มนพร เผย นายกฯทูลเกล้าฯ รมว.ต่างประเทศแล้ว ครูมานิตย์ ชี้ ชลน่าน น้อยใจ โดนปลด

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ควบตำแหน่งรองนายกฯ จะทำให้การทำงานในกระทรวงง่ายขึ้นหรือไม่ว่า การรับตำแหน่งรองนายกฯ ของนายสุริยะ จริงๆแล้วในกระทรวงมีการแบ่งงานรัฐมนตรีช่วยทั้ง 2 คนแล้ว นายสุริยะ ดูแลกระทรวงอื่นๆด้วย งานภายในกระทรวงไม่สะดุดอะไร ประเด็นที่สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนและดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงคมนาคมทุ่มเททำงานมาโดยตลอด

การเพิ่มงานที่ได้รับมอบหมาย เชื่อว่านายสุริยะทำได้ดี เพราะเคยดำรงตำแหน่งรองนายกฯ มาก่อน จากการเดินทางไปต่างประเทศกับนายกรัฐมนตรีบ่อยๆ จะหาสิ่งแปลกใหม่มาพัฒนาประเทศ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะเชื่อมโยงรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
 

นางมนพรกล่าวถึงกรณีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ ที่มีการมองกันว่า จะมีแรงกระเพื่อมภายในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า ตำแหน่งทางการเมืองมีทั้งคนเข้าและคนออก ขอส่งกำลังใจให้รัฐมนตรีที่ไม่ได้รับตำแหน่ง การเป็นนักการเมืองต้องยอมรับสภาพ ในสิ่งที่เราได้รับมอบหมายงาน สาระสำคัญคือการทำหน้าที่เพื่อประชาชน ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ทุกคนที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยก็จะต้องร่วมไม้ร่วมมือกับรัฐบาล คนที่เป็นสส.ก็จะต้องทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง

"นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้ทูลเกล้าฯ รมว.การต่างประเทศคนใหม่แล้ว เข้าใจว่าคนที่ออกไปและคนที่เข้ามาใหม่ ก็ทุ่มเทการทำงานให้กับรัฐบาลและประชาชน"นางมนพรกล่าว
 

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยหลังเดินทางมาให้กำลังใจ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ได้รับโปรดเกล้าฯดำรงตำแหน่ง รองนายกฯควบรมว.คมนาคม พร้อมกล่าวถึงกรณีนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ถูกปลดออกจากรมว.สาธารณสุข ทั้งที่เป็นกำลังสำคัญของพรรค ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาว่า นพ.ชลน่าน เป็นนักการเมืองมายาวนาน เจอบรรยากาศแบบนี้ เชื่อว่า เข้าใจได้ วันหนึ่งอาจจะได้กลับมาทำหน้าที่อีก ตนกับนพ.ชลน่าน เป็นนักการเมืองรุ่นเดียวกัน 

ที่ผ่านมาพยายามติดต่อให้กำลังใจเขา แต่ก็ติดต่อไม่ได้ คนที่เข้ามาเป็นผู้บริหารแล้วเจอวิกฤต มันก็อาจน้อยใจบ้าง อาจเสียใจบ้าง ในเชิงการเมือง มันคือ สมบัติผลัดกันชม คนที่มาเล่นการเมืองทุกคนก็มีเป้า ที่จะเป็นเสนาบดีกันทั้งหมด ถามว่าอยากเป็นไหม เราก็อยากเห็นแสงไฟที่ปลายอุโมงค์เหมือนกัน

นายครูมานิตย์กล่าวว่า ตนเป็นคนสนิทกับหมอชลน่าน คนหนึ่ง แต่เขาคงยังไม่สะดวก จึงยังติดต่อไม่ได้ ทั้งนี้คนที่ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านอะไรมามากมาย เขาก็คงจะทำงานให้พรรคต่อไป ยังคิดถึงพรรคอยู่แล้ว 

ทุกคนที่เข้ามาสู่การเมือง คนที่โดนปรับ 2-3 ท่าน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสส. ไม่ว่าจะเป็นนายไชยา พรหมานายแพทย์ชลน่าน เรายังมีหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร และหมอเป็นรัฐมนตรีมาถึง 2 รอบแล้ว คิดว่าคุณหมอ เป็นนักการเมืองอาชีพไปแล้ว มาอยู่พรรคการเมือง 24- 25 ปีแล้ว ต้องทนรับในเรื่องราวเหล่านี้ เชื่อแบบนั้น และในพรรคเพื่อไทยไม่ได้แตกแยกอะไร