posttoday

เร่งทำกายภาพหลวงพ่อคูณ

14 กรกฎาคม 2555

คณะแพทย์เร่งทำกายภาพบำบัดหลวงพ่อคูณ หวั่นแขน ขา หมดเรี่ยวแรง พร้อมระบุหลวงพ่อคูณยังไม่ผ่านวิกฤต คาด 14 วันหลังรับยาปฏิชีวนะ เตรียมประเมินอาการอีกครั้ง

คณะแพทย์เร่งทำกายภาพบำบัดหลวงพ่อคูณ หวั่นแขน ขา หมดเรี่ยวแรง พร้อมระบุหลวงพ่อคูณยังไม่ผ่านวิกฤต คาด 14 วันหลังรับยาปฏิชีวนะ เตรียมประเมินอาการอีกครั้ง

ความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ล่าสุดช่วงสายวันนี้ (14 ก.ค.2555) ที่ห้อง 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราชนครราชสีมา นายแพทย์พินิศจัย  นาคพันธุ์  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด และแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณฯพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ด้านกายภาพบำบัดเข้าตรวจอาการหลวงพ่อคูณฯ ทำกายภาพบำบัดด้วยการให้หลวงพ่อคูณฯ ยกแขนสองข้างขึ้นลง และกางแขน รวมทั้งยกขาซ้าย-ขวาประมาณ 20 นาที โดยหลวงพ่อคูณฯมีสีหน้าสดชื่น อารมณ์ดี ตอบสนองต่อการรักษาให้ความร่วมมือตามที่แพทย์บอกได้เป็นอย่างดี

นพ.พินิศจัย กล่าวว่า อาการหลวงพ่อคูณถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆในช่วงนี้ ไข้ลดลงเกือบหมดแล้ว แต่ยังเหลือไข้นิดหน่อยหรือไข้ต่ำๆ โดยส่วนใหญ่จะไม่มีไข้แล้ว ตอนนี้ท่านพูดคุยรู้ตัวรู้เรื่องก็ถือว่าค่อนข้างดี วันนี้คณะแพทย์ได้ทำกายภาพทั่วๆไปอยู่แต่บนเตียงไปก่อน เพราะช่วงนี้ยังไม่ได้ลุกเดิน สิ่งที่คณะแพทย์เป็นห่วงเป็นกังวลกับภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะตามมาได้ภายหลังแทรกซ้อนติดเชื่อปอดอักเสบเฉียบพลันแล้วอย่างอื่นก็กังวลว่าจะแทรกซ้อนในระบบอื่นด้วย และถ้าจะเกิดการแทรกซ้อนอีกที่คณะแพทย์กลัวที่สุดก็กลัวไปทุกระบบ เพราะทุกระบบจะเชื่อมถึงกัน เช่น เวลาปอดมมีปัญหา ไข้สูง มันจะไปมีผลต่อความดัน หัวใจ และสมองด้วย มันเป็นลูกโซ่ก็ว่าได้ แต่ที่คณะแพทย์กลัวที่สุดคือ เรื่องของสมอง กับ หัวใจ ส่วนอาการซึมวันนี้(14ก.ค.55)ดีขึ้นมาก แต่ยังมีอาการอ่อนเพลียอยู่บ้าง แต่บางทีหลวงพ่อคูณตื่นจากจำวัดอารมณ์ดีก็ดูเหมือนไม่ซึม เช้าวันนี้ท่านมีอาการง่วงอยู่ เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาหลวงพ่อคูณจำวัดได้น้อย เพราะพูดคุยกับลูกศิษย์ที่ดูแลอยู่ตลอดเวลา ส่วนยาขยายหลอดลม ยาละลายเสมหะ และยาฆ่าเชื้อยังใช้เหมือนเดิมอยู่ต่อไป อย่างไรก็ตามหลวงพ่อต้องรับยาปฏิชีวนะไปจนครบ 14 วันคงต้องขออนุญาตงดเยี่ยมก่อนเหมือนเดิม และขณะนี้หลวงพ่อดีขึ้นชัดเจน ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไรท่านจะดีขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากให้ยาครบ 14 วันแล้วคงจะพิจารณาเรื่องการที่หลวงพ่อคูณ จะได้กลับวัดบ้านไร่เมื่อไหร่ ส่วนแนวทางระยะยาวเราวางไว้ค่อนข้างจะรัดกุมแล้ว แต่คงจะต้องมีการปรับปรุงบางอย่างเพื่อให้มันกระชับขึ้น ส่วนการรักษาในแง่ของการรักษาคณะแพทย์คิดว่ามาถูกทางแล้ว และพอใจในผลการรักษา ถ้าไม่มีอะไรที่ทำให้โชคร้ายมีภาวะแทรกซ้อนหลวงพ่อคูณน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ