื่องหมายการค้าอันมีชื่อเสียงของลูกความ ซึ่งถือเป็นการละเมิดเครื่องหมายทางการค้า

อย่างไรก็ตาม สตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นลูกความเลือกที่จะยุติข้อพิพาทนี้อย่างสันติ โดยขอความร่วมมือให้ส่งหนังสือตอบกลับมาภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ โดยระงับและยุติการละเมิดเครื่องหมายทางการค้า และไม่หวนกลับมาใช้ชื่อและเครื่องหมายการค้าดังกล่าวที่คล้าย หรือเกี่ยวข้องกับชื่อและเครื่องหมายการค้าอีก โดยให้ถอดและทำลายสินค้าที่มีอยู่ ป้าย และวัสดุโฆษณาทั้งหมดทันที ทั้งที่จับต้องได้และที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการตกแต่งในร้านกาแฟ เมนูเครื่องดื่ม สติกเกอร์ แผ่นพับ ฉลาก ใบปลิว และวัสดุอื่นๆ ที่ใช้คำว่า Starbucks Coffee ในรูปวงกลมสีเขียวภายใน 7 วัน

เมื่อดำเนินการแล้วให้ส่งมอบรูปถ่ายอันเป็นหลักฐานแสดงว่าท่านได้ดำเนินการดังกล่าวแล้วให้กับบริษัทโดยทันที และตกลงว่าจะไม่ยื่นคำขอเครื่องหมายจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า หรือชื่อบริษัทใดๆ ที่เหมือนคล้ายกับเครื่องหมายการค้าลูกความ ซึ่งได้กำหนดภายในวันที่ 26 ต.ค.นี้ หากไม่ได้รับคำตอบภายใน 7 วัน ลูกความขอสงวนสิทธิในการดำเนินการตามกฎหมาย

อนึ่ง บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) แจ้งกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่าใช้ทุนจดทะเบียน 505 ล้านบาท ขายกาแฟแก้วละกว่า 100 บาทขึ้นไป ส่วนร้านสตาร์บัง ทุนทำร้านรถมอเตอร์ไซค์เร่คันละกว่า 1 หมื่นบาท ขายกาแฟแก้วละ 20-30 บาท