พท.เบรกท้องถิ่นต้านนโยบายป.ตรีหมื่นห้า

"เพื่อไทย" เบรก "สทท.-บิ๊กอบต." ฮือต้านนโยบายป.ตรีหมื่นห้า อ้างฝ่ายบริหารเตรียมช่วยเหลือเทงบท้องถิ่นแล้ว

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย(ส.ท.ท.)และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 6,200 ล้านบาทให้กับท้องถิ่น ตามนโยบายขึ้นเงินเดือนผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาท หากรัฐบาลไม่ดำเนินการจะเดินหน้ารณรงค์ให้ท้องถิ่นทั่วประเทศไม่ทำตามนโยบายของรัฐบาลว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังอยู่ในช่วงดำเนินการ โดยฝ่ายบริหารกำลังเตรียมการช่วยเหลือ อยากให้ใจเย็นลงก่อน การที่ออกมากดดันรัฐบาลให้ปฏิบัติตามจะกลายเป็นเกมการเมือง ถึงแม้ทราบว่าทางสมาคมท้องถิ่นทำด้วยใจ แต่จะให้รัฐบาลทำทันทีคงไม่ได้ ต้องอย่าลืมเหตุการณ์น้ำท่วมปี 54 ส่งผลกระทบต่อประเทศเป็นอย่างมาก รัฐบาลจึงต้องนำงบประมาณมหาศาลมาบริหารจัดการฟื้นฟูและป้องกันปัญหาอุทกภัย     

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า อย่าเพิ่งไปตั้งธงกำหนดเวลาและบีบบังคับรัฐบาล บ้านเมืองมีกฎหมาย ทุกฝ่ายก็หวังที่จะให้ประเทศเดินไปข้างหน้า เพียงแค่รอจังหวะเวลา  ทั้งนี้อยากขอให้เวลากับทางรัฐบาลและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในการขับเคลื่อนนโยบาย เพราะเรื่องนี้เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ ซึ่งต้องทำให้ได้ประโยชน์กับทุกฝ่าย          

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายประจักษ์ ภูแลขำ นายกเทศบาลตำบลโคกศรี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ขู่ว่าหากรัฐบาลไม่ให้คำตอบในการแก้ไขปัญหานโยบายปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาทภายในวันที่ 31 ส.ค. จะมาฆ่าตัวตายที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ว่า นายประจักษ์ออกมาแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึก ส่วนตัวแล้วอยากให้นายประจักษ์ใจเย็นก่อน การจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ต้องมาพูดคุยกันด้วยเหตุและผล พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลพร้อมที่จะรับฟังปัญหาของประชาชน เพื่อหาทองออกที่เป็นประโยชน์กับส่วนรวมและประเทศชาติ       

ส่วนกรณีที่นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า  รัฐบาลควรจะไปฆ่าตัวตายก่อนข้าราชการดีๆจะต้องมาจบชีวิตนั้น  นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า คำพูดของนายถาวร เป็นวาทะกรรมทางการเมือง ไม่มีหลักเหตุและผลทางความคิด เป็นถึงอดีตรัฐมนตรีและแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ต้องรู้ว่านโยบายประชานิยมใช้กันทุกพรรคและมีมากที่สุดในยุคที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ทั้งนี้นายถาวรยังทำเป็นความจำสั้น อย่างโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีก็ถูกกล่าวหาอย่างมากว่ามีการทุจริต และยังมีโครงการอีกหลายโครงการที่ส่อทำให้ประเทศชาติเสียหาย