ฮือฮา!เมรุวัดดังอยุธยาทาสีเขียวทั้งหลัง
เมรุเผาศพวัดเก่าแก่อยุธยาทาสีเขียวทั้งหลังพระอินทร์พาดวงวิญญาณขึ้นสวรรค์
เมรุเผาศพวัดเก่าแก่อยุธยาทาสีเขียวทั้งหลังพระอินทร์พาดวงวิญญาณขึ้นสวรรค์
ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่เข้าไปกราบนมัสการพระพุทธรูปโบราณและรูปหล่อสมเด็จพระจ้าตากสินในวัดเกาะแก้วริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหนึ่งในโครงการไหว้พระอยุธยามหามงคลต่างต้องฮือฮาหลังพบว่าโดยรอบวัดทาสีใหม่ไว้อย่างสวยงามเหลืองอร่าม ยกเว้นเพียงอย่างเดียวเมรุเผาศพของวัด ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณลานจอดรถและหากใครมาจอดรถก็จะต้องเห็นเมรุ ทางวัดได้ว่าจ้างช่างมาทาสีเมรุเก่าของวัดที่สร้างมานาน 20 ปี หลังถูกน้ำท่วมเมื่อปลายปี 54 จนชำรุดที่ฐานและมีการบูรณะเมรุใหม่พร้อมเตรียมการปรับภูมิทัศน์ใหม่ทั้งหมด โดยเมรุทั้งหลังได้ทาเป็นสีเขียว แม้กระทั้งปล่องเมรุมาถึงพื้นฐานของตัวเมรุ ยกเว้นส่วนของลวดลายซุ้มประตู ใบระกายังเป็นลวดลายสีทองและลูกบันใดและพื้นเมรุเท่านั้นที่ยังคงใช้สีวัสดุของเดิมเรียกว่ามองเห็นสะดุดมาแต่ไกลใครเห็นเป็นต้องทักว่าทำไมทาสีเขียวไม่เหมือนที่ไหนเพราะอะไร
พระสมชาย จิตตะธันโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเกาะแก้ว กล่าวว่า วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาเป็นสถานที่ตั้งประดิษฐานอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราชเพราะเคยเป็นที่ตั้งฐานทัพสมเด็จพระเจ้าตากเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดอีกแห่งหนึ่งอยู่ในโครงการไหว้พระ 99วัดของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปีที่ผ่านมาได้ถูกน้ำท่วมลึกกว่า 2 เมตรได้รับความเสียหายตัวอาคารศาสนสถานทั้งหมดทาสีเหลืองเหมือนทองเหลืองอร่ามใหม่ทั้งหมดยกเว้นเมรุที่ถูกน้ำท่วม โดยพระมหารุ่ง สุขุมาโร เจ้าอาวาสวัดได้ให้ทาสีใหม่เช่นเดียวกันแต่ไม่ให้ทาสีเหลือง ให้ทาสีเขียวพระอินทร์แทนบอกว่าเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจอดรถกราบไหว้พระเห็นแล้วมีความสดชื่น ดูสดใสและที่สำคัญสีเขียวเป็นสีของพระอินทร์ที่สถิตย์อยู่บนสรวงสวรรค์ศพที่เผาจะได้ขึ้นสรวงสวรรค์ไปด้วยขณะนี้เพิ่งทาสีเสร็จยังไม่ได้ประกอบพิธีเผาศพใครเลยโดยเฉพาะเมรุเสียคาแรงไปกว่า 70,000บาท ค่าสีเกือบ 50,000 บาท
ทั้งนี้หลังจากนี้จะปรับภูมิทัศน์รอบเมรุใหม่ทั้งหมดจะปลูกเป็นสวนหย่อมให้เหมือนสวนสวรรค์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในวัดจอดรถแล้วมีความสุขเรียกว่ามาที่วัดมองเมรุหรือเดินเข้ามาที่เมรุจะไม่หวั่นกลัวหรือเกรงกลัวเหมือนเมรุทั่วไปและสามารถเดินเข้ามาเที่ยวชมได้อย่างสายใจ ส่วนอนาคตจะมีการพัฒนาเตาเผาที่ปัจจุบันเป็นเตาเผาศพด้วยถ่านให้เป็นเตาเผาศพปลอดมลพิษด้วยเตาเผาไฟฟ้า


